ในอดีตสถานะ คุณแม่ผ่าคลอด มักเกิดจาก ปัญหาทางสุขภาพระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งแพทย์พิจารณาแล้วว่า คุณแม่ไม่สามารถคลอดด้วยวิธีธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย ทว่าในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำมากขึ้น ช่วยให้การผ่าคลอดมีความปลอดภัยมากขึ้น คุณแม่จำนวนมาก จึงตัดสินใจผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ ส่งผลให้ตัวเลขการผ่าตัดคลอดของหญิงตั้งครรภ์ทั่วโลก ขยับสูงขึ้นถึงกว่า 90%
มาดูกันว่า เหตุผลยอดนิยมที่ทำให้ผู้หญิงหลายคน ตัดสินใจเป็น คุณแม่ผ่าคลอด มีอะไรบ้าง
5 เหตุผลยอดนิยมของ คุณแม่ผ่าคลอด

- หลีกเลี่ยงความเจ็บปวดระหว่างการคลอด คุณแม่หลายคนเลือกผ่าคลอดเพราะกังวลว่า การเจ็บท้องคลอดจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด และอันตรายต่าง ๆ นาน จึงทำให้หลายคนกลัวการเบ่งคลอด ประกอบกับ วิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความปลอดภัยมากขึ้น แม่จำนวนมากจึงตัดสินใจให้คุณหมอผ่าคลอดเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดเหล่านี้
- มีความเชื่อเรื่องฤกษ์ยาม หลายครอบครัวโดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย มีความเชื่อว่า เวลาคลอดที่ดีจะส่งผลดีกับอนาคตของลูกน้อย ถึงกับนำฤกษ์มงคลต่าง ๆ มาปรึกษาแพทย์ในการกำหนดวันผ่าคลอดให้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความปลอดภัยและความพร้อมของคุณแม่และทารกในครรภ์เป็นหลัก
- ปัญหาสุขภาพของคุณแม่และทารก อาทิ ทารกอยู่ในท่าก้น ทารกมีขนาดตัวใหญ่มาก ทารกมีศีรษะใหญ่กว่าอุ้งเชิงกรานแม่ ทารกอยู่ในภาวะวิกฤติ แม่มีภาวะรกเกาะต่ำ ตั้งครรภ์มากกว่า 1 คน ทารกเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณช่องคลอดของมารดา แม่มีประวัติการผ่าคลอดมาก่อน หรือพยายามคลอดเองแล้วแต่ไม่สามารถคลอดได้ ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้แพทย์ต้องตัดสินใจใช้วิธีผ่าคลอด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับแม่และทารกให้ปลอดภัยมากที่สุด
- อยากเจ็บตัวเพียงครั้งเดียว คุณแม่หลายบ้าน อาจตัดสินใจทำหมันทันทีที่คลอดน้อง แต่ไม่อยากเจ็บตัวหลาย ๆ รอบ จึงตัดสินใจผ่าตัดคลอด และทำหมันไปในการผ่าตัดเดียวกัน แม้จะทราบดีว่าแผลผ่าตัดคลอดต้องดูแลอย่างดี และใช้เวลารักษาแผลนานกว่าการคลอดธรรมชาติก็ตาม
- ครบกำหนดคลอดแล้ว แต่ทารกยังไม่คลอด การถูกเลื่อนคลอดหลาย ๆ ครั้ง หลังครบกำหนดคลอด หรือ มีอายุครรภ์เกิน 40 สัปดาห์ ก็ยังไม่คลอดซะที เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คุณแม่ตัดสินใจผ่าคลอด เพราะไม่ต้องการเดินทางมาโรงพยาบาลบ่อย ๆ อึดอัดอยากคลอดไวไว หรือกลัวว่าลูกจะเป็นอันตรายถ้าอยู่ในท้องนาน ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลยอดนิยมที่ทำให้คุณแม่ตัดสินใจให้คุณหมอผ่าคลอด
แต่ไม่ว่า คุณแม่ผ่าคลอด จะเลือกผ่าตัดคลอดด้วยเหตุผลใดก็ตาม อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของลูกน้อย เพราะการผ่าคลอด ทำให้ทารกพลาดโอกาสได้รับ จุลินทรีย์สุขภาพ หรือ โพรไบโอติก (Probiotic) ผ่านทางช่องคลอดของแม่ ซึ่งเจ้าจุลินทรีย์เหล่านี้ ช่วยให้ทารกมีภูมิต้านทานตั้งต้นดี ไม่เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะใน ช่วงแรกของชีวิต ที่ระบบภูมิต้านทานยังพัฒนาได้ไม่เต็มศักยภาพนัก

คุณแม่ผ่าคลอดอย่างเรา สามารถ คืนภูมิต้านทานตั้งต้น ให้ลูกน้อยด้วย นมแม่ ที่อุดมด้วย ซินไบโอติก (Synbiotic) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของ โพรไบโอติก (Probiotic) จุลินทรีย์สุขภาพ ที่ลูกรักไม่ได้รับตอนผ่าคลอด และ พรีไบโอติก (Prebiotic) หรือ ใยอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ ที่ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์สุขภาพในระบบทางเดินอาหาร จึงช่วยให้มีระบบภูมิต้านทานแข็งแรง เช่นเดียวกับ เด็กคลอดธรรมชาติได้ค่ะ
พูดคุยตามประสา คลับแม่ผ่าคลอด คลิก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!