5 สารอาหารที่คนท้องควรได้รับก่อนคลอด สำคัญอย่างไร มีสารอาหารอะไรบ้าง

สารอาหารที่คนท้องควรได้รับก่อนคลอด สารอาหารที่จำเป็นสำหรับคนท้อง สำหรับแม่ๆ คนท้องที่ท้องแก่ใกล้คลอดแล้วต้องรู้ ถ้าอยากให้ลูกในท้องแข็งแรงสมบูรณ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5 สารอาหารที่คนท้องควรได้รับก่อนคลอด 

ร่างกายของผู้หญิงเมื่อตั้งครรภ์ก็มักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อทารกในครรภ์ แม้แต่เลือด และสารอาหารของแม่ก็มักจะถูกแบ่งไปให้กับเจ้าตัวเล็กอยู่เสมอ ทำให้ครท้องต้องบำรุงร่างกายเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่คุณแม่มีสารอาหารเหล่านั้นไม่เพียงพอ ทารกก็จะพยายามดึงมาจากแม่ ทำให้คุณแม่เกิดอาการต่างๆ เช่น เลือดออกตามไรฟัน ตะคริว เป็นต้น ดังนั้น ถ้าคุณแม่อยากให้ลูกน้อยแข็งแรงจำเป็นต้องกินอาหารที่มี สารอาหารที่คนท้องควรได้รับก่อนคลอด เข้าไป แต่ว่าจะมีสารอาหารอะไรบ้าง และมีประโยชน์อย่างไร มาดูกันค่ะ

คนท้องจำเป็นต้องรับสารอาหารหลายชนิดเพื่อสุขภาพของตัวเอง และลูกในท้อง

1.โฟเลต

ในบรรดาของวิตามินบี โฟเลต หรือ B9 ถูกเรียกรวมๆ ว่าโฟเลต คุณแม่คงคุ้นหูกับสารตัวนี้เป็นอย่างมาก เพราะคุณแม่มักจะให้ทานเสริมอยู่เป็นประจำ เนื่องจากโฟเลตนี้มีส่วนช่วยป้องกันการบกพร่องของระบบประสาทในทารก และโรคโลหิตจาง นอกจากนี้ ยังป้องกันอาการบาดเจ็บของสมอง และไขสันหลังสำหรับทารกน้อยอีกด้วยค่ะ

อาหารที่มีโฟเลตสูง ได้แก่ ข้าวโพด บล็อกโคลี่ อะโวคาโด้ ดอกกะหล่ำ แครอท เมล็ดธัญพืช ผักโขม คะน้า ถั่วต่าง ๆ กะหล่ำปลี ผักกาดหอม มะเขือเทศ

2.ธาตุเหล็ก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ระดับธาตุเหล็กส่งผลต่อคนท้องเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ธาตุเหล็กต่ำจะก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น โรคโลหิตจาง ที่เกิดจากการที่เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอ หรืออาจถึงขั้นร้ายแรงที่ส่งผลในระหว่างคลอดได้ ไม่เพียงแค่นั้น การขาดเซลล์เม็ดเลือดแดง หรือการที่มีเซลล์เม็ดเลือดปดงผิดปกติไปจากเดิม อาจก่อให้เกิดการลดการไหลเวียนของออกซิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกายของคุณแม่ และลูกน้อยค่ะ หากคุณแม่ไปพบคุณแม่เป็นประจำ คุณแม่ก็จะให้วิตามินมาเสริม เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปนะคะ

อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เลือดวัว เลือดหมู อาหารประเภทเนื้อสัตว์ กระถินยอดอ่อน ขี้เหล็ก ใบชะพลู ดอกโสน ต้นหอม ผักกะเฉด ผักกาดหอม มะเขือพวง มะเขือเทศ ใบย่านาง เต้าหู้ เต้าเจี้ยว เมล็ดฟักทอง อาหารประเภทถั่ว อาหารทะเล ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลากดทะเล นมผง ไข่แดงเป็ด ไข่แดงไก่ ไข่เป็ด ไข่มด

3.แคลเซียม

ในช่วงตั้งครรภ์ แคลเซียม มักจะถูกดึงไปใช้ในปริมาณมากเพื่อนำไปเสริมสร้างการเจริญเตอบโตของลูกน้อยในครรภ์ รวมถึงพัฒนาการของกระดูกของทารก คุณแม่จึงจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมในปริมาณมากพอที่จะช่วยป้องกันร่างกายของคุณแม่ไม่ให้สูญเสียมวลกระูก และป้องกันการเกิดตะคริวด้วย นอกจากนี้ แคลเซียม ยังช่วยสนับสนุนระบบการไหลเวียนเลือด เสริมสร้างกล้ามเนื้อ การแข็งตัวของเลือด และการจังหวะการเต้นของหัวใจด้วยค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ ปลาตัวเล็กตัวน้อย เช่น ปลาข้าวสาร ปลากะตัก บร็อกโคลี คะน้า ผักโขม แครอท แคนตาลูป ไข่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล

4.วิตามินดีธัญพืชจำพวกถั่ว

สำหรับวิตามินดีจะส่งผลต่อระบบความดันเลือด การทำงานของสมอง ระบบภูมิคุ้มกัน และอารมณ์ของคุณแม่ หากคุณแม่ขาดวิตามินดี จะทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกในทารกผิดปกติไป และเกิดการแตกหักง่ายอีกด้วย ทั้งยังเกิดโอกาสเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ระหว่างคลอดของหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้น คุณแม่ควรได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอนะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อาหารที่ให้วิตามมินดีสูง ได้แก่ น้ำมันตับปลา ปลาเทราท์ ปลาแซลมอล ปลาทู ปลาทูน่า ปลาซาดีน นมสด ไข่ไก่ เนื้อหมูสับ เนื้อไก่ เห็ด

ปลาแซลมอน อาหารที่หลายๆ คนชื่นชอบ ก็มีวิตามินดีเช่นกัน

5.ไอโอดีน

ไอโอดีนมีความสำคัญต่อทารกและคนท้องเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนต่อมไทรอยด์ของทารกที่ได้รับจากคุณแม่โดยตรงจะเริ่มทำงาน ซึ่งเจ้าฮอร์โมนนี้ มีส่วนสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานของสมอง รวมถึงการพัฒนาสมองอีกด้วย เพราะหากเมื่อไหร่ที่คุณแม่ขาดไอโอดีน การพัฒนาสมองก็จะลดลง และทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างคลอดของคุณแม่โดยง่ายค่ะ ฉะนัน คุณแม่ควรได้รับไอโอดีนในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อหลีกเลี่ยงการบกพร่องของทารก

อาหารที่มีไอโอดีนสูง ได้แก่ ปลากระบอก ปลาทูนึ่ง สาหร่ายสำหรับทำแกงจืด กุ้งทะเล ไข่ไก่ ที่สำคัญควรใช้เกลือทะเล/เกลือที่เสริมธาตุไอโอดีนปรุงอาหาร ก็จะช่วยบำรุงสมอง และส่งเสริมความฉลาดของลูกในท้องได้

The Asianparent Thailand เพื่อลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรกมาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2  มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น The Asianparent  นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแลทั้งอาหารการกินโดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้หรือทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคลทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ


souce หรือ บทความอ้างอิง : americanpregnancy

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

ท้องแก่สามารถปั๊มนมก่อนคลอดได้ไหม ปั๊มนมให้ลูกก่อนเป็นอันตรายหรือเปล่า

ท้องลดก่อนคลอด อาการท้องลด เป็นอย่างไร ท้องลดตอนกี่สัปดาห์ ท้องลดคือใกล้คลอด จริงไหม

การเตรียมตัวก่อนคลอดธรรมชาติ คลอดเองเตรียมตัวอย่างไร คลอดธรรมชาติอันตรายไหม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Khunsiri