จิ๊มิ 5 ประเภท รวมถึงจิ๊มิในตำนาน จิ๊มิของคุณเป็นแบบไหนกันนะ

จิ๊มิ 5 ประเภท รวมถึงจิ๊มิในตำนาน อ้าขา เอากระจกส่อง ของคุณเป็นแบบไหนกันนะ จิ๊มิทั้ง 5 แบบที่ไม่รู้อาจเสียใจ จิ๊มิของคุณเป็นส่วนใหญ่หรือส่วนน้อยกันนะ

จิ๊มิ 5 ประเภท รวมถึงจิ๊มิในตำนาน อ้าขา เอากระจกส่อง จิ๋มนูน ของคุณเป็นแบบไหนกันนะ เมื่อก่อนก็รู้แค่ว่ามีจิ๊มิในอุดมคติกับจิ๊มิปกติ กลีบอูฐโผล่ไม่รู้ตัว เเต่ไม่ยักกะรู้เลยว่า มีถึง 5 ประเภทเลยทีเดียว

 

จิ๊มิ 5 ประเภท รวมถึงจิ๊มิในตำนาน อ้าขา เอากระจกส่องโหนกจิ๋มดูซิ ของคุณเป็นแบบไหนกันนะ

 

1. สาวบาร์บี้

จะบอกว่าเป็นจิ๊มิในอุดมคติของชายหลายคนก็คงไม่ผิดค่ะ เนื้อนวลที่แนบสนิทราวกับเป็นจิ๊มิเวอร์จิ้นที่ไม่เคยผ่านศึก กลีบที่แนบสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือชาย เเต่มันคือลักษณะของจิ๊มิประเภทนี้นะคะ ไม่ใช่ว่าสดๆ ซิงๆ จะเป็นแบบนี้ทั้งหมด อย่าเข้าใจผิด สาวๆ ที่เป็นเจ้าของจิ๊มิแบบนี้ ดีใจด้วยค่ะ คุณเป็นที่อิจฉาของสาวๆ และเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ

 

2. สาวอล่างฉ่าง

เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งเบ้หน้ากันไป การที่อะไรต่อมิอะไรเหมือนจะเปิดหน้าต่างมาเซย์ไฮ ไม่ได้บ่งบอกว่าสาวนางนี้ผ่านศึกมาอย่างช่ำชอง แต่มันคือลักษณะของจิ๊มิเเบบนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งจะพบบ่อยกว่าจิ๊มิของสาวบาร์บี้เเน่นอน

 

3. สาวโหนกนูน จิ๋มโหนก จิ๋มนูน

สาวโหนกใหญ่ จิ๋มโหนก จิมิโหนก ที่มีความอวบอิ่มกำลังพอดีมือ ด้วยกระดูกหัวหน่าวที่ใหญ่กว่า กลีบอูฐโผล่ไม่รู้ตัว ทำให้สาวๆ ที่มี จิ๋มใหญ่ จิ๊มิแบบนี้ใส่เลคกิ้งได้สวย เนื่องจากลักษณะที่แนบชิดเเล้วยังมีความอวบอิ่มเพิ่มเข้ามาด้วย

 

4. สาวทิวลิป

จิ๊มิที่ชื่อเพราะพริ้งที่สุดใน 5 แบบ ซึ่งลักษณะก็ตรงตามชื่อ เหมือนดอกทิวลิปวัยแรกแย้มที่กำลังผลิบานนั่นเอง กลีบแคมทั้งสองข้ามโผล่มาทักทายเเต่พองาม ทำให้ดูน่าลุ้น น่าค้นหา

 

5. สาวเกือกม้าหรือกีบอูฐ

จะว่าเป็นจิ๊มิในตำนานก็ว่าได้ สำหรับสาวเจ้าของจิ๊มิที่มีลักษณะโหนกนูนและอวบอิ่มสุดๆ สาวๆ ที่มีลักษณะจิ๊มิแบบนี้คงกังวลน่าดูกับการเลือกใส่กางเกง เพราะไม่ว่ากางเกงจะหลวมสักเพียงใด จิ๊มิก็โผล่ลักษณะเด่นมาทักทายทุกครั้งไป จิ๊มิลักษณะนี้ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ นะคะ เพราะความอวบอิ่ม จิ๋มอูม ที่เด็ดดวงและเด่นขนาดนี้ หายากถึงยากมากค่ะ เเต่อย่าเซ็งไปค่ะสาวๆ มันไม่ใช่ปมด้อยและอาจจะเป็นจุดเด่นของคุณ เพราะหนุ่มๆ เขาชอบนักแล

 

แล้วทีนี้เราจะดูแลอวัยวะเพศหญิงให้สะอาดและมีสุขภาพดีได้อย่างไร ?

การรักษาสุขภาวะของอวัยวะเพศหญิงให้สะอาดอย่างเหมาะสม สามารถทำได้ตามแนวทางต่อไปนี้

 

  • ไม่สวนล้างช่องคลอด

โดยทั่วไปแล้วค่าความเป็นกรดด่างหรือค่า pH ในช่องคลอดจะอยู่ที่ 3.8-4.5 แต่การสวนล้างช่องคลอด การใช้สบู่ที่มีความเข้มข้นสูง และการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น อาจส่งผลต่อค่าความเป็นกรดด่างโดยลดสภาพความเป็นกรด และทำให้ปริมาณของแบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการติดเชื้อภายในช่องคลอดได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น และแป้งบริเวณช่องคลอดด้วย เพราะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

 

  • ดูแลสุขอนามัยบริเวณจุดซ่อนเร้น

หลังอุจจาระควรเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อแบคทีเรียและลดความเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนแผ่นอนามัยหรือผ้าอนามัยอยู่เสมอขณะมีประจำเดือน เพราะอาจเสี่ยงทำให้ปากช่องคลอดเกิดการระคายเคืองได้

 

  • เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัวหน่อยก็จะดี

การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นและเนื้อผ้าบางชนิดอาจทำให้เกิดความอับชื้นบริเวณจุดซ่อนเร้นจนเพิ่มจำนวนเชื้อราได้ง่าย ดังนั้น ควรเลือกซื้อกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย เนื่องจากระบายอากาศได้ดี และควรซักด้วยผงซักฟอกอ่อน ๆ โดยแยกซักกางเกงชั้นในจากเสื้อผ้าอื่น ๆ นอกจากนี้ ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีความอับชื้นออกทันที เช่น ชุดว่ายน้ำ หรือชุดออกกำลังกาย เป็นต้น

 

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์บ้าง

การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการจะช่วยรักษาสุขอนามัยทางเพศได้ นอกจากนี้ อาหารบางชนิดอย่างโยเกิร์ตก็อาจมีประสิทธิภาพช่วยบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดได้เช่นกัน เนื่องจากโยเกิร์ตอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หรือโปรไบโอติกส์ (Probiotics) ที่อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอดได้

 

  • ควบคุมน้ำหนัก

ควรออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเสมอ เพื่อช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และความอับชื้นจากการมีไขมันส่วนเกินและน้ำหนักตัวที่มากเกินไป โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบด้านใน ทั้งนี้ อาจปรึกษาเทรนเนอร์หรือผู้เชี่ยวชาญในการบริหารร่างกาย เพื่อให้คำแนะนำในการลดน้ำหนักหรือลดต้นขาอย่างถูกต้อง

 

  • มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย 

การใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์อาจช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่น การติดเชื้อเอชไอวี โรคเริม ซิฟิลิส หนองใน และหูดที่อวัยวะเพศ เป็นต้น และควรเปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหลังการสอดใส่ทางทวารหนัก เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย

 

  • ใช้เจลหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ 

แม้ว่าช่องคลอดของผู้หญิงจะมีเมือกหล่อลื่นตามธรรมชาติเมื่อถูกกระตุ้นทางเพศ แต่การใช้เจลหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ก็อาจเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในบางกรณี เพราะอาจเกิดการระคายเคืองบริเวณแคมช่องคลอดและภายในช่องคลอดได้หากมีภาวะช่องคลอดแห้ง ซึ่งการใช้เจลหล่อลื่นจะช่วยลดการเสียดสีและบรรเทาอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้สารหล่อลื่นสูตรน้ำมันกับถุงยางอนามัย เพราะอาจทำให้ถุงยางแตกได้ นอกจากนี้ ห้ามใช้ปิโตรเลียมเจลลี่และเบบี้ออยล์แทนเจลหล่อลื่นเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค

 

  • ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งและตรวจภายใน

การเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งและการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอจะช่วยค้นหาความผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณการเจ็บป่วยซึ่งส่งผลกระทบต่อช่องคลอดและระบบสืบพันธุ์ได้ เช่น ตรวจหามะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งอวัยวะเพศ และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น โดยควรตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกครั้งแรกเมื่ออายุครบ 21 ปี เพื่อตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ช่องคลอดในระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก และควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกด้วย

 

  • รักษาการติดเชื้อ 

โรคติดเชื้อในช่องคลอดที่พบได้บ่อย คือ โรคเชื้อราในช่องคลอด ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย และการติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) ซึ่งการรักษาโรคเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้รู้สึกเจ็บ ไม่สบายตัว และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงตามมาได้

 


ที่มา Buzzfeed และ Catdumb

บทความที่น่าสนใจ

เช็คด่วน!!! ปิกาจู๊ 4 แบบ คุณสามีเป็นเเบบไหนกันนะ

จิ๋มเหม็น !!! ว๊ายยย แม่ท้องคนไหนเป็นมั่ง จิ๋มเหม็น แถมมีตกขาว แก้ไงดี

ทำความรู้จักโรคที่อาจเกิดได้ทุกเมื่อ โรคจิ๋มล็อก เกิดจากอะไร ต้องทำยังไงถ้าอยู่ ๆ จิ๋มล็อก

จุ๊ดจู๋ลูกชาย ทำความสะอาดอย่างไร ให้ถูกวิธี