หลังจากที่ลูกคลอดออกมา แม่ย่อมกังวลและพยายามป้องกันไม่ให้ลูกเกิดอันตราย เพราะทารกแรกเกิดร่างกายบอบบางมากๆ และมีหลายอย่างที่ต้องใส่ใจ มาดูสิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดกับเด็กแรกเกิด แม่ๆ และคนในครอบครัวจะได้ระวังกันมากขึ้น
1.ไม่ควรให้เด็กแรกเกิดนอนหลับด้วยท่านอนคว่ำ
Sudden infant death syndrome (SIDS) อาการที่น่ากลัว โดยลูกน้อยจะหลับไม่ตื่น หรือโรคไหลตายในทารก โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กแรกเกิดเสียชีวิตคือการนอนคว่ำ ดังนั้น เวลาที่ลูกนอนหลับแม่ต้องจับลูกนอนหงาย ลูกจะหายใจเอาปริมาณออกซิเจนได้ดีกว่า และเมื่อลูกตื่นค่อยฝึกให้ลูกนอนคว่ำ เพื่อพัฒนาการเคลื่อนไหวของลูก ฝึกการใช้กล้ามเนื้อคอ แขน ขา และลำตัว
2.ไม่ควรให้คนอื่นจูบหรือหอมแก้มลูกบ่อยๆ
ทั้งแบคทีเรียและเชื้อโรคเป็นอันตรายต่อตัวลูก การจูบและหอมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรงได้ โดยเฉพาะหลังจากคลอดเพียงไม่กี่สัปดาห์ เพราะร่างกายของลูกยังไม่แข็งแรงพอ แม้แต่การสัมผัสตัวโดยไม่ล้างมือ ก็ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้แล้ว เพราะระบบภูมิคุ้มกันของลูกยังไม่สามารถปกป้องตัวลูกได้ ทางที่ดีควรบอกคนอื่นๆ อย่างสุภาพว่า คุณกังวลเรื่องนี้
3.ไม่ยอมเปลี่ยนผ้าอ้อมที่เปื้อน
เด็กแรกเกิดจะปัสสาวะบ่อยๆ แม่ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมอยู่เสมอ เพราะในปัสสาวะมีแบคทีเรีย ทำให้ผิวที่บอบบางของลูกน้อย เกิดอันตรายได้ จึงควรจะเปลี่ยนผ้าอ้อมทุกๆ 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกสบายตัว ไม่ร้องโยเย และช่วยป้องกันการเป็นผื่นผ้าอ้อมได้ด้วย
4.ไม่ควรแต่งตัวให้ลูกหนาเกินไป
เพราะเด็กแรกเกิดพูดไม่ได้ บางครั้งอยู่ในบ้านแม่จึงไม่แน่ใจว่า อุณหภูมิเท่านี้ลูกหนาวเกินไปหรือเปล่า จนเผลอใส่เสื้อให้ลูกหนาๆ หรือหลายๆ ชิ้น แต่การใส่เสื้อผ้าที่หนาเกินไป อาจจะทำให้ลูกเป็นไข้และทำให้ร่างกายลูกขาดน้ำ และการใส่เสื้อผ้าที่หนาหรือหลายชิ้น ยังเสี่ยงต่อโรคโรคไหลตายในทารก Sudden infant death syndrome (SIDS) เพราะร่างกายของลูกร้อนเกินไป ดังนั้น แม่ควรสวมใส่ชุดที่พอดี สามารถถอดได้ง่าย และสังเกตอาการของลูกน้อยอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัย
ที่มา : ph.theasianparent.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ให้ลูกกิน นมแม่ ลดอัตราการเสียชีวิตของทารก
ภาวะตัวเหลืองในเด็กแรกเกิด ป้องกันได้ไหม?