ทำไงให้ลูกสุขภาพดี วิธีที่จะเลี้ยงลูกน้อยของคุณให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ
สุขภาพดี ทำได้ง่าย ๆ เรามาดูกันว่า ทำไงให้ลูกสุขภาพดี มีอีกหลากหลายวิธีที่เราจะช่วยคุณได้
ลูกของคุณมักจะมีเพื่อนหนึ่ง หรือ สองคนที่มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
อาการสูดจมูกบ่อย ๆ อาการไอ หรือเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจมาจากพวกเขา และ ทำให้คุณต้องตัวงอทุกครั้งที่ลูกของคุณเล่นกับเพื่อน ๆ ของเขา
หรือ …ลูกของคุณเองอาจเป็นสาเหตุที่พ่อแม่ของเด็กคนอื่นอาจไม่อยากให้ลูกของพวกเขาเข้าใกล้ เนื่องจากลูกของคุณป่วยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกของคุณมีความไวต่อการป่วยอยู่ตลอดเวลา?
ทำอย่างไรให้ลูกของคุณมีสุขภาพที่ดี มีอีกหลากหลายวิธี ที่เราจะช่วยคุณได้
สิ่งที่ควบคุมสุขภาพของลูกคุณนั้นมาจากวิถีการใช้ชีวิตของเขาในแต่ละวัน ไม่วาจะเป็น….
การพักผ่อนที่เพียงพอ: เด็กวัยหัดเดิน และ วัยก่อนเข้าโรงเรียนนั้น จำเป็นต้องนอนประมาณวันละ 10-12 ชั่วโมง (รวมทั้งการนอนกลางวันด้วย) เด็กในวัยประถมศึกษานั้นต้องนอนประมาณ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน และเวลานอนของพวกเขาควรสอดคล้องกันในแต่ละคืนด้วย
อาหาร: เด็ก ๆ ต้องการอาหารที่มีคุณค่าของโปรตีนสูง (เพื่อการสร้างร่างกาย จำพวกอาหารหมู่ที่ 1 ) นอกจากนี้พวกเขายังต้องการผักผลไม้สด คาร์โบไฮเดรต ธัญพืช และไขมันที่ดีจากนมหรือถั่ว นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพรากขนมขบเคี้ยวหรือลูกอมไปจากลูกของคุณโดยสิ้นเชิง ของเหล่านี้อาจได้รับการยกเว้นให้รับประทานได้ในบางครั้งคราว
ออกจากบ้านบ้าง: นั่นหมายความว่าอย่าให้ลูกของคุณใช้เวลาในการเล่นคอมพิวเตอร์ ดูโทรทัศน์ หรือขลุกอยู่ในห้องนานเกินไป ควรบอกให้ลูกออกไปข้างนอกเพื่อรับอากาศที่สดชื่นหรือแสงแดดบ้าง คุณควรหาอุปกรณ์ที่สนับสนุนการทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ลูกบอล จักรยาน ชิงช้า เชือกกระโดด และอุปกรณ์กิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ แสงแดดอ่อน ๆ จะช่วยในการสังเคราะห์วิตามินดี และการได้รับอากาศที่สดชื่นพร้อมทั้งการได้ออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
ให้เขาเลอะบ้าง: คุณไม่ควรวิตกมากเกินไปหากลูกของคุณจะเลอะเทอะบ้าง อย่าวิ่งตาม เพื่อล้างทำความสะอาดเขาในทุกครั้งที่เขาออกไปเล่นข้างนอก การเลี้ยงลูกไม่ให้โดนสิ่งสกปรกเลยเหมือนกับเป็นการให้เขาทานยาปฏิชีวนะตลอดเวลา ร่างกายของเราถูกออกแบบมาให้สู้กับจุลชีพ “ฉันยังไม่เคยเห็นด็กเสียชีวิตจากการกินดินเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเอามือจับหน้าตัวเองหลังจากเล่นกับสุนัข หรือแม้กระทั่งการเข้าไปเล่นในบ้านของสุนัขเลย”
อ่านวิธีให้ลูกมีสุขภาพดีหน้าถัดไป >>>
ล้างมือ: ควรปฏิบัติเป็นประจำก่อนการรับประทานอะไรก็ตาม หรือ หลังการเข้าห้องน้ำ หรือหลังกลับจากสถานที่สาธารณะ (เช่น สวนสาธารณะ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ)
สอนลูกในการใช้ห้องน้ำ: สอนให้ลูกของคุณรู้จักการใช้ห้องน้ำสาธารณะ ให้ใช้ที่นั่งชักโครกทุกครั้งหากมี และสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ในห้องน้ำสาธารณะให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
สอนลูกคุณว่าอย่าใช้ของบางอย่างร่วมกับคนอื่น: เช่น หลอดดูด แก้ว หรือภาชนะสำหรับรับประทานอาหาร
เหา: คุณอาจสอนให้ลูกของคุณไม่ใช้หมวก หวี หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับผมต่าง ๆ กับเพื่อน ๆ ของเขา เพื่อป้องกันการติดเหา
ภูมิคุ้มกัน: ควรให้ลูกของคุณรู้เกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องเขาเอง
วิตามินเสริม: หากลูกคุณได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ คุณควรให้วิตามินเสริมกับเขา
อย่าให้ยามากเกินไป: หากลูกของคุณมีอาการสูดจมูกหรือไอเล็กน้อย ให้ธรรมชาติบำบัดตัวเขาเอง ให้เวลาในการที่ร่างกายของเขาจะดีขึ้นสัก 2-3 วัน (นอกเสียจากว่าอาการของเขาจะแย่ลง)
ให้บ้านของคุณระบายอากาศ: อย่ากลัวการให้อากาศจากภายนอกถ่ายเทเข้ามาในบ้านบ้าง ควรเปิดหน้าต่างเพื่อรับลม ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านสามารถช่วยฟอกอากาศให้คุณได้
เล็กน้อยแต่สำคัญ
คุณควรผ่อนคลายบ้าง ปล่อยให้ลูกคุณเป็นเด็กตามประสาของเด็ก ให้ร่างกายเขาได้ทำให้สิ่งที่ควรทำ นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด การปกป้องไม่ให้ลูกของคุณโดนอะไรเลย นั่นเท่ากับเป็นการพรากลูกของคุณจากการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสำหรับตัวเด็กเอง และ จะทำให้ระบบไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ เอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และ สื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนุบสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็งเพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
Source : https://www.verywellfamily.com/how-to-raise-a-good-child-620110
พัฒนาการของเด็กวัยหัดเดิน ช่วงอายุ 12-18 เดือน มีอะไรบ้าง?
เลี้ยงลูกแบบไม่ดุ ได้ผลดีกว่า ทำไมการเลี้ยงลูกแบบเข้าใจถึงเป็นทางที่ดีกว่า
เลี้ยงลูกยุคใหม่ ต้องไม่ตี วิจัยเผย ยิ่งตีลูกยิ่งทําให้ลูกคิดไม่เป็น ลูกเป็นซึมเศร้า