12 วิธีกระตุ้นการเคลื่อนไหวของทารก
12 วิธีกระตุ้นการเคลื่อนไหวของทารก เป็นแบบฝึกการเคลื่อนไหวของเด็กเล็ก เพื่อช่วยกระตุ้นให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องทำทุกท่าก็ได้นะคะ เพียงแค่เลือกมาอย่างน้อย 5 ท่า สำหรับกิจกรรมบริหารร่างกายส่วนเพื่อสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ รวมถึงการเชื่อมประสานระหว่างมือและตาด้วยค่ะ โดยมีทั้งหมด 12 กิจกรรม ดังต่อไปนี้
1.Baby Happy
ท่านี้ทำได้ไม่ยากค่ะ โดยเริ่มจากให้ลูกนอนหงาย จากนั้นคุณแม่ค่อยๆ ดันขาลูกขึ้นมาบนอากาศ แล้วปล่อยให้ลูกจับขาตัวเองดังภาพ แล้วแกว่งไปแกว่งมา หากลูกน้อยยังทำไมไม่ก็ไม่เป็นไรค่ะ คุณแม่อาจช่วยลูกน้อยได้ ท่านี้จะเป็นการบริหารช่วงสะโพกและยังเป็นการช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารในเด็กได้ดีอีกด้วยค่ะ
2.Downward Dog
ท่านี้อาจจะต้องรอให้ลูกน้อยมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน่อย โดยช่วงอายุที่เหมาะสมคือ 6-10 เดือนขึ้นไป หรือช่วงที่ทารกเริ่มคลานนั่นเองค่ะ ท่านี้ทำได้ไม่ยากเพียงแค่ให้ลูกน้อยวางมือทั้งสองลงที่พื้น ในท่าคว่ำหน้า จากนั้นก็ดันก้นขึ้นดังภาพ คุณแม่อาจต้องทำให้ลูกน้อยดูก่อนแล้วให้ลูกน้อยเลียนแบบตาม
3.Butterfly Twist
ท่านี้เด็กๆ คงไม่รู้ว่าคุณกำลังออกกำลายกายให้เขาแน่ๆ เพราะน้องน่าจะคิดว่าคุณพ่อคุณแม่เล่นกับเขาอยู่ สำหรับวิธีการบริหารเริ่มจากวางลูกน้อยนอนหงายลงที่เบาะจับขาของน้องดันไปที่ท้องอย่างช้าๆ โดยที่แขนอยู่ข้างลำตัว จากนั้นค่อยๆ จับขาแยกออกทั้งสองข้าง คล้ายกับผีเสื้อกำลังกางปีกบิน ท่านี้จะช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้เป็นอย่างดี
4.Tummy Time
ท่านี้จะเป็นการออกกำลังกายช่วงลำคอของน้องคะ โดยวิธีการคือจับน้องนอนคว่ำบนที่นอนหรือเบาะรองนอน แล้ววางของเล่นไว้ใกล้ๆ หรืออาจจะใช้เสียงช่วงเพื่อให้น้องหันมองไปหาต้นทางของเสียงค่ะ ซึ่งท่านี้คุณแม่สามารถเริ่มฝึกให้น้องได้ช่วงอายุ 2 เดือนขึ้นไป หรือช่วงที่น้องเริ่มมีการตั้งคอเองได้ หรือจะเปลี่ยนให้ลูกน้อยนอนบนหน้าท้องของคุณพ่อคุณแม่ก็ได้เช่นกันค่ะ
5.Football Hold
ให้คุณแม่อุ้มลูกน้อยโดยให้แขนสอดเข้าอยู่บริเวณหน้าอกและหน้าท้องของลูกน้อยดังภาพ จากนั้นก็ให้ลูกน้อยมองไปรอบๆ ซึ่งท่านี้จะช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ
6.Hand Exercises
กิจกรรมนี้จะช่วยให้ลูกน้อยได้คุ้นเคยกับการใช้กล้ามเนื้อมือ ซึ่งคุณแม่อาจจะยื่นของเล่นหรือสิ่งของ ให้น้องได้จับเล่น รวมถึงการนวดฝ่ามือด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้เหมาะกับเด็กที่กำลังจะเริ่มคลานค่ะ
7.Assisted Crawling
ก่อนที่จะเริ่มการบริหาร คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมผ้าขนหนู หรือผ้าอ้อมมาก่อน พับตามยาว 2-3 ทบ แล้วอุ้มลูกน้อยวางบนผ้าบริเวณหน้าอก จากนั้นค่อยๆ ยกผ้าขึ้นโดยที่หน้าอกติดอยู่กับผ้า ให้ขาอยู่ที่พื้น กิจกรรมนี้จะทำให้ลูกน้อยสนุกกับการเคลื่อนไหวและคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวก่อนที่จะเริ่มคลาน
8.Sitting On A Stool
ให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมเก้าอี้หรือม้านั่งสำหรับลูกน้อย จากนั้นให้ลูกน้อยได้ลองนั่งโดยที่เท้าต้องสัมผัสกับพื้น แล้วนำของเล่นมาวางไว้ด้านหน้าเพื่อให้ลูกได้ลุกขึ้นไปหยิบแล้วกลับมานั่งในท่าเดิม กิจกรรมนี้จะช่วยในเรื่องของการฝึกสมดุลของร่างกายและการควบคุมน้ำหนักที่เท้า
9.Bounce Baby
มาถึงกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาของลูก เริ่มจากที่คุณแม่ต้องนั่งในท่าที่สบาย จากนั้นอุ้มลูกขึ้นบนตักของคุณ แล้วค่อยดันตัวลูกขึ้นในท่ายืน โดยให้เท้าลูกเหยียบบนขาของคุณแล้วลองเดินดู โดยที่คุณอาจจะจับที่แขนอยู่ลูกเพื่อช่วยในการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้นค่ะ
10.Cruising
สำหรับกิจกรรมนี้ก็เหมือนเป็นการส่งเสริมให้ลูกได้ทรงตัวที่ดี รู้จักการพยุงตัวและการเริ่มต้นที่จะเดินค่ะ เริ่มแรกคุณต้งจับลูกลุกขึ้นยืน โดยที่ให้มือเขาแตะเข้าที่เฟอร์นิเจอร์ชนิดใดก็ได้ภายในบ้าน เช่น โซฟา เมื่อลูกเริ่มทรงตัวได้ก็ลองปล่อยให้เขายืนเองหรือเดินเองค่ะ
11.Catch the Toy
ก่อนจะเริ่มการฝึก คุณต้องหาเชือกมาคล้องของเล่นอะไรก้ได้ก่อน 1 ชิ้น แนะนำให้เลือกของเล่นและเชือกที่มีสีสันสดใสหน่อยนะคะ จากนั้นก็ลองค่อยๆ ขยับของเล่นที่ห้อยอยู่นี้ไปข้างหน้าลูก แล้วพยายามให้ลูกจับดูสิค่ะ กิจกรรมนี้จะช่วยให้ทารกสามารถรักษาสมดุลการนั่งได้ดี แถมยังช่วยการฝึกการทำงานของระบบประสาทที่เชื่อมกับระหว่างตาและมือได้ดีงยิ่งขึ้นอีกด้วย
12.Bubble Gaze
ก่อนจะเริ่มกิจกรรมนี้คุณต้องมีตัวช่วยค่ะ ซึ่งก็คือ บับเบิ้ล หรือฟองสบู่นั่นเอง คุณอาจจะให้ลูกนั่งอยู่บนเก้าอี้ รถหัดเดิน หรือบนรถของเล่นก่อน แล้วจากนั้นก็เป่าฟองสบู่ให้ลูกดู เพื่อให้ลูกน้อยได้ฝึกประสาทส่วนตาในการจ้องมองเจ้าฟองสบู่ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ แล้วใช้มือในการไขว้คว้าหรือตีฟองสบู่ให้แตก เป็นแบบฝึกหัดง่ายๆ ที่เด็กๆ ต้องชอบแน่นอนค่ะ
ที่มา: thebump
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
กิจกรรมเล่นกับลูกให้ฉลาด กระตุ้นพัฒนาการทารก วิธีเสริมพัฒนาการลูกน้อยวัยทารก เล่นกับลูกให้ฉลาด
โรคหน้าหนาว ต้องระวังลูกป่วย ทารก เด็กเล็ก เสี่ยงโรคร้าย แถมมีโรคแทรกซ้อนรุนแรงถึงชีวิต!
กิจกรรมสำหรับเด็กสมาธิสั้น ไม่อยู่นิ่ง ซุกซน วอกแวก พ่อแม่ควรทำอย่างไร?