คนส่วนใหญ่จะนึกถึงสมุนไพรขึ้นมา ก็เป็นเวลาของการทำอาหารที่จะใส่นั่นนิดนี่หน่อย เพื่อเพิ่มกลิ่น รส หรือแม้กระทั่งสี แต่สมัยที่ยังไม่มายาแผนปัจจุบัน สมุนไพรถูกใช้อย่างแพร่หลายค่ะ ทั้งในการรักษาโรค เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งถูกใช้เป็นยาพิษ แต่เมื่อคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ลูกน้อย การใช้สมุนไพรโดยไม่รู้โทษของมันย่อมทำให้ลูกที่อยู่ในท้องเสี่ยงไปด้วย สมุนไพรอันตราย โทษกับแม่ท้องอย่างไรไปดูกัน
11 สมุนไพรอันตราย ยามตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ !
1. ไขมันที่สกัดได้จากผลปาล์มแห้ง ปาล์มใบเลื่อย หรือปาล์มแคระ (Saw Palmetto)
เนื่องจากการออกฤทธิ์ที่เข้าไปต้านฮอาร์โมนเอนเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย
2. โกลเด้นซีล (goldenseal)
ช่วยบรรเทาอาการหวัด แต่ในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นห้ามกินเด็ดขาดเลยค่ะ เนื่องจากส่งผลต่อการพัฒนาของสมองลุกน้อย
3. ตังกุย (Dong quai)
ถ้ากินหลังคลอดลูกสามารถทำได้เนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แต่หากคุณแม่กินระหว่างการตั้งครรภ์อาจจะทำให้แท้งลูกได้นะคะ
4. อีเฟรดา (ephedra) หรือ มาฮวงหรือมั่วอึ๊ง
ช่วยรักษาอาการหอบหืดและโรคทางเดินหายใจ แต่ก็มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทเช่นเดียวกับยาบ้า ดังนั้นห้ามกินนะคะ
5. โยฮิมบี (Yohimbe)
เป็นพืชที่มีพิษและทำอันตรายต่อร่างกายค่ะ คุณแม่ห้ามใช้เด็ดขาด
6. ตาเบบูญ่า หรือ ชมพูพันธ์ทิพย์ (Pau D’arco)
หากกินมากเกินไป ร่างกายจะรับสารพิษซึ่งอันตรายต่อลูกในท้องค่ะ
7. ดอกเสารสหรือดอกกระทกรก (Passion Flower)
จริงๆ แล้ว มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายหลายอย่างค่ะ ทั้งชับพยาธิ แก้ปวด บำรุงปวด แก้ไอ แต่ไม่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
8. แบล็คโคโฮส (Black cohosh)
เป็นสมุนไพรมีที่ฮอร์โมนเพศหญิงอยู่เยอะ นิยมกินเพื่อทดแทนในวัยหมดประจำเดือน แต่ไม่ควรบริโภคตอนท้องค่ะ
9. บลูโคโฮส (Blue cohosh)
ช่วยป้องกันการเกิดตะคริวระหว่างเป็นรอบเดือน แต่หากรับประทานขณะตั้งครรภ์ อาจจะทำให้ทารกมีความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้
10. โรมันคาโมมายล์ (Chamomile Roman)
หากบริโภคระหว่างตั้งครรภ์จะเพิ่งโอกาสเสี่ยงของการแท้งค่ะ
11. เพนนีรอยัล (PENNYROYAL)
ผลกระทบของการได้รับระหว่างตั้งครรภ์คือ ทำให้แท้ง เด็กทารกตายตั้งแต่อยู่ในครรภ์ สมองและตับถูกทำลาย นอกจากนี้ก็ยังมี ว่านหางจระเข้ ขิง อีฟนิ่งพริมโรส ดอกเก๊กฮวย คาวา คาวา มะขามแขก
สมุนไพรที่ปลอดภัยสำหรับแม่ท้อง กินแล้วดี
1. มะพร้าว
เห็นจะเป็นสิ่งที่คู่กับแม่ท้องมาตั้งแต่สมัยโบราณ เชื่อกันว่าการรับประทานน้ำมะพร้าวจะทำให้ทารกในครรภ์สมบูรณ์ แข็งแรง คลอดง่ายผิวดีและไม่มีเมือกติดตัวเมื่อคลอดออกมา โดยให้กินเมื่ออายุครรภ์ครบ 5 เดือน จะช่วยกระตุ้นให้เด็กดิ้นเพราะอายุครรภ์ 5 เดือนคุณแม่เริ่มรับรู้แล้วว่าเจ้าตัวน้อยกำลังดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในท้อง
2. กล้วยน้ำว้าสุก
มีฤทธิ์ช่วยในการระบายท้อง ขับถ่ายได้อย่างสบายใจหายห่วงสามารถรับประทานสด ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องปิ้งย่าง
3. น้ำอ้อย
ควรเป็นอ้อยที่มาจากอ้อยดำอ้อยแดง ปัจจุบันน้ำอ้อยที่ผลิตออกมาส่วนมากเป็นน้ำอ้อยเกษตร แต่สามารถใช้แทนกันได้ ป้องกันไม่ให้คุณแม่เกิดอาการไข้ ช่วยลดไข้ต่าง ๆ เพราะในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่หลาย ๆ ท่านมักจะมีอาการเจ็บป่วยบ่อย
4. มะขาม
มะขามมีรสเปรี้ยวดังนั้นจึงช่วยแก้อาการโอ้กอ้ากแพ้ท้องของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี โดยใช้เนื้อมะขามล้วน ๆ ปั้นประมาณขนาดนิ้วหัวแม่มือ 2 ก้อนหรือ 1 ช้อนชา ละลายน้ำอุ่นแล้วจิบ หรือจะใช้ มะขามเปียกจิ้มกับเกลือ กินพอรู้สึกดีขึ้นก็หยุดรับประทานเพราะรับประทานมากเกินไปอาจทำให้ท้องเสียได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : มะขามเปียกขัดผิวทุกวัน ช่วยให้ผิวขาวขึ้นจริงไหม? มาดูกัน
5. ขิง
ประโยชน์ของขิงช่วยในเรื่องของการขับลม ช่วยทำให้คุณแม่รู้สึกสบายท้องมากขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้อง ขิงเป็นสมุนไพรชั้นดีที่ได้ผลชะงักในเรื่องลดอาการแพ้ท้อง อาจรับประทานเป็นอาหาร เช่น หมูผัดขิง ไก่ผัดขิง มันต้มขิง อะไรก็ตามแต่ที่รับประทานได้หรือแม้แต่น้ำขิงก็อร่อยดีไม่แพ้กัน
6. เกสรดอกบัว
นิยมใช้เกสรจากดอกบัวขาว หรือบัวหลวงที่เราใช้ไหว้พระนี่ล่ะค่ะ สิ่งสำคัญต้องมั่นใจว่าปลอดสารพิษ ดอกบัวถือเป็นยาบำรุงครรภ์เป็นอย่างดี เชื่อกันว่าช่วยบำรุงครรภ์ ทำให้รกเกาะติดดี ไม่เคลื่อน ไม่คลอดก่อนกำหนด ป้องกันการแท้ง จะใช้สดหรือแห้งก็ได้ วิธีใช้ คือ นำเกสรดอกบัวมาประมาณหยิบมือหนึ่ง จะเป็นเกสรแบบสดหรือแห้งก็ได้ แล้วชงกับน้ำร้อนเดือด ๆ ตั้งไว้ให้อุ่น ดื่มวันละแก้ว
7. เม็ดบัว
จะใช้เม็ดบัวแห้งหรือเม็ดบัวสดก็ได้นำมาประกอบอาหารจะนึ่งหรือต้มกินก็ได้ เม็ดบัวอุดมด้วยสารอาหาร เช่น แคลเซียม โปรตีน เหล็ก วิตามินบี ช่วยบำรุงทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
8. ใบกะเพรา
ใบกะเพราเป็นสมุนไพรที่อยู่คู่ครัวไทยมาช้านาน คนไทยนิยมใช้ใบกะเพราสด หรือแห้งมาประกอบอาหาร จำพวกผัดแกงที่มีรสชาติจัดจ้าน ใบกะเพรามีฤทธิ์ช่วยขับลมแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยขับลมเพราะมีน้ำมันหอมระเหย (Essential oil) อีกทั้งช่วยกระตุ้นการเจริญอาหารทำให้คุณแม่รับประทานอาหารได้มากขึ้น
9. กระชาย
กระชายเป็นพืชที่มีลักษณะเป็นเหง้า แต่มีขนาดเล็กว่าขิงและข่า มีรสเผ็ดและขมเล็กน้อย คนไทยมักจะนำกระชายมาประกอบอาหารเพราะช่วยดับกลิ่นคาว นิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของแกงผ่า ผัดเผ็ด และแกงเลียง กระชายมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดมวนในท้อง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนี้กระชายยังมีประสิทธิภาพช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้ ช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและช่วยกระตุ้นการเจริญอาหาร
บทความที่เกี่ยวข้อง : กระชายขาว พืชล้มลุกสมุนไพรแบบไทย ยาต้านไวรัส โควิด-19
10. กระเทียม
จัดเป็นเครื่องเทศหลักของครัวไทย นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติให้ชวนรับประทาน กระเทียมมีรสเผ็ดร้อน มีกลิ่นฉุน กระเทียมมีฤทธิ์ในการช่วยขับลม ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่น นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส ไขมัน โปรตีนและวิตามิน นับว่ามีประโยชน์สำหรับคนท้องอีกชนิดหนึ่ง
ยาสมุนไพรที่คุณเเม่ไม่ควรใช้ตอนตั้งครรภ์
- ฟ้าทะลายโจร
- กลุ่มยาบำรุงเลือด
- กลุ่มยาสตรี
- กลุ่มยาดอง
ฟ้าทะลายโจร-สมุนไพรที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง
ภญ.กษมา กาญจนพันธุ์ ระบุว่า ฟ้าทะลายโจรนั้นคณะกรรมการพัฒนาะบบยาแห่งชาติเดิมได้แจ้งเตือนอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า “ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากอาจทำให้เกิดทารกวิรูป (พิการ) ได้” เนื่องจากพบว่าฟ้าทะลายโจรมีผลในการคุมกำเนิดในหนูทดลอง และทำให้เกิดการแท้งเมื่อทำการทดลองในกระต่าย
นอกจากนี้ ก็มีข้อมูลที่ช่วยย้ำความไม่ปลอดภัยเสมอไปของฟ้าทะลายโจรเพิ่ม โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้เปิดเผยว่าที่ผ่านมามีรายงานจากคณะอนุกรรมการศึกษาและเฝ้าระวังอันตรายจากการใช้ยาสำหรับมนุษย์ ซึ่งได้ศึกษางานทั้งจากขององค์การอนามัยโลก รวมถึงงานวิจัยอื่น ๆ แล้วพบผลข้างเคียงการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาฟ้าทะลายโจร คืออาการช็อกขั้นรุนแรง หรือเรียกในทางการแพทย์ว่าภาวะ Anaphylactic shock, anaphylactic reactions จึงได้ลงนามในหนังสือขอรับฟังความเห็นแจ้งคำเตือนในฉลาก และเอกสารกำกับยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ได้แก่
- ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
- ห้ามใช้ในผู้มีประวัติแพ้ยานี้ หรือเคยมีอาการ เช่น ผื่น ปากบวม ตาบวม
- ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 7 วัน และ
- หากใช้ติดต่อเกิน 3 วันแล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยาควรหยุดใช้และพบแพทย์
- ยาบำรุงเลือด-สมุนไพรที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง
สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติทำให้มดลูกบีบตัว หรือที่เราอาจเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าเป็นยาบำรุงเลือด เช่น ว่านชักมดลูก กวาวเครือ ว่านนางคำ ดอกคำฝอย แห้วหมู ล้วนเป็นสมุนไพรที่ทำกระทบกระเทือนต่อครรภ์
กลุ่มยาสตรี-สมุนไพรที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง
กลุ่มยาสตรีทุกยี่ห้อในท้องตลาดจัดเป็นกลุ่มยาต้องห้ามสำหรับแม่ท้อง บ้างเป็นยาบำรุงเลือด ยาขับประจำเดือน คุณสมบัติก็ชัดเจนว่า ทำให้มดลูกบีบตัว หดตัวจนขับเลือดออกมา ยิ่งแม่ท้องไตรมาสแรก ที่มีความเสี่ยงต่อการแท้งลูกด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเลือกรับประทานยาอะไร ก็ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ไม่ใช่แค่ยาสมุนไพร
กลุ่มยาดอง-สมุนไพรที่เป็นอันตรายต่อคนท้อง
ยาดองทุกชนิดมีแอลกอฮอล์ ซึ่งแน่นอนว่า ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ อย่าหลงเชื่อ สรรพคุณยาดองเหล้าทุกชนิด ที่บอกว่า เป็นยาบำรุงครรภ์นะคะ
นอกเหนือจากยาสมุนไพรต้องห้ามแล้ว ผักหรือสมุนไพรบางชนิด คุณแม่ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก ๆ เช่น สมุนไพรที่มีรสจัด ทั้งพริก พริกไทย ไพล หรืออาหารที่ผสมเครื่องแกงรสจัดจ้าน ทำให้คุณแม่ปวดท้องหรือท้องเสียได้ รวมไปถึงสมุนไพรที่กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทั้งพริกสด หอมแดง ตะไคร้ หลีกเลี่ยง ทานพอดี ๆ อย่ามากเกินไปจะดีกว่าค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :
น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 9 สมุนไพรแก้ท้องผูก ที่ไม่ควรมองข้าม
จับซาไท้เป้า ไขข้อข้องใจยาสมุนไพรจีนบำรุงครรภ์จริงหรือไม่?
คนท้องกินสมุนไพรรางจืดได้มั้ย สมุนไพรอะไรที่คนท้องห้ามกินบ้าง
ที่มา momjunction