10 นิทานสําหรับทารก เล่านิทานให้ลูกฟัง นิทานอ่านเสริมพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์

สำหรับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์เข้าสัปดาห์ที่ 20 ในช่วงนี้สมองของลูกน้อยในครรภ์เริ่มพัฒนาขึ้นมากแล้วนะคะ รวมถึงระบบประสาทการรับเสียงของลูกด้วย ในช่วงนี้คุณแม่สามารถหยิบหนังสือมาอ่านให้ลูกฟัง หรือจะเป็นนิทาน เรื่องเล่าที่แต่งเองจากพ่อแม่ ก็จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการรับฟังของลูกน้อยในท้องได้เป็นอย่างดี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นิทานสําหรับทารก นิทานสำหรับเด็ก ขอเพียงวันละไม่กี่นาที เล่านิทานให้ลูกฟัง นิทานเสริมพัฒนาการทารกในครรภ์ ได้ฟังอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง นอกจากจะเป็นการส่งผลดีต่อพัฒนาการและสติปัญญาแล้ว ยังเป็นการที่ลูกจะได้คุ้นเคยกับเสียงของพ่อแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนหลังคลอด คุณพ่อคุณแม่ก็ยังสามารถ อ่านหนังสือให้ลูกในท้องฟัง นิทานอ่านให้ลูกฟัง เล่านิทานให้ลูกฟัง อ่านนิทานเรื่องเดิมให้ลูกฟังได้ และจะพบว่าทารกจะตั้งใจฟังนิทานจากเรื่องที่เคยได้ยินแม่เล่าในท้องมาแล้ว ลองอ่านนิทานสนุก ๆ เล่านิทานให้ลูกฟังกันนะคะ

 

นิทานเด็กเล็ก นิทานอ่านให้ลูกฟัง

นิทานพัฒนาสมอง เรื่องลูกไก่ดื้อ นิทานสําหรับอนุบาล

แม่ไก่ตัวหนึ่ง มีลูก 2 ตัว ชื่อ เจี๊ยบ และ จิ๊บ แม่ไก่มักบอกลูกทั้งสองเสมอว่า “ลูกเอ๋ย อย่าออกไปไกลจากแม่นัก เพราะจะถูกเหยี่ยวโฉบเอาไปกินนะ” ลูกไก่ทั้งสองก็รับฟัง วันหนึ่ง ลูกไก่ทั้งสองลืมคำสอนของแม่ พอแม่ไก่นอนหลับ เจี๊ยบกับจิ๊บก็แอบหนีไปเที่ยวไกล ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ ก็มีเหยี่ยวตัวหนึ่ง บินโฉบเอาเจี๊ยบไป ทำให้ลูกไก่ตกใจ จิ๊บวิ่งไปบอกแม่ แม่ไก่เสียใจมาก และพูดว่า “ลูกนี่แหละ เพราะเจ้าไม่เชื่อแม่”

 

นิทานสำหรับทารก นิทานเด็กเล็ก ช้างเกเร

ช้างตัวหนึ่งมีนิสัยเกเร มันเดินไปพบรังมดแดง ซึ่งหลุดจากกิ่งไม้ ตกขวางทางอยู่ จึงต้องตวาดว่า …“เฮ้ย ทำไมพวกเจ้าทำรังขวางทางเราอยู่ เห็นข้ามา ทำไมไม่หลบไปเสีย ตัวเจ้าโตเท่าใด? ถ้าข้าจับฟาดเสียทั้งรัง เจ้าก็สู้ข้าไม่ได้” มดได้ฟังก็โกรธ และคิดว่า ถึงแม้ว่าเราตัวเล็กก็ไม่ควรมาหมิ่นประมาท จึงร้องตอบว่า …“ท่านครับ พวกเราไม่คิดจะขวางทางเลย แต่รังมันขาดตกลงมา พวกเราก็จะแบกหามไปก็ไม่ทัน ถ้าท่านจะกรุณาเอางวง เกี่ยวรังขึ้นไปไว้บนต้นไม้ ก็จะขอบคุณมาก”

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ช้างได้ฟังดังนั้น จึงเอาปลายงวงจับรังมดแดงขึ้น ฝ่ายมดแดงก็กรูกันเข้าในรูงวง และกัด ช้างได้รับความเจ็บปวดมาก ช้างจะฟาดฟันอย่างไร ๆ ก็ไม่หลุด ช้างจึงถามว่า …”มดเอ๋ย เจ้ามากัดข้าทำไม” มดจึงร้องตอบว่า “ที่พวกเรากัดท่าน เพราะท่านชอบดูหมิ่นและรังแกผู้อื่น ถ้าท่านยังมีนิสัยอย่างนี้ พวกเราก็ไม่ถอย” ช้างหมดปัญญา จึงยอมและต่อนั้นมา มันก็ไม่รังแกใครอีกเลย …

 

นิทานสำหรับเด็ก นิทานสําหรับอนุบาล กระต่ายตื่นตูม

กาลครั้งหนึ่ง กระต่ายตัวหนึ่งนอนหลับอยู่ใต้ต้นตาล ขณะที่นอนหลับอยู่นั้น เกิดพายุใหญ่ ทำให้ลูกตาลหล่นลงที่พื้นดิน เกือบถูกกระต่าย กระต่ายตกใจตื่นขึ้น คิดว่าฟ้าถล่ม ลุกขึ้นวิ่งไปอย่างรวดเร็ว สัตว์อื่น ๆ เห็นกระต่ายวิ่งมา จึงถามกระต่ายว่า “ท่านวิ่งหนีอะไรมา” กระต่ายบอกว่า “ฟ้าถล่ม” สัตว์เหล่านั้นได้ฟัง ก็วิ่งตามกระต่ายไป จนพบราชสีห์ตัวหนึ่ง เป็นสัตว์เจ้าปัญญาเห็นสัตว์วิ่งมาดังนั้น จึงถามว่า…พวกท่านวิ่งหนีอะไรมา สัตว์เหล่านั้นบอกว่า “ฟ้าถล่ม” ราชสีห์จึงบอกให้สัตว์เหล่านั้น พาไปดู เมื่อได้ดูที่ต้นตาล ก็เห็นลูกตาลหล่นอยู่ที่โคนต้น ราชสีห์จึงว่า “คนที่โง่เขลา ไม่คิดอะไรให้รอบคอบจึงได้รับผลตอบแทน เช่นนี้แหละ…”

 

เล่านิทานให้ลูกฟัง เรื่องลูกหมีผจญภัย

กาลครั้งหนึ่ง มีลูกหมีแสนซน วันหนึ่งลูกหมีหนีแม่ออกไปเที่ยวนอกถ้ำ ลูกหมีเดินไปเรื่อย ๆ บ้างก็ชมนกชมไม้ในป่า
ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น ลูกหมีเหลือบไปเห็นรังผึ้งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ลูกหมีดีใจมากที่วันนี้จะได้กินน้ำผึ้งหวานจับใจ มันจึงรีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ทันที พอไปถึงรังผึ้ง ก็ใช้มือดึงรวงผึ้งมา หมายจะดูดกินน้ำหวาน ฝ่ายผึ้งเจ้าของรังเห็นศัตรูมาบุกรุก ทำลายบ้านของตนเอง ก็พาหันบินเข้าโจมตีกันเป็นพัลวัน ลูกหมีไม่ทันรู้ตัว ก็โดนทหารผึ้งต่อย จนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น จนพลัดตกลงจากกิ่งไม้ ได้รับความเจ็บปวด ร้องโอดโอย วิ่งไปหาแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

แม่หมีพอเห็นลูกหมีก็รู้ถึงเหตุการณ์โดยตลอด เพราะจมูกของลูกหมีโดนผึ้งต่อย เสียจนบวมปูด เป็นลูกโป่ง แม่หมีจึงสอนลูกหมีว่า …คราวต่อไป ถ้าไปเจอรวงผึ้งให้ปีนขึ้นไปหาทำเลที่นั่งให้เหมาะ ใช้มือหนึ่งปัดตัวผึ้งที่จะมาต่อยออก และปิดจมูกไว้ ส่วนมือหนึ่งหยิบรวงผึ้งมาดูดกิน ตั้งแต่นั้นมา ลูกหมีก็ไม่โดนผึ้งต่อยอีกเลย และในเวลากลับ …ลูกหมียังเอารวงผึ้งหวานมาฝากแม่หมีอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : อ่านนิทานให้ลูกฟัง ยิ่งบ่อย ยิ่งดี กิจกรรมก่อนนอน เสริมความสุขในครอบครัว

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ปลาน้อยผู้แสนดี

นานมาแล้วมีเจ้าปลาน้อยตัวหนึ่งว่ายน้ำอยู่ในทะเลมันมองเห็นคนหาปลานั่งมาในเรือ แล้วชายคนนั้นก็หย่อนเบ็ดลงในน้ำเจ้าปลาน้อยเมื่อเห็นดังนั้นมันจีงรีบว่ายน้ำหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในโขดหิน ในขณะนั้นเองก็มีปลาอีกตัวหนึ่งว่ายน้ำผ่านหน้ามันตรงไปที่เบ็ดของชายคนนั้นทันที เจ้าปลาน้อยจึงรีบว่ายน้ำตามไปห้ามแล้วบอกปลาตัวนั้นว่า“อย่าเข้าไปกินนะมันอันตราย มันไม่ใช่อาหารหรอก”

 

แต่เจ้าปลานั้นมันไม่เชื่อคำพูดของเจ้าปลาน้อย มันพูดว่า“เจ้าอย่ามาหลอกเราเลย เจ้าจะมาแย่งอาหารของเราใช่ไหม” ว่าแล้วมันก็ว่ายน้ำชนเจ้าปลาน้อยกระเด็นไป แล้วมันก็ตรงไปกินเหยื่อนั้นทันที  เจ้าปลานั้นจึงติดเบ็ดของคนหาปลา มันดิ้นรนไปมาแล้วร้องให้เจ้าปลาน้อยช่วย”ช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยฉันด้วย เจ้าปลาน้อยพยายามช่วยเหลือเจ้าปลาตัวนั้นจนสุดความสามารถแต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ มันจึงว่ายน้ำจากไปด้วยความเสียใจ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : จงฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูดเพื่อตนเองจะได้ไม่เดือดร้อน

 

นิทานสำหรับเด็ก เเม่ตุ่นกับลูกตุ่น

เเม่ตุ่นตัวหนึ่งเพิ่งคลอดลูกตุ่นตัวน้อยๆ น่ารัก เเต่ลูกตุ่นนั้นยังไม่ทันจะลืมตาได้ก็เริ่มโอ้อวดว่า “เเม่จ๊ะ เเม่จ๋า ลูกมองเห็นเเล้วล่ะ เห็นชัดเลยจ้ะ” เเม่ตุ่นประหลาดใจนักจึงทดสอบด้วยการเอากำยานก้อนหนึ่ง ก้อนหนึ่งมาวางต่อหน้าเเล้วถามว่า “เเล้วนี่ล่ะจ๊ะ ลูกมองเห็นไหม บอกเเม่ซิว่าคืออะไร” ลูกตุ่นมองไม่เห็นก็ตอบมั่ว ๆ ว่า “ก้อนหินไงล่ะจ๊ะเเม่” เเม่ตุ่นมองไม่เห็นพลางตำหนิลูกว่า
“ลูกจ๋า ตาของลูกยังมองไม่เห็น จมูกก็ยังไม่ได้กลิ่นอีกด้วย”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การชอบโอ้อวดเกินจริง จะทำให้ผู้อื่นเห็นข้อบกพร่องในด้านอื่น ๆ ของเราเพิ่มขึ้น

 

นิทานสําหรับทารก เเม่ปูสอนลูก

เเม่ปูสอนลูก เเม่ปูพาลูกๆ ออกไปหากินที่ชายหาด เมื่อเห็นลูกๆ เดินคดเคี้ยวเซไปมาจึงกล่าวว่า “ทำไมลูกไม่เดินให้ตรงๆ ทางล่ะจ๊ะ” ลูกปูจึงตอบ “ถ้าเช่นนั้นเเม่ลองเดินตรงๆ ให้ลูกดูหน่อยซิจ๊ะ ลูกจะได้ทำตาม”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :  การพูดอย่างเดียว ไม่อาจสอนใครได้ดี เท่าการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นิทานสําหรับทารก เล่านิทานให้ลูกฟัง Thumbelina : ธัมเบลิน่า นางฟ้าตัวจิ๋ว

Once upon a time, there lived a pretty little girl who was smaller than any girl you have ever seen.  Her mother said, “Look, she is no bigger than my thumb! I shall call her Thumbelina!”

 

One day, an ugly frog saw her and thought, “What a cute little girl! I shall make her my wife!”  And as Thumbelina slept, he carried her away to the pond and placed her on a lotus lead.

 

When she woke up, Thumbelina saw she was alone in the middle of the pond. She began to cry.  A little fish took pity on her and decided to save her from the frog. She carefully pulled the leaf to the bank and left Thumbelina there.

 

Then, a beautiful, big butterfly saw her and said, “Ride on my back. I will take you to a beautiful valley full of flowers.”  Thumbelina agreed and was very happy to live there with the butterflies, insects and birds.

 

One day, Thumbelina found a blue bird who had hurt a wing and had fallen in the valley.  The kind girl looked after the bird till he was strong enough to fly again.  “Thank you Thumbelina, what a kind girl you are!” said the bird and flew away.

 

Soon, winter came. All the flowers dried up and the birds went away to warmer places. Poor Thumbelina was all alone. It was so cold that the little girl nearly froze to death and lay shivering on the ground.

 

Luckily, a kind field mouse saw her and took her to her home.  She gave Thumbelina some hot soup and slowly, Thumbelina became strong again.

 

That whole winter, Thumbelina stayed with the field mouse.  Then, one day, the field mouse said, “Thumbelina, you must marry our neighbor, Mr. Mole.”

 

But Thumbelina did not want to marry Mr. Mole at all! “He may be wise, but he lives in an underground house.  If I marry him, I shall never see the sun, the flowers and the birds again!” she thought unhappily.

 

As Thumbelina sat worrying she suddenly saw her old friend, the blue bird.  “Why are you looking so sad?” he asked her, and she told him her problem.  “Come with me, I’ll take you far away from here!” he replied.

 

The blue bird took Thumbelina to a beautiful little kingdom full of little people who were no bigger than a thumb.  The warmly welcomed her to their land and she lived there for many years. How happy she was to finally find a home with friendly people who were just like her!

 

นิทานสําหรับทารก เล่านิทานให้ลูกฟัง Little Red Ridding Hood : หนูน้อยหมวกแดง

Once upon a time, in a small village at the edge of the woods, there lived a very pretty young girl. Since she always wore a red cape with a hood, she was known as Little Red Riding Hood.

 

One day, Red Riding Hood’s mother gave her a basket of fresh apples to take to her grandmother. “Don’t take to strangers on the way,” her mother warned her.  The girl promised to be home before dark and set off to her grandmother’s house which was deep in the woods.

 

Now in this forest lived one, big bad wolf, who ate up little children. He saw Red Riding Hood skipping along the path and badly wanted to eat her up. So he came up with a wicked plan.

 

The wolf jumped out of the bushes in front of Red Riding Hood. “Hello, young lady! Where are you going?” he asked with a sweet smile.  Red Riding Hood forgot her mother’s wise words. Immediately, she told him, “I’m going to see Grandma. She lives at the end of this path.”

 

The wolf cunningly said, “Well then, you should take her some flowers too.”  While Red Riding Hood was busy looking for flowers for Grandma, the wolf took a shortcut and reached Grandma’s house.

 

There, the wolf knocked on the door. He changed his voice and said, “It’s me, Red Riding Hood. Do let me in Grandma!”  But as soon as the old lady opened the door, he pounced on her and gobbled her up whole.

 

Then, the wolf quickly wore Grandma’s cap and clothes, tucked himself into bed, and lay waiting for the grand-daughter.  “Come in, dear!” called the wicked wolf in Grandma’s voice, as soon as young Red reached the cottage.

 

Red Riding Hood came into the room, and was surprised to see her ‘grandmother’ in bed. “Oh Grandma, what big arms you have! she said  “All the better to hug you with, my dear,” replied the wolf.

 

“Oh Grandma, what big ears you have!” continued Red Riding Hood.  “All the better to hear you with, my dear,” said the wolf smiling.

 

“Oh Grandma, what big teeth you have!” cried Red Riding Hood, her eyes wide with surprise.  The wolf laughed a wicked laugh. “All the better to eat you with!” he said and pounced on her in a flash!

 

Little Red Riding Hood was very scared. “Help!” she screamed.  Just then, a kind woodcutter was passing by the house. He saw the big wolf trying to catch the young girl and immediately hit the wolf on his head with his axe.

 

The woodcutter and Red Riding Hood cut open the wolf’s stomach, and out came Grandma! She was scared, but quite unhurt.  The big bad wolf could never hurt anyone any more.  As for Red Riding Hood, she was a very good girl and remembered never to speak to strangers ever again.

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 นิทานเด็กภาษาอังกฤษ ที่ควรให้ลูกอ่าน สนุกได้ความรู้ภาษา

 

 

นิทานสําหรับทารก Hansel and Gretel : แฮนเซลกับเกรเทล ผจญภัยบ้านขนมปัง นิทานสำหรับเด็ก

 

One upon a time, in a faraway forest, there lived a poor woodcutter, his wife and their two young children.  The boy’s name was Hansel and the girl was called Gretel.

 

The woodcutter was so poor that the family had very little food to eat.  So one night, the woodcutter’s wife said,  “We cannot take care of the children anymore. You must take them to the middle of the forest and leave there.”

 

The two children heard their parents talk and they were very scared. “We don’t want to live in the forest!” they said to each other. So, the cleaver children came up with a plan to save themselves.  That night, they quietly filled their pockets with tiny pebbles.

 

The next morning, as the woodcutter took them to the middle of the forest, Hansel and Gretel dropped the pebbles all along the way.  When their father left them, all they had to do was to follow the line of pebbles back home!

 

The woodcutter and his wife were surprised to see the children back home. “We must take them again tomorrow,” they said.   Hansel and Gretel were very worried now. “All our pebbles are gone! What do we do now?” they cried.

 

“I have an idea!” said Hansel. “We can drop bread crumbs this time!”  So, the next morning, when the woodcutter took the children deep inside the forest to leave them there again, the children dropped crumbs of bread all along the way.

 

But sadly for the children, the animals and birds had eaten up all the crumbs!  Now, Hansel and Gretel walked and walked but couldn’t find their way back home.

 

Suddenly, hidden in the trees, they saw a strange house made of candy, cookie, chocolate and everything delicious.  “This is a gingerbread house!” cried Gretel happily.  The children were so hungry that they started gobbling up the house at once.

 

Now this house actually belonged to an old witch who loved to eat little children. Just as Hansel and Gretel were eating her yummy door, she pounced on them and locked them inside!  “I shall fatten you up and eat you!” she said with a wicked laugh.

 

The wicked witch locked Hansel in a cage. Then, she turned to Gretel and said, “You! Little girl! Help me light the oven! When it is hot, I shall cook your bother and eat him up!”  Poor Gretel was so afraid!

 

Gretel quickly thought of a plan to save her brother. Just as the witch bent to check if the oven was hot, she gave her a big push from behind.  The witch fell in to the oven with a scream and Gretel quickly locked the oven door with the witch inside!

 

Gretel rescued Hansel and the two children filled their pockets with all the witch’s jewels. Finally, they managed to find their way back home and gave all the jewels to their mother and father.  Thanks to the clever children, the woodcutter and his family were never poor or hungry ever again!

 

บทความที่เกี่ยวข้อง :
10 นิทานอีสป สุดคลาสสิก ที่คุณแม่ต้องอ่านให้ลูกฟัง นิทานสอนใจ
นิทานธรรมะ เล่าให้ลูกฟังก่อนนอน : ความเพียร ความพยายาม
นิทานธรรมะ เล่าให้ลูกฟังก่อนนอน : ความสุข สอนลูกให้รู้จักความสุข

อ่านเรื่องอื่นเพิ่มเติมได้ที่ : baby.kapook , knowin

3

บทความโดย

Napatsakorn .R