10 เมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง อะไรควรหลีกเลี่ยง

สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดควรให้ความสำคัญ ก็คือเรื่องอาหาร หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง อะไรควรหลีกเลี่ยง มาดู เมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด กัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดควรให้ความสำคัญ ก็คือเรื่องของอาหาร เนื่องจากล้วนเกี่ยวกับแผลทั้งหมด คุณแม่หลังคลอด ควรกินอาหารที่เป็นประโยชน์ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย เพื่อจะได้ทำให้แผลหายเร็ว ๆ รวมไปถึงช่วยในเรื่องของน้ำนมด้วย หลังผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง อะไรควรหลีกเลี่ยง วันนี้เรามี 10 เมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด มาฝากคุณแม่หลังคลอดกัน

 

เมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด ผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง

  • ข้าวต้มปลา

ข้าวต้มปลา ถือเป็นอาหารอ่อน ๆ ที่ทำง่าย ทานง่าย เหมาะเป็นอาหารที่กินช่วงพักฟื้น เนื่องจากอาหารถือเป็นตัวช่วยหลักที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอดได้ โดยอาหารประเภทโปรตีน จะช่วยสร้างเนื้อเยื่อ และฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังจากผ่าตัดได้ ดังนั้นข้าวต้มที่มีคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน บวกกับปลาที่ถือว่าเป็นโปรตีนชั้นดี ก็จะสามารถช่วยให้คุณแม่หลังคลอดแผลหายเร็วได้ค่ะ

 

  • ต้มข่าไก่ใส่หัวปลี

ต้มข่าไก่หัวปลี เป็นเมนูที่ให้สารอาหารครบถ้วน จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับคุณแม่หลังผ่าคลอด เมนูนี้มีทั้งไฟเบอร์ที่มีกากใย ช่วยลดอาการท้องผูกของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี มีเนื้อไก่ ที่ถือว่าเป็นโปรตีน ช่วยฟื้นฟูร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อหลังผ่าตัด ทำให้ร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมไปถึงหัวปลี ที่ถือเป็นอาหารเรียกน้ำนมชั้นยอด ดังนั้นเมนูต้มข่าไข่หัวปลี จึงเป็นเมนูที่คุณแม่หลังผ่าคลอดควรทานบ่อย ๆ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • แกงเลียงผักรวม

คุณแม่หลังคลอดที่ทำการบ้านมาดี น่าจะเคยได้ยินบ่อย ๆ ว่า แกงเลียงผักรวม ถือเป็นเมนูแนะนำสำหรับคุณแม่หลังคลอดเลยล่ะค่ะ เพราะเต็มไปด้วยผักต่าง ๆ มากมาย ที่ล้วนเป็นไฟเบอร์ ช่วยลดอาการท้องผูกได้ นอกจากนั้นยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิด ที่ช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ ดังนั้นนอกจากจะฟื้นฟูร่างกายของคุณแม่แล้ว ยังทำให้น้ำนมพุ่ง ลูกน้อยอิ่มท้องด้วยนะ

  • ปลานึ่งซีอิ๊ว อาหารหลังผ่าคลอด

ถ้าคุณแม่คนไหนคิดเมนูไม่ออก เมนูปลาถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจนะคะ เนื่องจากเนื้อปลานั้น อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคุณแม่หลังคลอด ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดี แถมยังย่อยง่าย ปลานึ่งซีอิ๊ว ใส่ขิง ใส่เห็ดหอม นอกจากจะเป็นเมนูที่อร่อยแล้ว คุณแม่หลังผ่าคลอดยังได้ประโยชน์เต็ม ๆ แบบไม่อ้วนอีกด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ไก่ผัดขิง อาหารคนหลังผ่าคลอด

ไก่ผัดขิง อีกหนึ่งเมนูทำง่าย ใช้เวลาไม่เยอะ แถมยังรสชาติดีถูกปากคนไทย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีประโยชน์กับคุณแม่หลังคลอดแบบเต็ม ๆ นอกจากตัวเนื้อไก่ ที่ถือเป็นโปรตีน ช่วยฟื้นฟูร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อ ทำให้แผลหายเร็วแล้ว ขิงยังถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นน้ำนมของคุณแม่ได้ จึงเหมาะที่จะเป็นเมนูอาหารหลังคลอดเลยล่ะ

 

  • แกงเห็ดรวม เมนูอาหารหลังผ่าคลอด

เมนูเห็ด ถือเป็นเมนูสุขภาพ คุณแม่หลังคลอดคนไหนที่อยากฟื้นฟูร่างกายด้วย แล้วก็ควบคุมน้ำหนักไปด้วย เมนูแกงเห็ดรวม ถือเป็นอีกเมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอดที่น่าสนใจ เนื่องจากเมนูนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน ไขมัน ที่ล้วนมีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด ทำให้พร้อมแก่การให้นมบุตร แถมยังไม่อ้วนด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

สำหรับคุณแม่หลังคลอดคนไหนที่ไม่ค่อยอยากอาหาร อาจจะลองทานอาหารอ่อน ๆ อย่างพวกแกงจืดไปก่อน แกงจืดเต้าหู้ไข่ถือเป็นเมนูที่ให้สารอาหารครบถ้วน เหมาะมากกับคุณแม่หลังคลอด ที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย เนื่องจากมีทั้งโปรตีนจากหมูสับและเต้าหู้ไข่ ไฟเบอร์จากผักต่าง ๆ จึงทานง่าย อยู่ท้อง มีสารอาหารที่จำเป็นเพียงพอต่อร่างกาย

 

  • ผัดถั่วลันเตากับกุ้ง อาหารหลังคลอดผ่าตัด

เนื่องจากสารอาหารหลัก ๆ ที่เป็นกุญแจสำคัญ ในการฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด ก็คือไฟเบอร์กับโปรตีน ดังนั้นผัดถ้่วลันเตากับกุ้ง จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารคุณแม่หลังผ่าคลอด ที่ให้สารอาหารอันเป็นประโยชน์แก่ร่างกาย ถั่วลันเตาคืออาหารที่เป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดี รวมไปถึงเนื้อกุ้ง ที่ถือเป็นโปรตีน ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกายคุณแม่หลังผ่าคลอดได้ ที่สำคัญเมนูนี้ยังอร่อยทานง่ายด้วย

  • บรอกโคลีผัดกุ้ง

ใครที่ไม่ชอบถั่ว อาจจะเปลี่ยนมาทาน บรอกโคลีผัดกุ้ง แทนก็ได้ค่ะ บรอกโคลี ถือเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน และไฟเบอร์ ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก และแน่นอนว่าเนื้อกุ้ง ก็ยังให้สารอาหารประเภทโปรตีน ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย สร้างเนื้อเยื่อ สร้างกล้ามเนื้อ คุณแม่หลังผ่าคลอดจะได้แผลหายเร็ว ๆ มีแรงให้นมลูกต่อ

 

  • ฟักทองผัดไข่ อาหารที่คนผ่าคลอดกินได้

ฟักทอง ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารกระตุ้นน้ำนมแม่ ดังนั้นเราลองเอาฟักทองมาทำเมนูอร่อย ๆ กินกันดีกว่าค่ะ ฟักทองผัดไข่ ถือเป็นเมนูที่เหมาะกับคุณแม่หลังผ่าคลอดเลยล่ะ เนื่องจากในหนึ่งจาก มีทั้งไข่ ที่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่ สร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมร่างกาย ทำให้แผลผ่าคลอดหายเร็วขึ้น และแน่นอนว่าฟักทองก็เต็มไปด้วยวิตามิน ไฟเบอร์ และสังกะสี ช่วยกระตุ้นน้ำนม บำรุงกระดูกและฟัน และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วย

อาหารที่คุณแม่หลังผ่าคลอดควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้แผลไม่สวย หายช้า

  • ของหมักดอง

ของหมักดอง เป็นอาหารที่คุณแม่หลังผ่าคลอดควรหยุดทานไว้ก่อน นอกจากจะไม่ดีต่อแผลผ่าคลอดแล้ว ยังกระทบต่อลูกน้อย จากการส่งผ่านทางน้ำนมแม่ด้วย ดังนั้นต้องงดสักระยะค่ะ

  • อาหารแปรรูป

พวกอาหารแปรรูปต่าง ๆ มักจะมีสารกันเสีย ผงชููรส สารปรุงแต่งกลิ่นและสีต่าง ๆ ซึ่งไม่ดีต่อทั้งร่างกายคุณแม่เอง ที่จะฟื้นตัวไม่เต็มที่ นอกจากนั้นยังไม่ดีต่อคุณแม่ให้นมบุตรด้วย เนื่องจากจะส่งผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูกน้อยได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • อาหารรสจัด

คุณแม่หลังผ่าคลอด ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดก่อนค่ะ ให้ทานอาหารอ่อน ๆ ไว้ก่อน เนื่องจากอาหารรสจัด และพวกอาหารที่มีกลิ่นฉุน จะทำให้แม่แสบกระเพาะได้ง่าย รวมไปถึงส่งผ่านทางน้ำนมได้ อาจจะทำให้ลูกน้อยที่กินนมแม่ไม่สบายท้องหรือท้องเสียด้วย

  • แอลกอฮอล์

งดแอลกอฮอล์ในช่วงตั้งครรภ์แล้ว ก็อดใจไว้อีกนิด งดต่อไปหน่อย จนกว่าแผลจะหาย รวมไปถึงจนกว่าจะพ้นช่วงให้นมบุตรด้วย เพราะนอกจากแอลกอฮอล์จะไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่แล้ว ยังส่งผ่านน้ำนมแม่ได้ กระทบต่อลูกน้อยค่ะ

การทาซิลิโคนเจลดูแลแผลผ่าคลอด หลังผ่าคลอดทันที เรื่องทางเลือกนึงที่แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำให้ทำสม่ำเสมอ

นอกจากการดูแลเรื่องอาหารแล้ว ความสวยความงามก็เป็นอีกเรื่องใหญ่สำหรับคุณแม่อย่างเราใช่ไหมคะ ซึ่งแพทย์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังก็ได้แนะนำว่า การทาซิลิโคนเจล ดูแลแผลผ่าคลอด หลังจากการผ่าคลอดทันที คือเรื่องสำคัญที่คุณแม่ควรใส่ใจ เพราะเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีส่วนช่วยให้สภาพของแผล และแผลเป็นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ และที่สำคัญ คุณแม่ควรเลือกชนิดของซิลิโคนเจลที่จะนำมาทาให้ถูกต้อง เพราะซิลิโคนเจลต่างชนิดกัน ย่อมเหมาะสมกับชนิดของแผลที่แตกต่างกันไปนะคะ

 โดยตัวอย่างของซิลิโคนเจลที่เราอยากนำเสนอในวันนี้ก็คือ Stratamed และ Strataderm ซิลิโคนเจลสำหรับทาแผลผ่าคลอด และซิลิโคนเจลสำหรับดูแลแผลเป็น จาก Stratpharma  ผลิตภัณฑ์ดูแลแผล ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การยอมรับ และแนะนำให้ใช้งานจริง 

 

Stratamed ซิลิโคนเจลสำหรับดูแลแผลผ่าคลอด แผลเปิด สามารถใช้ได้ทันทีหลังจากผ่าคลอด

สำหรับแผลผ่าคลอดที่เป็นแผลเปิดนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรใช้ซิลิโคนเจลสำหรับทาแผลเปิดที่แตกต่างจากครีมทาแผลทั่วไปอย่าง Stratamed เนื่องจากตัวเจลนั้น เป็นซิลิโคนเจลแบบ Polysiloxane สามารถใช้ได้ทันทีที่เกิดแผล มีสภาวะ Semi-Occlusive ช่วยให้ออกซิเจนไหลผ่านแผลได้ แต่ยังให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะสมกับแผลได้ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญเมื่อซิลิโคนเจลแห้งตัวแล้ว จะกลายเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการสมานแผล ช่วยกันน้ำ กันฝุ่นและเชื้อโรค ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ สเตียรอยด์ และสารก่อการระคายเคืองอื่นๆ ทำให้แผลของคุณแม่หลังจากผ่าคลอดแล้ว สามารถหายได้เร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดรอยแผลเป็นหลังจากการผ่าคลอด

วิธีการใช้ คุณแม่สามารถเริ่มทาซิลิโคนเจลได้ ตั้งแต่หลังผ่าคลอด โดยแนะนำให้ทาบาง เป็นประจำที่แผล วันละ 2 ครั้ง เช้า- เย็น ทาต่อเนื่องอย่างน้อย 14-30 วัน

Strataderm ซิลิโคนเจลสำหรับรักษาแผลเป็นชนิดผิดปกติ เช่น คีลอยด์ แผลเป็นนูน รอยแดง รอยดำ

ซิลิโคนเจล เกรดเครื่องมือแพทย์จากสวิตเซอร์แลนด์ ใช้สำหรับทาแผลที่ปิดแล้วเท่านั้นนะคะ เหมาะสำหรับการทาเพื่อรักษาแผลเป็นชนิดผิดปกติอย่าง คีลอยด์ แผลเป็นนูน และรอยแดง รอยดำของแผล เป็นต้น เพราะซิลิโคนเจลดังกล่าวนี้มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาสมดุล ความชุ่มชื้นของแผลเป็น ลดการสร้างไฟโบรบลาสต์ ซึ่งลดอาการนูนของแผลได้เป็นอย่างดี ช่วยลดรอยแดงของแผลเป็น ควบคุมอุณหภูมิของแผลให้เหมาะสม ช่วยสลายการสร้างคอลลาเจนที่ผิดปกติ ลดการทำงานของเส้นเลือดฝอย โดยไม่มีสารก่อระคายเคืองต่อผิว คุณแม่สามารถทาได้ตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ให้นมบุตร โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตรายเลยค่ะ

วิธีการใช้ : แนะนำทาวันละครั้งในแผลที่แห้งสนิทแล้ว และควรใช้ติดต่อกันอย่างน้อย 60-90 วัน

เพื่อการรักษาแผล และป้องกันรอยแตกลายอย่างเห็นผล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เริ่มทาซิลิโคนเจลทั้ง 2 ชนิด โดยมีขั้นตอนในการทาแบ่งออกเป็น 2 Steps ง่าย ๆ ตามนี้เลยค่ะ

1.ทา Stratamed ซิลิโคนเจลดูแลแผลเปิด แผลผ่าตัด สูตรสีฟ้า ทาได้ทันทีหลังการผ่าคลอด ทาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และทาเป็นประจำอย่างน้อย 14-30 วัน หรือจนกว่าแผลจะแห้ง และปิดสนิท

2.หลังจากแผลแห้ง ปิดสนิทแล้ว ให้เริ่มทา Strataderm ซิลิโคนเจลสำหรับดูแลและรักษารอยแผลเป็น โดยทาเพียงวันละ 1 ครั้ง ทาต่อเนื่องอย่างน้อย 60 วัน สม่ำเสมอ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อาหารลดสิว อาหารกินแล้วสิวลด อาหาร ลดสิว กินยังไงให้หน้าใสไร้สิว

10 อาหารเรียกน้ำนม อาหารบำรุงน้ำนมแม่ แม่หลังคลอดกินแล้วน้ำนมพุ่งปรี๊ด

7 อาหารที่ทำให้จิมิหอมหวานอร่อย กินอะไร จิมิหอม วันนี้มีคำตอบ

บทความโดย

PP.