จากกรณีที่ คุณบุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี ได้โพสต์ในอิสตาแกรมส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องราวของ “น้องหยก” เด็กชายอายุเพียง 3 ขวบ ที่พ่อแม่มีอาชีพเป็นช่างก่อสร้างนั้น จากการสอบถามพบว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา น้องหยกโดนงูเห่ากัดทำให้ไม่หายใจ อาการโคม่า แต่หมอสามารถช่วยชีวิตน้องกลับมาได้ แต่อาการหลังจากนั้นคือชักเกร็ง ตาเหลือกค้างจนต้องปิดตาทั้งสองข้าง
[youtube
พ่อต้องออกจากงานเพื่อมาคอยดูแลน้องตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนแม่ได้งานแม่บ้านมาไม่ถึงเดือน ทั้งครอบครัวยังไม่มีบ้านอาศัย ต้องอยู่แคมป์คนงานก่อสร้าง จึงอยากระดมเงินเพื่อช่วยเหลือน้องหยกและครอบครัวเป็นการด่วน
ล่าสุดน้องหยกได้เข้ารักษาตัวกับทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต โดยระบุว่าที่อาการของน้องสาหัสเนื่องจากมาถึงโรงพยาบาลช้า ทำให้ให้ยาต้านเซรุ่มไม่ทันเวลา อย่างไรก็ตาม จากนี้ทางโรงพยาบาลจะรับน้องเข้ารักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ส่วนเงินที่ได้รับมาจากการบริจาค ก็จะไปช่วยในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวน้องหยกให้ รวมถึงเป็นการสร้างอาชีพให้กับพ่อระหว่างที่ต้องดูแลน้องหยกที่บ้านต่อไปอีกด้วย
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่สนใจสามารถบริจาคเงินได้ที่มารดาของน้องหยกโดยตรงตามรายละเอียดด้านล่างเลยค่ะ
ชื่อบัญชี น.ส.สาวิตรี แจ้งกระจ่าง
ธนาคารกสิกรไทย
เลขที่ 020-3-80294-3
วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นภายหลังถูกงูพิษกัด ประชาชนควรทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนถึงมือแพทย์ โดยบีบเลือดบริเวณบาดแผลออกเท่าที่ทำได้ เพื่อขจัดพิษงูออกจากร่างกาย ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและฟอกสบู่หรือน้ำด่างทับทิม ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง เช็ดแผล และรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด โดยพยายามให้อวัยวะที่ถูกกัดเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด อาจดามบริเวณดังกล่าวให้อยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ เพื่อชะลอการซึมของพิษงู หากเป็นไปได้ ให้นำซากงูพิษที่กัดไปให้แพทย์ดูด้วย
สิ่งที่ไม่ควรทำในการช่วยเหลือผู้ที่ถูกงูพิษกัดคือ
1.ห้ามใช้เหล้า ยาสีฟัน หรือสิ่งอื่นๆ ทาแผล พอกแผล เนื่องจากอาจทำให้แผลติดเชื้อ
2.ไม่ควรกรีดแผล เนื่องจากจะทำให้พิษงูกระจายเข้าสู่ร่างกายได้เร็วขึ้น
3.ไม่ควรใช้ปากดูดเลือดจากแผลงูกัด เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้ดูดได้
4.ห้ามให้ผู้ถูกงูกัดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มผสมคาเฟอีน
5.ห้ามขันชะเนาะเพราะอาจทำให้เนื้อตายได้
ที่มา: ข่าวสด เรื่องเล่าเช้านี้ และ สสส.
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
5 วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อลูกได้รับบาดเจ็บ
ปฐมพยาบาลด่วน! เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าหู ตา จมูกของลูก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!