ไวรัสซิกาเชื้อร้ายพันธุ์ใหม่อันตรายต่อแม่ตั้งครรภ์

ข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาทางภาคตะวันออกของประเทศบราซิลภัยร้ายที่แฝงเงียบมาจากยุงเป็นพาหะนำโรคมาสู่แม่ตั้งครรภ์ และส่งผลโดยตรงต่อระบบสมองทำให้เกิดความผิดปกติสมองลีบแบนพัฒนาการช้า ตัวเล็กแคระแกร็น เมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้คนจำนวนมากรวมถึงหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เรามาทำความรู้จักและเข้าใจไวรัสซิกากันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ไวรัสซิกาเชื้อร้ายพันธุ์ใหม่อันตรายต่อแม่ตั้งครรภ์

ไวรัสซิกา (Zika Virus) คืออะไร

ไวรัสซิกา  (Zika Virus) เป็นเชื้อไวรัสในตระกูลเฟลวิไวรัส  (Flavivirus) ลักษณะคล้ายคลึงกับไวรัสไข้เหลือง  ไวรัสเดงกี  ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้เลือดออก    รวมทั้งไวรัสเวสต์ไนล์ที่เป็นสาเหตุของไข้สมองอักเสบ และเชื้อไข้สมองอักเสบจีอี   ทั้งหมดเกิดจากยุงลายเป็นพาหะ   เชื้อไวรัสซิกาถูกค้นพบครั้งแรกจากในน้ำเหลืองของลิงวอกที่ถูกนำมาจากป่าซิกาในประเทศยูกันดาเพื่อใช้ศึกษาไข้เหลือง  เมื่อปีพ.ศ.2490และในคนเมื่อพ.ศ.2511ในประเทศไนจีเรีย เชื้อไวรัสซิกาพบได้ในแถบประเทศแอฟริกา ทวีอเมริกา  ทวีปเอเชียใต้  และหมู่เกาะในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

อาการของโรค

ระยะฟักตัวเฉลี่ย 4 – 7 วัน  สั้นที่สุด 3 วัน อาการที่พบบ่อย  ได้แก่  มีไข้  ออกผื่น  ตาแดง  ปวดข้อ  ปวดบวม  ปวดหลัง  อาจมีอาการอื่น ๆ ได้ เช่น  อ่อนเพลีย  ปวดศีรษะ  ต่อมน้ำเหลืองโต และอุจจาระร่วง  ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ยกเว้นในหญิงตั้งครรภ์ที่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ทำให้มีสมองเล็ก (Microephaly) หรือมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์

พาหะนำโรค

ยุงลายบ้าน (Aedes aegypti) เป็นตัวการสำคัญที่นำพาเชื้อไวรัสซิกาและแพร่กระจายในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งยุงลายบ้านเป็นพาหะนำไข้เหลือง ไข้เลือดออก และไวรัสชิคุนกุน ความรุนแรงของไวรัสซิกาเป็นเชื้อโรคที่อันตรายและร้ายแรงมาก  ปัจจุบันทำได้แค่เพียงควบคุมและลดปริมาณในการขยายตัวของยุงลาย  โดยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค

กลุ่มเสี่ยง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

กลุ่มเสี่ยง คือ  ผู้ที่เดินทางไปในที่ที่มีการระบาดอย่างกว้างขวาง  เช่น  ทวีปอเมริกา  และทวีปแอฟริกาตะวันตก  โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์  อาจเกิดการติดเชื้อส่งผลให้ทารกในครรภ์มีขนาดศีรษะที่เล็กผิดปกติและสมองฝ่อได้  ส่วนในประเทศไทย  นายแพทย์อำนวย  กาจีนะ  อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ  ให้ข้อมูลว่า  พบผู้ป่วยตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 5 ราย  ซึ่งไม่ถือว่าสูงผิดปกติ  อัตราป่วยใกล้เคียงกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีการเฝ้าระวังโรคนี้แล้วตั้งแต่ปีพ.ศ.2555

การตรวจวินิจฉัยโรค

นายแพทย์อำนวย  กาจีนะ  อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ   กล่าวว่าการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อโดยการตรวจเลือดผู้ป่วยในระยะเฉียบพลันเพื่อตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสซิกา  ส่วนการตรวจหาแอนติบอดีไม่สามารถใช้ได้  เนื่องจากมีผลบวกสูงและสามารถส่งเลือดมาตรวจได้ที่สถาบันบำราศนราดูร  กรมควบคุมโรค และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  รวมทั้งคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การรักษา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยารักษาเฉพาะโรค  เพียงแต่รักษาตามอาการ   รัฐบาลประเทศเอกวาดอร์ จาเมกา โคลอมเบีย และเอลซัลวาดอร์ แนะนำให้ผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ ชะลอการมีบุตรออกไปก่อน 8 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงที่ทารกจะพิการจากการที่มารดาติดไวรัสซิกา เนื่องจากในขณะนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังไม่สามารถควบคุมและหาวิธีป้องกันการติดต่อของไวรัสได้ และข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคนี้ก็ยังมีน้อยเกินไป

สถานการณ์ของไวรัสซิกาในประเทศไทยและต่างประเทศ

จากรายงานขององค์การอนามัยโลก  พบว่า  เชื้อไวรัสซิกาได้ระบาดหนักในแถบทวีปอเมราใต้อย่างหนักตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2558  โดยเฉพาะในประเทศบราซิลและโคลอมเบีย ซึ่งประเทศบราซิลถือว่าเป็นประเทศที่มีการระบาดอย่างหนักที่สุดถึงขั้นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน  หลังพบเด็กทารกติดเชื้อและมีความผิดปกติของสมองกว่า 4 พันราย ส่วนในประเทศโคลอมเบียมีการคาดการณ์ว่า  การระบาดของเชื้อไวรัสซิกาอาจทำให้มีผู้ป่วยถึง 6 – 7 แสนราย ทางกระทรวงสาธารณสุขโคลอมเบียจึงออกประกาศแนะนำให้สตรีเลื่อนกำหนดการตั้งครรภ์ออกไป 6-8 เดือนเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัสซิกา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับประเทศไทย  หลังพบการติดเชื้อไวรัสซิกาของนักท่องเที่ยวจากประเทศคานาดาเมื่อปีพ.ศ.2556 ก็ยังไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่อย่างใด  แต่คงมีการเฝ้าระวังการติดเชื้อจากกรมควบคุมโรคติดต่ออย่างใกล้ชิด

ส่วนผู้เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในประเทศไทย มีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง หรือปวดข้อ สามารถมารับการรักษาและปรึกษาได้ที่คลินิกเวชศาสตร์การท่องเที่ยวและการเดินทาง สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล และสามารถรับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://health.kapook.com/

https://health.mthai.com/

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 

เตือน “หญิงมีครรภ์”หลีกเลี่ยงเดินทาง 42 ประเทศเสี่ยง”ไวรัสซิกา”

การฉีดวัคซีนก่อนตั้งครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา