ขวดนมคืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ลูกน้อยดื่มนมแม่ที่ปั๊มออกมาได้สะดวกมากขึ้น คุณแม่ก็จะได้สลับพักเต้าหลังจากปั๊มนมด้วย การเลือก ไซซ์จุกนม จึงต้องเลือกให้เหมาะกับลูกตัวน้อยทั้งขนาดและวัสดุ เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกถึงความคุ้นชินของเต้านมแม่ นอกจากนี้คุณแม่สามารถเลือกไซซ์จุกนมให้เหมาะกับอายุของลูกจะช่วยให้กินนมได้ต่อเนื่องและป้องกันการสำลักได้ค่ะ
การเลือกจุกนมให้เหมาะกับลูก
-
แบบที่นิยมใช้
- จุกนมแบบยาง : ทำจากยางพารา เป็นสีน้ำตาลนิ่ม ๆ อายุการใช้งานประมาณ 3 เดือน ทนความร้อนได้เพียง 100 องศา ห้ามผ่านความร้อนสูงบ่อย ๆ
- จุกนมแบบซิลิโคน : มีสีขาวใส เป็นที่นิยม เนื่องจากมีความทนทาน ทนความร้อนถึง 120 องศา อายุการใช้งานนานถึง 6 เดือน
-
รูปทรงของจุก
- จุกนมปลายมน : เป็นจุกนมที่เห็นทั่วไป ที่มีปลายจุกกลมมน รูปทรงคล้ายระฆัง
- จุกนมปลายแบนเรียบ : เป็นจุกนมที่มีฐานกว้าง โดยมีปลายจุกนมแบนราบ เป็นชนิดที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนให้เด็กดื่มนมผง หรือนมที่ปั๊มไว้ แทนนมจากอกแม่
- จุกนมปลายแหลมแบน : ออกแบบรองรับกับเพดานปาก เหงือก และลิ้นของเด็ก โดยปลายที่แบนออกมาจะวางพอดีบนลิ้น ขณะที่เด็กดูดนม
-
ขนาด
จุกนมจะมีด้วยกัน 3 ไซซ์ S M L มีการระบุไซซ์ข้างกล่อง
-
- Size S หรือ SS เหมาะกับเด็กแรกเกิด จนถึง 3 เดือน เนื่องจากเด็กเล็กจะดูดนมได้ช้า และปริมาณน้อย เนื่องจากกล้ามเนื้อช่องปากยังไม่แข็งแรง ถ้ารูจุกนมกว้างเกิน จะทำให้เด็กสำลักได้
- Size M เหมาะสำหรับเด็ก อายุ 3-6 เดือน
- Size L เหมาะสำหรับเด็ก อายุ 6 เดือนขึ้นไป
- Size พิเศษ หรือ จุกนมขนาดพิเศษ ที่เหมาะกับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ หรือสำหรับเด็กที่มีแรงดูดน้อยมี 2 ขนาด คือ ขนาดมาตรฐาน (R) และขนาดเล็ก (S) ลักษณะปลายจุกนมตัดเป็นรูปตัว Y ด้านที่มีรูอากาศจุกนมจะบางกว่าอีกด้านหนึ่ง เพื่อช่วยให้เด็กใช้ลิ้นและริมฝีปากดูดน้ำนมได้ดียิ่งขึ้น และยังมีวาล์วป้องกันการไหลย้อนกลับของน้ำนม ขณะที่ดูดอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : การเลือกขวดนม และจุกนมที่คุณแม่ควรรู้!! ขวดนมเด็กแรกเกิด เลือกยังไง?
ถึงเวลาเปลี่ยนจุกนม
อายุที่อยู่บนกล่องผลิตภัณฑ์ หรือตัวผลิตภัณฑ์ เป็นข้อแนะนำ หรือเป็นการประมาณช่วงอายุที่ควรเปลี่ยนจุกนม เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีขนาดตัวไม่เท่ากัน แรงดูดก็อาจจะไม่เท่ากัน
คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกต ปริมาณการไหลของน้ำนมจากจุกว่ายังเพียงพอต่อความต้องการของลูกหรือไม่ เพราะถ้าหากจุกนมเล็กไปจนปริมาณน้ำนมที่ไหลไม่เพียงพอ ลูกน้อยก็จะส่งสัญญาณบอก การเปลี่ยนจุกนมใหม่ นอกจากจะดูที่ความต้องการของเด็กแล้ว ยังจะต้องหมั่นตรวจสอบคุณภาพของจุกนม ทุก ๆ 2 – 3 เดือน เพื่อในแน่ใจว่าจุกนมสำหรับลูกอันเป็นที่รักนั่นยังอยู่ในสภาพดี เนื่องจากอายุการใช้งานของจุกนมขึ้นอยู่กับชนิดและลักษณะการใช้งาน ควรเปลี่ยนจุกนมหากจุกนมมีลักษณะดังนี้
การเปลี่ยนจุกนม คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาอยู่ 2 ปัจจัยหลัก สำหรับการเปลี่ยนจุกนม
1. ความต้องการของลูกน้อยของคุณ
2. การเสื่อมสภาพของจุกนม
จุกนมเสื่อมคุณภาพสังเกตจากอะไร
- ปกติแล้วน้ำนมที่ไหลออกจากจุกนมจะต้องไหลออกมาเป็นหยด หากน้ำนมไหลออกมาเป็นสาย หรือไหลออกมาไม่สม่ำเสมอ ก็แสดงว่าจุกนมนั้นเริ่มเสื่อมคุณภาพแล้ว เพราะรูของจุกนมนั้นใหญ่เกินไป
- จุกนมเมื่อใช้ไปนาน ๆ ผ่านการต้มฆ่าเชื้อโรคบ่อย ตัวเนื้อยางจะบางลง และเสียรูปทรง สามารถทดสอบได้โดยการดึงจุกนม ออกมาตรง ๆ แล้วปล่อย ถ้าจุกนมหดกลับสู่สภาพเดิมก็แสดงว่าจุกนมยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ แต่ถ้าไม่กลับไปอยู่ในรูปเดิมก็แสดงว่า จุกนมเสื่อมสภาพ
- สังเกตจากลักษณะของจุกนม หากจุกนมบวม เนื้อยางบวมนิ่ม เวลาที่ลูกดูดจุกนมจะแบนจนน้ำนมไม่ไหล แสดงว่าจุกนมเสื่อมสภาพแล้ว
- หากจุกนมมียางแตกหรือขาด ต้องเลิกใช้ทันที เพราะอาจมีเศษยางหลุดปนเข้าไปในปากขณะที่ลูกดูดนม เศษยางอาจจะไปติดหลอดลม ทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้
- ตอนที่เด็กเริ่มออกแรงมากในการดูดนม หรือสังเกตง่าย ๆ ว่าเด็กจะออกแรงดูดจนแก้มบุ๋ม
- เมื่อลูกน้อยดูดนมไปได้สักพักแล้วร้องงอแง เสียงร้องนั่นก็อาจเป็นการบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าน้ำนมไหลไม่ทันใจลูกน้อย
- ลูกน้อยดูดนมไปเพียงนิดเดียวก็หอบเหนื่อยและหลับไป โดยอีกไม่นานก็ตื่นอีกเพราะหิว หากมีสัญญาณจากลูกน้อยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเปลี่ยนขนาดจุกนม เพื่อให้ปริมาณน้ำนมไหลปกติ เด็กก็จะอารมณ์ดีไม่ร้องบ่อย
ทำความสะอาดจุกนมอย่างไร
เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดกับลูกรัก ควรใส่ใจทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกชนิดที่ใช้กับทารกรวมทั้งจุกนม โดยมีวิธีล้างและเก็บรักษาจุกนม ดังนี้
- หลังซื้อจุกนมมาใหม่ ๆ ให้ฆ่าเชื้อจุกนมโดยนำไปต้มทิ้งไว้ในหม้อประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างจุกนมด้วยสบู่และน้ำอุ่นแล้วผึ่งทิ้งไว้ให้แห้ง
- หลังการใช้งานให้ล้างจุกนมด้วยสบู่และน้ำอุ่นทันที โดยใช้แปรงล้างจุกนมเพื่อให้สามารถทำความสะอาดในบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก และต้องระมัดระวังไม่ใช้แปรงนี้ทำความสะอาดผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น
- หลังล้างจุกนมแล้ว ให้ผึ่งจุกนมจนแห้งสนิทก่อนนำไปใช้งานอีกครั้ง
- หากเป็นจุกนมชนิดที่สามารถล้างในเครื่องล้างจานได้ ให้วางจุกนมไว้ที่ชั้นบนสุดในเครื่องล้างจาน
- ห้ามใช้จุกนมที่มีสภาพบุบสลายหรือปลายจุกมีรอยแตก โดยทิ้งจุกนมนั้นทันทีหากพบปัญหาดังกล่าว
- เมื่อต้องนำจุกนมไปใช้งาน ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยิบจับจุกนมและขวดนม
บทความที่เกี่ยวข้อง : ขวดนมและจุกนมของลูกควรเปลี่ยนตอนไหน รู้ไหมว่า แค่ล้างแล้วใช้ยาว ๆ ไม่พอนะ
จุกหลอก คืออะไร
จุกหลอก คือ จุกนมที่ช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย ป้องกันเด็กดูดนิ้ว และช่วยเบี่ยงเบนความสนใจให้เด็กหยุดร้องไห้ โดยจุกหลอกที่วางขายในปัจจุบันมีให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทั้งตามขนาดที่ขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก และตามวัสดุที่ใช้ผลิตทั้งยางและซิลิโคน
-
เด็กควรเริ่มใช้เมื่อไร
หากเด็กยังดูดนมจากอกแม่ ควรรอให้เด็กมีอายุ 3-4 สัปดาห์ก่อน จึงค่อยเริ่มให้ใช้จุกหลอก เพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับการดื่มนมจากอกแม่ แต่หากเด็กจำเป็นต้องดูดนมจากขวดนมตั้งแต่แรกก็สามารถเริ่มใช้จุกหลอกได้ทันที เนื่องจากจุกจากขวดนมและจุกหลอกนั้นมีลักษณะคล้ายกัน
-
เด็กควรหยุดใช้จุกหลอกเมื่อไร
พ่อแม่ควรให้เด็กเล็กเลิกใช้จุกหลอกตั้งแต่อายุ 6 เดือนจนถึง 1 ปี อย่างไรก็ตาม เด็กส่วนใหญ่มักเลิกใช้จุกหลอกไปเองในช่วงอายุ 2-4 ปี แต่หากเด็กติดดูดจุกหลอกจนไม่สามารถเลิกเองได้ พ่อแม่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีช่วยให้เด็กเลิกติดจุกหลอก
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณแม่ก็สามารถเลือก ไซซ์จุกนม ให้ลูกได้อย่างเหมาะสมแล้วนะคะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ก็สามารถดูข้อมูลแล้วไปเลือกซื้อกันได้เลย ทั้งนี้อย่าลืมเลือกจุกนมที่มีมาตรฐานและใช้วัสดุที่ปลอดภัยนะคะ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ลูกกินนมได้สะดวก แถมยังปลอดภัยต่อสุขภาพลูกอีกด้วยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เลิกจุกนมได้เมื่อไหร่ เลือกจุกนมแบบไหน ให้ลูกดูด
10 จุกนมหลอกเด็ก จุกหลอกทารก ชวนเหล่าคุณพ่อคุณแม่ช้อปปิ้ง
จุกนมหลอก จุกนมปลอม เสี่ยงทำให้ลูกพูดช้า ฟันไม่สวย ฟันเก จริงไหม
ที่มา : 1, parentsone