ไข้เลือดออก 2561
สถานการณ์ ไข้เลือดออก 2561 น่าเป็นห่วง! กรมควบคุมโรค ระบุ แม้ว่าจะยังไม่เข้าสู่หน้าฝนและจำนวนผู้ป่วยใกล้เคียงกับทุกปี แต่พบว่าอัตราป่วยตายสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคกลางและภาคใต้ที่มีอัตราป่วยตายสูงกว่าปกติถึง 2 เท่า แนะหากมีอาการสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เน้นดูแลเป็นพิเศษในกลุ่มผู้มีโรคประจาตัวหรือภาวะเสี่ยง โดยปีนี้พบผู้เสียชีวิตในกลุ่มนี้มากถึง 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
ในปี 2561 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 6,565 ราย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง พบว่า ในปี 2561 นี้มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 6,565 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับทุกปีในช่วงเวลาเดียวกัน และได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 18 ราย โดยเป็นผู้เสียชีวิตที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะเสี่ยง 14 ราย (3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด) ได้แก่ ภาวะอ้วน 4 ราย เบาหวานและความดันโลหิตสูง 2 ราย โรคเลือด 2 ราย ลมชักและบกพร่องทางสติปัญญา 2 ราย ติดสุรา 1 ราย ลิ้นหัวใจรั่ว 1 ราย ทารก 1 ราย และอยู่ระหว่างมีประจำเดือน 1 ราย
10 จังหวัด มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสูงสุด
ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 10 อันดับแรกในช่วง 4 สัปดาห์ล่าสุด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ระนอง ระยอง นครศรีธรรมราช และพิจิตร ตามลาดับ ซึ่งสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในภาพรวมของประเทศไทยปีนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะระบาดรุนแรง แต่จากข้อมูลพบว่ามีอัตราป่วยตายสูงขึ้นจากปกติ โดยเฉพาะในภาคกลางและภาคใต้ที่มีอัตราป่วยตายร้อยละ 0.25 และ 0.26 ตามลาดับ ซึ่งสูงกว่าปกติประมาณ 2 เท่า (อัตราป่วยตายปกติ : 0.1)
วิธีป้องกันโรคไข้เลือดออก
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า แม้ในช่วงนี้จะยังไม่เข้าสู่หน้าฝนก็ตาม แต่เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ร้อนสลับฝน จึงอาจเกิดน้ำขังตามภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้ กรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ
- เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง
- เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
- เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิดหรือปล่อยปลากินลูกน้ำ ป้องกันยุงลายไปวางไข่
เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย
วิธีสังเกตว่าเป็นโรคไข้เลือดออก
กรมควบคุมโรค ได้สั่งการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 เขต และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ให้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ที่จำเป็นแก่ประชาชนทั้งในส่วนของมาตรการและการป้องกันโรค หากประชาชนหรือคนในครอบครัว โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือภาวะเสี่ยง มีอาการสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก เช่น
- ไข้สูงมากโดยฉับพลัน
- ปวดเมื่อย
- หน้าตาแดง
- อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ
ถ้ามีไข้สูง 2-3 วันไม่หายหรือไม่ดีขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ที่มา : https://www.riskcomthai.org
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทารกแรกเกิดเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง ปัญหาที่พบบ่อยในทารกแรกเกิด แม่ต้องรู้และระวังลูกน้อยเอาไว้
กันไว้ดีกว่าแก้! โรคที่มากับหน้าร้อน จ้องเล่นงานเจ้าตัวเล็ก
ทารกน้อยหายใจเสียงดัง มีน้ำมูก จากภาวะ nasal snuffles ลูกป่วยหนักหรือเปล่า
ไม่อยากให้ลูกต้องป่วยบ่อย ต้องสอนลูกให้ทำแบบนี้