แม่ท้องตามใจปากได้แค่ไหน? ไขข้อสงสัยเรื่อง จานโปรดตอนป่อง จากนักกำหนดอาหารตัวจริง

lead image

เป็นที่รู้กันว่าคุณแม่ท้องมักจะมีความอยากอาหารและ จานโปรดตอนป่อง ที่ไม่ธรรมดา แต่ว่าเมนูเหล่านั้นดีต่อสุขภาพของแม่ หรือไม่? คุณแม่สามารถตามใจปากตัวเองได้แค่ไหน? มาติดตามคำตอบจากนักกำหนดอาหารตัวจริงกันดีกว่าค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นอกจากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเวลาที่ได้เห็น จานโปรดตอนป่อง ของคุณแม่แต่ละคน แล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีคำถามในใจว่า เมนูแปลก ๆ เหล่านั้นมีผลอย่างไรกับสุขภาพของแม่? แล้วคุณแม่ตามใจปากตัวเองได้มากแค่ไหนกัน?

จานโปรดตอนป่อง

เป็นที่รู้กันดีนะคะ ว่าเมื่อแม่อย่างเราตั้งท้อง หลายคนมักจะมีอาการแพ้ท้องและต้องการรับประทานเมนูแปลกที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเมนูของแต่ละคนนั้นก็มีแตกต่างกันไป และในวันนี้ ทาง tAP ได้รวบรวมผลสำรวจน่าสนใจเกี่ยวกับ จานโปรดตอนป่อง ของคุณแม่ไทย จากโพลสำรวจของ Anmum Club Thailand และความคิดเห็นจากคุณแม่ไทยที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นในไลฟ์สดกับนักกำหนดอาหาร เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่ง 5 อันดับจานโปรดตอนป่องสูงสุดนั้นได้แก่ 1. ขนมหวาน 2. ทุเรียน 3. ผักผลไม้ 4. อาหารรสจัด และ 5. แมลงทอด ตามลำดับค่ะ

โภชนาการที่ดี เป็นหัวใจสำคัญสำหรับสุขภาพของคุณแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์ มาดูกันดีกว่าว่า จานโปรดตอนป่อง ของคุณแม่ไทย มีโภชนาการที่เหมาะสมหรือไม่

นักกำหนดอาหารตัวจริงอย่าง คุณแตน ภนิตา จตุรวิทย์ ผู้จัดการศูนย์โภชนาการและการกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเทพธารินทร์ มีความเห็นและมีคำแนะนำอย่างไรมาติดตามกันเลยค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับ 5 อันดับสูงสุด จานโปรดตอนป่อง ของแม่ไทยนั้น จัดเป็นกลุ่มอาหารที่มีโภชนาการที่ดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณหรือสัดส่วนที่เหมาะสมในการรับประทานอาหารชนิดนั้นๆ ด้วย จากผลโพล ขนมหวาน ถือเป็นอาหารยอดฮิตกันเลยทีเดียว สิ่งที่คุณแม่ท้องควรใส่ใจคือ ต้องระมัดระวังในการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลมากเกินไป เพราะถือเป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์

ในส่วนของทุเรียนนั้น จัดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย โดยเฉพาะโฟเลตซึ่งมีอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างสูงมาก โฟเลตจะช่วยทำให้เซลล์ตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นปกติ ป้องกันความพิการแต่กำเนิด ลดโอกาสเกิดภาวะหลอดประสาทไม่ปิด รวมถึงโรคปากแหว่งเพดานโหว่ แต่หากคุณแม่รับประทาน ในปริมาณที่มากเกินไป จากประโยชน์ก็อาจกลายเป็นโทษแทน เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีกำมะถันที่ออกฤทธิ์ร้อนแก่ร่างกาย ทำให้เป็นร้อนในง่าย แนะนำกินเพียงวันละ 1 พู พอให้ได้รู้สึกฟินกันก็พอนะคะ

สำหรับผักผลไม้ นับเป็นกลุ่มอาหารที่ดี เพราะนอกจากวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ แล้ว คุณแม่ท้องยังได้ใยอาหารอีกด้วย ซึ่งจะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาท้องผูกให้กับบรรดาแม่ท้อง แต่อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอด้วยนะคะ ประมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน หรือ 7-8 แก้วต่อวัน (โดยเฉลี่ยแก้วละ 200 ซีซี) นอกจากนี้ การควบคุมปริมาณผลไม้ ไม่รับประทานมากจนเกินไปยังคงดีต่อสุขภาพของแม่ๆ เสมอ เพราะถ้ารับประทานมากเกินไปก็จะได้รับปริมาณน้ำตาลมากไปด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มาถึงอันดับที่ 4 อาหารรสจัด ความจริงแล้วสิ่งที่ส่งไปถึงลูกคือสารอาหารเท่านั้น รสชาติจัดจ้านไม่ว่าจะเป็นเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม ไม่ได้ส่งไปถึงลูกเลย แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ผลของการเปลี่ยนแปลงทางด้านฮอร์โมนที่ทำให้ลำไส้ของคุณแม่เคลื่อนไหวและบีบตัวช้าลง กระเพาะอาหารและระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง อาจทำให้แม่ท้องเกิดอาการกรดไหลย้อน มีอาการแสบร้อนกลางอก ยิ่งหากกินอาหารรสเผ็ดจัดก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความแสบร้อนทรมานมากขึ้น รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดอาการอาหารเป็นพิษอีกด้วย นอกจากนี้อาหารรสจัดมักมีส่วนประกอบของทั้งน้ำตาลและเกลือโซเดียมที่ค่อนข้างมาก รับประทานน้ำตาลมากๆ ก็เสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ส่วนปริมาณโซเดียมในอาหารที่มากเกินไปก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะบวมน้ำได้ง่ายขึ้น

และสุดท้ายสำหรับแมลงทอด นับว่าเป็นอาหารโปรตีนสูง ทั้งยังมีสารไคติน ซึ่งเมื่อถูกย่อยส่วนหนึ่งจะได้เป็นสารไคโตซาน ทั้งไคตินและไคโตซานสามารถจับกับไขมัน ช่วยให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลงลงได้ แต่สิ่งที่แม่ท้องควรระวัง หากรับประทานบ่อยๆ ในปริมาณที่มากเกินไป คือ ไขมันไม่ดีต่อร่างกาย ที่มาจากน้ำมันสัตว์คุณภาพต่ำและใช้ทอดซ้ำแล้วซ้ำอีกของพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงปริมาณโซเดียมที่มาจากเครื่องปรุงรสที่ใส่เพื่อเพิ่มรสชาติของแมลงทอด นอกจากนี้ อีกด้านหนึ่งของไคตินและไคโตชานนั้น อาจก่อให้เกิดความบกพร่องในการดูดซึมแคลเซียม ส่งผลถึงความผิดปกติของการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ได้ แนะนำว่าไม่ควรรับประทานบ่อย อาจรับประทานเพียงเดือนละ 1-2 ครั้ง เน้นรับประทานอาหารอื่นๆ ให้ครบห้าหมู่และมีความหลากหลายจะดีกว่ามากค่ะ

มาถึงคำถามที่หลายคนสงสัยว่า “คุณแม่ท้องสามารถตามใจปากตัวเองได้ขนาดไหน?” เพราะบางเมนูใน 5 อันดับนั้น อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วดูเป็นอาหารที่ไม่ควรกินเยอะเท่าไหร่นัก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ซึ่งคุณแตน ได้ให้คำตอบที่น่าสนใจไว้ว่า “ตามใจตัวเองได้ค่ะ ตราบใดที่คุณแม่ไม่ได้อยากรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือไม่ปลอดภัย  แต่ห้ามลืมนะคะ ว่าการเลือกรับประทานอาหารที่มีโภชนาการและสมดุลที่ดีนั้นเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพครรภ์ที่ดี การตามใจปากจนเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ไปตลอดชีวิตของเขาได้ เนื่องจากการรับประทานอาหารในขณะตั้งครรภ์ส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยโดยตรง อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมสุขภาพคุณแม่จากการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและอารมณ์ด้วย ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารระหว่างตั้งครรภ์ให้ถูกหลักโภชนาการ และการควบคุมสัดส่วนของอาหารจึงเป็นเรื่องที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญมาก ๆ ค่ะ”

สรุปแล้วก็คือ คุณแม่ตามใจตัวเองได้นะคะ แต่ห้ามลืมคำนึงถึงความปลอดภัยและโภชนาการที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ นั่นเอง ดังนั้น เมื่อตามใจตัวเองพอสมควรแล้ว ขอแนะนำว่าอย่าลืมหาเมนูเสริมที่มีประโยชน์ต่อตัวเองและถูกหลักโภชนาการอย่างเช่น  นมแอนมัม ที่อร่อยทั้งแบบผงและยูเอชทีมีสารอาหารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อครรภ์ และมีหลากหลายรสชาติให้เลือก สามารถใช้ทำเป็นเมนูใหม่ ๆ น่าลิ้มลองและไม่น่าเบื่อ เชื่อว่าคุณแม่หลายคนอาจจะติดใจจนนำไปเป็น จานโปรดตอนป่อง ของตัวเองแน่นอนค่ะ คุณแม่สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.anmum.com/th หรือทาง Facebook Anmum Club Thailand ได้ค่ะ

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team