ซึ่งกว่าลูกจะถึงวัยเรียนคุณแม่สามารถเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกโดยดูแลให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ดีด้วยการกินนมเสริม จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์สายพันธุ์ แล็กโทบาซิลลัส แรมโนซัส GG (LGG) เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันผ่านลำไส้ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของลูกนั้นกว่า 80% อยู่ที่เนื้อเยื่อน้ำเหลืองใต้เยื่อบุลำไส้และต่อมน้ำเหลือง (mesenteric nodes) จึงต้องมั่นใจว่าลูกน้อยได้รับจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อย่าง LGG ซึ่งพบมากในนมแม่และมีผลการวิจัยรับรองผลมากที่สุด โดยมีคุณสมบัติโดดเด่นที่สามารถเกาะติดเยื่อบุลำไส้ได้เหนือกว่าจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์สายพันธุ์อื่น และเมื่อ LGG ได้รับอาหารจุลินทรีย์ ซึ่งก็คือ ใยอาหารธรรมชาติ PREBIO1 ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มจำนวน LGG ให้สามารถเกาะติดผิวเยื่อบุลำไส้ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ช่วยปกป้องลูกน้อยจากเชื้อโรคต่างๆที่มักเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อบุลำไส้ และเมื่อระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้แข็งแรง ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ รวมถึงเยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบนก็จะแข็งแรงไปด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่า เด็กที่มีผู้ปกครองเลี้ยงเองที่บ้าน มักไม่ค่อยเจ็บป่วย เพราะลูกจะมีความต้านทานต่อเชื้อของคนในครอบครัว ต่างจากการให้ลูกเข้าสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือโรงเรียนอนุบาล ซึ่งเป็นแหล่งที่เด็ก ๆ ได้อยู่รวมกันหลาย ๆ คน เด็กจึงได้รับเชื้อจากเพื่อน ๆ (germ sharing) โดยที่ไม่เคยได้รับมากก่อนจึงไม่มีภูมิคุ้มกัน และแม้ว่าจะได้รับวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ไม่สามารถป้องกันครอบคลุมได้ทั่วถึง เพราะส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสซึ่งมีเป็นร้อยๆชนิด
ปัญหาเมื่อลูกป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
อาการที่ลูกป่วยในช่วงวัยก่อนเรียน 2-3 ขวบ หรือช่วงก่อนเข้าโรงเรียน จึงมักพบเป็นอาการเดิม ๆ คือ ไข้ขึ้น น้ำมูกไหล ไอ ซึ่งการไปหาแพทย์เด็กมักจะได้รับการรักษาด้วยยารักษาตามอาการ และ/หรือยาฆ่าเชื้อ แต่เมื่อหายดีกลับไปโรงเรียน ก็ได้รับเชื้อใหม่ที่ตนเองไม่มีภูมิอีก ทำให้เกิดการเจ็บป่วยแทบทุกเดือน
ทุกครั้งที่ลูกมีการเจ็บป่วย ไอ อาเจียน กินอาหารได้น้อยลง จะส่งผลให้เด็กขาดอาหารเฉียบพลัน นอนน้อย งอแง ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพ การเติบโตอาจหยุดชะงักเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะถ้ามีการติดเชื้อรุนแรงอาจเกิดปอดบวม บางคนอาจถูกซ้ำเติมด้วยเชื้อดื้อยา ซึ่งจำเป็นต้องเข้านอนรักษาในโรงพยาบาล ทำให้เสียสุขภาพและสูญเสียค่าใช้จ่ายปีละมาก ๆ ทำให้พ่อแม่บางคนตัดสินใจไม่ให้ลูกไปโรงเรียนเป็นเดือน ๆ ด้วยความห่วงใยวิตกกังวลเป็นสาเหตุให้เด็กขาดโอกาสการเรียนรู้
ดื่มนมที่มี “จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG และพรีไบโอวัน” ช่วยสร้างภูมิคุมิกันให้ลูกได้
ในยุคที่จุลินทรีย์โพรไบโอติกมีความสำคัญในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จึงได้มีการนำจุลินทรีย์สายพันธุ์ต่าง ๆ มาใช้ในการป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ซึ่งสายพันธุ์หนึ่งที่ได้มีการนำไปเสริมในนมคือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กลไกการทำงานของจุลินทรีย์ที่ส่งผลทำให้เกิดกระบวนการป้องกันการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจนั้น อธิบายได้ว่ากระบวนการการทำงานของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG ที่เกาะผิวเยื่อบุลำไส้ จะไปกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อน้ำเหลืองใต้เยื่อบุลำไส้ให้เคลื่อนตัวเข้าสู่กระแสเลือด และส่งผ่านไปที่อวัยวะต่าง ๆ เพื่อทำการสั่งให้เซลล์บริเวณนั้นสร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ (secretory IgA) และกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อได้ดีขึ้น
ได้มีการติดตามผลรวบรวมวิเคราะห์จากการศึกษา 4 ชิ้น จากเด็กทั้งหมด 1,805 คน โดยเก็บข้อมูลการเจ็บป่วยในกลุ่มเด็กที่อายุ 1 ปีขึ้นไป พบว่าเด็กที่ได้รับ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG อย่างน้อย 3 เดือนจะเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบลดลง 5 – 10% โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนลดลง การใช้ยาฆ่าเชื้อก็ลดลง เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้รับ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ LGG
ปัญหาเกี่ยวกับโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนในเด็ก หรือการที่เด็กเป็นหวัด ไข้ขึ้น น้ำมูกไหล ไม่สบาย จัดเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับต้น ๆ ที่ได้มีความพยายามลดความถี่และความรุนแรงของกลุ่มอาการติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กก่อนวัยเรียน ด้วยการส่งเสริมให้เด็ก ๆ เน้นล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมให้สะอาด ให้ลูกได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่ และแบคทีเรีย เช่น Invasive Pneumococcal Disease, IPD เป็นต้น ให้กินอาหารเด็กตามวัยที่เหมาะสมและเพียงพอ รวมถึงการเลือกให้ลูกได้ดื่มนมที่มีพรีไบโอวันเสริมจุลินทรีย์ “แล็กโตบาซิลลัส แรมโนซัส GG ”(LGG) ที่มีศักยภาพในการลดการเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบ และช่วยลดการเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนของลูกได้อีกทาง
ตรวจทานโดย ศ. เกียรติคุณ พญ. วันดี วราวิทย์