โรคไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ต้นเหตุที่ทำให้เด็กน้อยคนหนึ่ง จากไปแบบไม่มีวันกลับ
เรื่องราวอันน่าเศร้า ของเด็กหญิงตัวน้อย ผู้ซึ่งป่วยด้วย โรคไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น โดยคุณแม่ท่านหนึ่ง ได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการที่ลูกของเธอต้องเสียชีวิต เพราะโรคร้ายที่มีชื่อว่า “ไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น”
วันพุธที่ 10 มกราคม 2561 ลูกสาวของเธอที่มีชื่อว่า Gavriella มีอาการปวดท้อง และมีไข้ขึ้นสูงถึง 38 องศาเซลเซียส
วันต่อมา ลูกของเธอก็ยังคงมีอาการตัวร้อนอยู่ เธอจึงได้ให้ลูกกินยาลดไข้ จนกระทั่งถึงตอนเย็น Gavriella ก็ยังคงตัวร้อนอยู่ เธอจึงตัดสินใจพาลูกสาวของเธอไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาล ซึ่งคุณหมอได้ทำการวินิจฉัยเบื้องต้นพบว่า Gavriella ป่วยด้วยเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง
ในระหว่างที่รอรับยาอยู่ที่โรงพยาบาล Gavriella ลูกสาวของเธอยังคงวิ่งเล่นซุกซนตามประสาเด็กน้อย แม้ว่าจะยังมีอาการไข้และตัวร้อนอยู่ จนกระทั่งเธอให้ลูกของเธอกินนม แล้วจู่ ๆ ลูกสาวของเธอก็มีอาการตัวสั่น
หลังจากนั้น Gavriella ก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ไข้ขึ้นสูงถึง 41 องศาฯ แล้วเธอก็เริ่มมีอาการชัก และเริ่มอาเจียน
จนในวันที่ 12 มกราคม หนูน้อย Gavriella มีอาการชัก ถึง 3 ครั้ง จนกระทั่งหมดสติ และในช่วงสายของวันนั้น เธอก็ไร้รับการตรวจด้วยเครื่อง ซีที สแกน พบว่ามีอาการบวมของหลอดเลือดที่ด้านหลังของสมอง จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าเธอป่วยเป็นโรคไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น
แม้ทีมแพทย์และผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะรักษาหนูน้อยรายนี้ให้หายเป็นปกติ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2561 หลังจากต้องทนเจ็บปวดกับอาการของโรคสมองอักเสบญี่ปุ่นมากว่าสัปดาห์ หนูน้อย Gavriella ก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ
ทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ทุกคนขอแสดงความเสียใจกับการจากไปด้วยนะครับ
โรคสมองอักเสบญี่ปุ่น เป็นอย่างไร ติดต่อได้อย่างไร มีวิธีป้องกันอย่างไร ติดตามต่อหน้าถัดไป >>>
โรคสมองอักเสบญี่ปุ่น คืออะไร
โรคสมองอักเสบญี่ปุ่น เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเจอีที่สมอง สามารถติดต่อผ่านโดยยุง ชนิด Culex tritaeniorrhynchus ซึ่งมักแพร่พันธุ์ในนาข้าว โดยโรคนี้ เป็นโรคสมองอักเสบชนิดที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย
โรคสมองอักเสบญี่ปุ่นเป็นโรคไวรัสที่มีความรุนแรงทั้งในคน และสัตว์ อาการป่วยพบตั้งแต่มีอาการเล็กน้อย คือ มีไข้ อ่อนแรง จนถึงการติดเชื้อในสมองขั้นรุนแรง ทำให้เกิดสมองอักเสบ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
โรคสมองอักเสบญี่ปุ่น ติดต่อได้อย่างไร
โรคสมองญี่ปุ่นติดต่อได้จากการถูกยุงที่มีเชื้อไวรัสโรคสมองอักเสบญี่ปุนกัด แต่ไวรัสไม่สามารถติดต่อจากคน หรือสัตว์ได้โดยตรง
คนส่วนใหญ่ที่ติดโรคสมองอักเสบญี่ปุ่น มักไม่แสดงอาการ หรือแสดงอาการน้อยมากในช่วงแรก แต่จะแสดงอาการอย่างรวดเร็วหลังติดเชื้อ และการติดเชื้อมักทำให้เกิดอาการที่รุนแรงได้ในเด็ก และคนชรา
อาการของโรคสมองอักเสบญี่ปุ่น
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่ได้รับเชื้ออาจจะมี หรือไม่มีอาการป่วยก็ได้ มีเพียง 1 ใน 300-500 คนเท่านั้น ที่จะมีอาการสมองอักเสบ โดยมักจะแสดงอาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 5-15 วัน ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย
ต่อมาจะมีอาการปวดศีรษะ มีอาการอาเจียน ง่วงซึม ซึ่งจะกินเวลา 1-7 วัน (ส่วนใหญ่ 2-3 วัน) หลังจากนั้นจะเริ่มมีอาการทางสมอง เช่น ซึม เพ้อ คลั่ง มือสั่น บางรายอาจมีอาการเกร็ง หรือชักกระตุกด้วย ระยะนี้จะกินเวลา 3-6 วัน อาจมีอาการหายใจไม่สม่ำเสมอ ในรายที่เป็นรุนแรงมากอาจเสียชีวิตได้ในระยะนี้ (อัตราการเสียชีวิตร้อยละ 15-30 ของผู้ป่วย)
หลังจากนั้นไข้จะค่อย ๆ ลดลง และอาการทางสมองจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยที่รอดชีวิต อาจจะยังคงมีความผิดปกติทางสมองเหลืออยู่ เช่น มีอาการเกร็ง ชัก อัมพาต หงุดหงิดง่าย พูดไม่ชัด หรือแม้กระทั่งมีอาการปัญญาอ่อน เป็นต้น
ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เป็นโรคสมองอักเสบญี่ปุ่น
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกยุงกัด โดยเฉพาะในช่วงหัวค่ำ และควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันยุงกัดได้เมื่อออกนอกบ้าน หรือใช้ยากันยุง
- ป้องกันโดยการฉีดวัคซีน
ที่มา id.theasianparent, eidas.vet.chula.ac.th, eidas.vet.chula.ac.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
พ่อแชร์ สาเหตุที่เกือบต้องสูญเสียลูก เพราะ RSV ที่กำลังระบาด
อาการแพ้นมวัว เป็นอย่างไร อันตรายแค่ไหน จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกแพ้นมวัว
โรคมะเร็งในเด็ก เป็นได้ตั้งแต่เกิด แม่ท้องต้องดูแลตัวเองให้ดี ถ้าไม่อยากให้ลูกป่วยเป็นมะเร็ง