โชคช่วย! พี่ชายเห็นก้อนเนื้อประหลาดในคอน้องสาวตอนเล่นกัน

lead image

ขณะที่ 2 พี่น้อง กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน พี่ชายวัย 11 ปีก็ได้พบก้อนเนื้อประหลาดในคอของน้องสาวโดยบังเอิญ และไม่คาดคิดเลยว่านั่นคือเนื้อร้าย!

โชคช่วย! พี่ชายเห็นก้อนเนื้อประหลาดในคอน้องสาวตอนเล่นกัน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่มณฑล Essex ประเทศอังกฤษ ขณะที่ Aaron และ Amy กำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานตามประสาพี่น้อง หนุ่มน้อย Aaron ก็พบกับผิดปกติบางอย่าง ภายในคอของ Amy เขาจึงบอกให้แม่รู้ทันที และทุกคนก็ต้องตกใจ เมื่อรู้ว่า สิ่งที่อยู่ในคอของสาวน้อย Amy คือเนื้องอก

 

Carly วัย 31 ปี แม่ของ 2 พี่น้อง เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ในวันที่ 26 มิถุนายน Aaron สังเกตเห็นบางอย่างในคอของ Amy ตอนที่กำลังหัวเราะ แล้วลูกชายก็รีบมาบอก พอเธอเห็นสิ่งที่อยู่ในคอของลูกสาวก็ถึงกับตื่นตระหนก เพราะสิ่งนั้นคือเนื้องอก! อย่างไม่รีรอ ผู้เป็นแม่รีบพาลูกสาวไปพบหมอในทันที

 

ไม่นานเกินรอ วันที่ 6 กรกฎาคม ผลตรวจของ Amy ก็ออกมาตอกย้ำว่าสิ่งที่เธอกลัวนั้นเป็นความจริง โดยเนื้องอกที่พบในลำคอของ Amy เป็นเนื้อร้าย ที่เรียกว่า Rhabdomyosarcoma (RMS) ซึ่งเป็นเนื้องอกที่พบบ่อยในเด็ก หรือคือมะเร็งนั่นเอง

 

เมื่อ Carly ได้ฟังผลตรวจแล้ว เธอเล่าว่า เธอแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น แต่ตัวลูกสาวของเธอนั้นกลับเข้มแข็งมาก ด้วยความมั่นใจของ Amy ตัวน้อย ทำให้ผู้เป็นแม่แข็งแกร่งขึ้น และเชื่อมั่นว่า ไม่ว่า Amy จะต้องเผชิญหน้ากับอะไร ก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้

 

Amy เข้าสู่กระบวนการรักษา โดยต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด 9 ครั้ง เพื่อรักษาโรคมะเร็ง ก่อนจะไปสหรัฐอเมริกาเพื่อทำการรักษาอนุภาคบำบัด ประเภทการรักษาด้วยอนุภาคโปรตรอน (Proton Beam Therapy) และด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมากที่ต้องแบกรับ ทางครอบครัวจึงตั้งกองทุนเพื่อขอรับความช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาของ Amy

 

Carly ยังย้ำถึงความโชคดีครั้งนี้ด้วยว่า เธอภูมิใจในตัวลูกชายอย่างมาก ในวันที่ Aaron พบก้อนเนื้องอกในคอของน้องสาว Aaron มัวแต่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดไป แต่จริงๆ แล้ว Aaron คือผู้ช่วยชีวิตน้องสาวของตัวเอง!

 

ทำความรู้จักกับมะเร็ง Rhabdomyosarcoma

นายแพทย์ทัศน์พงศ์ รายยวา สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ภาควิชารังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ระบุไว้ว่า Rhabdomyosarcoma คือมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ตัวอ่อน ที่จะพัฒนาเป็นเซลล์กล้ามเนื้อลาย โดยสามารถพบได้ทุกที่ในร่างกาย ทั้งยังพบมากในเด็กอายุ 2-5 ปี มักจะแสดงอาการจากก้อนกดอวัยวะต่างๆ เช่น อุจจาระไม่สะดวก ปัสสาวะเป็นเลือด ก้อนโผล่จากช่องคลอดอุดกั้นทางเดินหายใจ กดเบียดเส้นประสาทและสมอง

 

สิ่งที่น่ากังวลคือ เนื้อร้ายสามารถการกระจายโรคพบการลุกลามเฉพาะที่ตามชั้นกล้ามเนื้อและพังผืด กระจายตามระบบน้้าเหลือง (15 %) กระจายตามระบบโลหิตไปยังปอด กระดูก และ ไขกระดูก (15 %) ทั้งยังสามารถลุกลามไปเยื่อหุ้มสมอง สมอง และน้้าไขสันหลังได้

 

เนื่องจากเป็นโรคที่ลุกลามเฉพาะที่และแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น การรักษาด้วยการผ่าตัดอย่างเดียวในสมัยก่อนจึงไม่เพียงพอที่จะควบคุมโรคและยังก่อให้เกิดการสูญเสียอวัยวะต่างๆ ปัจจุบันการรรักษาเน้นความร่วมมือจากสหสาขาวิชาชีพ ประกอบด้วย ศัลยแพทย์ แพทย์รังสีรักษา กุมารแพทย์หรืออายุรแพทย์โรคมะเร็ง

 

ที่มา : ph.theasianparent.com และ chulacancer.net

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แม่ช็อคนึกว่าลูกโดนแมลงกัด แต่พอตรวจกลับเป็นมะเร็ง

ด้วยพลังแห่งรัก มะเร็งตับก็มิอาจคร่าเด็ก 3 ขวบได้!

บทความโดย

Tulya