แม่ใจยักษ์ ทิ้งลูกทารกแรกเกิดไว้ที่ศาลาริมถนน
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. พ.ต.ท.สำราญ โสริกุล สารวัตร(สอบสวน) สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบทารกแรกเกิดถูกวางทิ้งไว้จาก แม่ใจยักษ์ ในศาลาที่พักริมถนนสุวรรรศร ใกล้ทางเข้าวัดเกาะเชิงหวาย หมู่ 10 ต.วิหารแดง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร
เมื่อไปถึงยังจุดเกิดเหตุ ก็พบทารกแรกเกิดเพศชาย อายุประมาณ 7-10 วัน สภาพสวมเสื้อสีฟ้าไม่สวมกางเกง มีผ้าเช็ดตัวสีชมพูห่อหุ้มร่างกายอีกชั้น และยังมีสายสะดือติดอยู่ ส่งเสียงร้องไห้เสียงดังเป็นที่น่าเวทนาแก่ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำทารกน้อยส่งโรงพยาบาลวิหารแดง โดยเบื้องต้นแพทย์ตรวจสุขภาพแล้วพบว่ามีสุขภาพแข็งแรง แต่ที่เด็กร้องเพราะมีอาการหิวนม
พ.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า เบื้องต้นจะเด็กทารกอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล ก่อนประสานหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลต่อไป ส่วนผู้เป็นแม่คาดว่าอาจจะไม่มีความพร้อมหรือมีปัญหากับพ่อของเด็ก และยังเป็นห่วงลูกอยู่จึงนำทารกน้อยมาวางไว้ศาลาที่พักริมทางเพื่อที่เด็กจะไม่เป็นอันตราย
แต่เชื่อว่าผู้เป็นแม่มีเจตนาทิ้งเด็กอย่างแน่นอน ขอประชาสัมพันธ์หากญาติหรือบุคคลที่มีเบาะแสข้อมูลของเด็กหรือแม่และพ่อของเด็ก ให้แจ้งข้อมูลมาได้ที่สภ.วิหารแดง โทรศัพท์ 036 377755 หรือศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีได้ 24 ชม.
วิธีคุมกําเนิด แบบไหนดีที่สุด
อยากมีเซ็กส์แต่ไม่อยากท้อง วิธีคุมกําเนิด แบบไหนเอาอยู่ ถูกจริต เหมาะกับการใช้ชีวิต
บทความ : วิธีคุมกําเนิด แบบไหนดีที่สุด! กินยาคุม ใส่ถุงยาง ฝังเข็มยาคุม หรือทำหมันเลยดีไหม
วิธีคุมกําเนิดชนิดต่าง ๆ
จากวิวัฒนาการของการคุมกำเนิด จะเห็นได้ว่า การคุมกำเนิดมีอยู่หลายวิธี สำหรับการคุมกำเนิด หมายถึง การป้องกันการปฏิสนธิระหว่างเชื้ออสุจิของชายและไข่ของหญิง โดยวิธีคุมกำเนิดมี 2 แบบคือ วิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวและวิธีคุมกำเนิดแบบถาวร
วิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว-การคุมกำเนิดสำหรับผู้ชาย
ถุงยางสำหรับผู้ชาย ถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดยอดนิยม หากใช้ถุงยางอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย
การคุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัยนี้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ราว ๆ 18% ป้องกันได้โดยการสวมถุงยางอนามัยที่องคชาตเพศชายขณะแข็งตัวเพื่อไม่ให้เชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกไปปฏิสนธิกับไข่
ข้อควรระวัง : หากสวมใส่ถุงยางอนามัยผิดวิธีหรือไม่ระวังมีโอกาสทำให้ลื่นหลุดหรือฉีกขาด หรือเมื่อหลั่งเชื้ออสุจิเรียบร้อยแล้ว ปล่อยแช่ทิ้งไว้ไม่รีบถอดถุงยางอนามัยออกมาอาจจะทำให้ถุงยางอนามัยหลุดออกคาช่องคลอดได้
วิธีคุมกำเนิดแบบถาวร-การคุมกำเนิดสำหรับผู้ชาย
การทำหมันชาย เป็นการตัดและผูกท่อนำอสุจิ เมื่อผู้ชายจะหลั่งน้ำออกมา จะไม่มีสเปิร์มออกมาด้วย วิธีนี้ทำกันได้ง่าย ๆ ตามสถานพยาบาลทั่วไป แม้จะมีผลทำให้ผู้หญิงไม่ตั้งครรภ์ แต่อารมณ์ทางเพศยังอยู่ครบเหมือนเดิม รวมถึงสมรรถภาพทางเพศด้วย
วิธีนี้เหมาะสำหรับคู่ที่ไม่ต้องการมีลูกอีก ทำให้ภรรยามีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.15% หรือที่เรียกกันว่า หมันหลุด
วิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว-การคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิง
- ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด
ยาคุมกำเนิดจะมี 2 แบบ คือ แบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด โดยแบบ 28 เม็ดมี 7 เม็ดสุดท้ายจะเป็นวิตามินและแร่ธาตุ มีไว้ให้รับประทานเพื่อกันลืม
วิธีรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดควรจะทานเป็นเวลาเดียวกัน ทุกวันเพื่อกันลืม โดยเริ่มยาคุมกำเนิดเม็ดแรกในวันแรกที่มีประจำเดือน หรือภายในวันที่ 5 ของวันที่มีประจำเดือนมา ถ้าลืมรับประทาน 1เม็ด ให้กินทันทีที่นึกได้ แล้วกินเม็ดถัดไปตามเวลาเดิม ถ้าลืมกิน 2 วันติด ๆ กัน แล้วนึกขึ้นได้ในวันที่ 3 ให้กินยาวันละ 2 เม็ด เวลาเช้าและเย็น 2 วัน และเพื่อความปลอดภัยและมั่นใจ เดือนนี้ควรใช้ถุงยางอนามัยควบไปด้วย ถ้าลืมรับประทานยา 3 เม็ด ให้งดยาแผงนั้นแล้วคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นเช่นใช้ถุงยางจนกว่าประจำเดือนจะมา ค่อยเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ ข้อดีของวิธีนี้คือสะดวก หยุดยาไประยะหนึ่งก็สามารถมีบุตรได้อีก วิธีคุมกำเนิดนี้มีโอกาสตั้งครรภ์ 9% ซึ่งสวนมากมาจากการลืมกินยานั่นเอง
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด ยังทำให้มีประจำเดือนที่สม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกในมดลูก โอกาสมีซีสต์ในรังไข่น้อยลง
- ยาคุมฉุกเฉิน
ภญ.กษมา กาญจนพันธุ์ อธิบายถึงยาคุมกำเนิดฉุกเฉินว่า ต้องรับประทานอย่างถูกวิธีเพื่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด ควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และรับประทานเม็ดที่ 2 หลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง (พบว่าการรับประทานหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 120 ชั่วโมงจะไม่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดเลย) หากอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา ควรกินเม็ดนั้นซ้ำอีกครั้ง ตัวเลขที่แสดงถึงประสิทธิภาพการป้องกันการตั้งครรภ์ตามเวลาที่กินยาคุมฉุกเฉินเป็น ดังนี้ค่ะ
- กินยาเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 95%
- กินยาเม็ดแรกภายใน 25-48 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 85%
- กินเม็ดแรกหลังจาก 48 ชั่วโมงไปแล้ว ประสิทธิภาพในการป้องกันจะนัอยกว่า 60%
- ฉีดยาคุม หรือยาคุมกำเนิดแบบฉีด
การฉีดยาคุมกำเนิดถือเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงวิธีหนึ่ง โดยการฉีดฮอร์โมนเจสตาเจนเข้ากล้ามเนื้อที่สะโพก หรือต้นแขน สามารถคุมกำเนิดได้ 3 เดือน ระยะแรกของการฉีดอาจมีประจำเดือนกะปริดกะปรอย เมื่อฉีดไปสักระยะ อาจไม่มีประจำเดือนเลย ซึ่งทั้งสองอาการนี้ไม่ได้เป็นอันตรายใด การฉีดยาคุมกำเนิดมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 6%
สำหรับผลข้างเคียง เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม ปวดศีรษะ วิงเวียน มีสิวขึ้น ผิวมัน ท้องอืดเฟ้อ หน้าอกคัดตึง แน่นท้อง อารมณ์และความต้องการทางเพศเปลี่ยนแปลง หลังการฉีดยาคุมกำเนิดแล้วจะไม่สามารถขจัดฮอร์โมนออกจากร่างกายได้ ผลข้างเคียงเหล่านี้จึงอาจเกิดขึ้นนับแต่วันที่ฉีดและจะคงอยู่หลังจากนั้นระยะหนึ่ง
- ฝังยาคุมกำเนิด
การคุมกำเนิดแบบฝังเป็นการนำแท่งพลาสติกเล็ก ๆ ที่มีฮอร์โมนเจสตาเจนใส่เข้าไปที่ต้นแขนของผู้หญิงเพื่อป้องกันไข่ตกและป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าไปในรังไข่ มีระยะเวลาในการคุมกำเนิด 3 ปี และ 5 ปี หลังจากนั้นก็ให้แพทย์เอาออก การคุมกำเนิดแบบนี้ มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.05% เท่านั้น เหมาะกับผู้หญิงที่มีลูกแล้ว และควรรับการฝังยาคุมกำเนิด 5 วันแรกของรอบประจำเดือน หรือหลังแท้งไม่เกิน 1 สัปดาห์ หรือหลังผ่าคลอด 4 – 6 สัปดาห์
ผลข้างเคียงผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกปวดศีรษะ หน้าอกคัดตึง ท้องอืดเฟ้อ อารมณ์และความต้องการทางเพศเปลี่ยนแปลง รวมทั้งอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอย หลังจาก 6 – 12 เดือน ประจำเดือนจะมาตามปกติ
- ห่วงอนามัย
ห่วงคุมกำเนิดเป็นการใส่เครื่องมือในโพรงมดลูก เหมาะกับผู้หญิงที่ผ่านการมีลูกมาแล้ว ป้องกันการตั้งครรภ์ได้นาน 3 ปี 5 ปี 10 ปี การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.2% โดยมีทั้งห่วงอนามัยชนิดไม่มีสารเคมีประกอบรูปตัวเอส และห่วงอนามัยชนิดที่มีสารเคมีประกอบแบ่งเป็น ห่วงอนามัยเคลือบสารทองแดงและห่วงอนามัยเคลือบฮอร์โมน
ข้อควรระวัง : ตอนปลายของห่วงมีสายสำหรับให้ผู้ที่ใส่ห่วงอนามัยตรวจห่วงด้วยตัวเองทุกเดือนหลังหมดประจำเดือนว่าห่วงยังอยู่ในโพรงมดลูกหรือไม่
วิธีคุมกำเนิดแบบถาวร-การคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิง
หมันหญิง มี 2 แบบคือ การทำหมันเปียกและการทำหมันแห้ง
การทำหมันเปียก คือ การทำหมันหลังคลอดบุตรภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งมดลูกยังมีขนาดใหญ่ ลอยอยู่ในช่องท้อง ยังไม่หดตัวกลับเข้าอุ้งเชิงกราน หรือเรียกว่ามดลูกยังไม่เข้าอู่ จึงสามารถหาท่อนำไข่ 2 ข้างได้ง่าย วิธีที่นิยมคือ การผูกท่อนำไข่ และตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง โดยลงแผลผ่าตัดใต้สะดือ ขนาดแผลยาวประมาณ 2 -5 ซม.
การทำหมันแห้ง คือ การทำหมันในเวลาอื่นไม่ใช่หลังคลอด ซึ่งเป็นช่วงที่มดลูกมีขนาดปกติ มี 2 วิธี คือ
- วิธีแรก การผ่าตัดที่ระดับหัวเหน่า แล้วตัดผูกท่อนำไข่ทั้งสองข้าง วิธีนี้ขนาดแผลจะโตกว่าหมันเปียกเล็กน้อย
- วิธีที่สอง การส่องกล้องเข้าไปโดยเปิดแผลหน้าท้อง แล้วตัดผูกท่อนำไข่ หรือจี้ตัดด้วยกระแสไฟฟ้า หรือใช้ยางสังเคราะห์รัดท่อนำไข่
จะเห็นได้ว่า ความแตกต่างระหว่างทำหมันเปียก กับทำหมันแห้งอยู่ที่ช่วงเวลาในการทำหมันเท่านั้น คุณแม่ส่วนมากมักเลือกวิธีทำหมันเปียก (ทำหมันหลังคลอด) เนื่องจาก มดลูกยังลอยอยู่ การหาท่อนำไข่ทำได้ง่ายกว่า แผลเล็กกว่า และเจ็บตัวในช่วงคลอดบุตรทีเดียว
ที่มา : ข่าวสด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด
มีคนท้องโดยไม่รู้ตัวไหม? อาการคนท้องไม่รู้ตัว ท้องไม่รู้ตัวเป็นอย่างไร?