แม่แชร์ประสบการณ์ ลูกเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

เพื่อเป็นข้อมูลแด่ทุกครอบครัว คุณแม่จึงถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองอย่างละเอียดเมือครั้นลูกป่วยเป็นโรคหัวใจพิการมาตั้งแต่กำเนิด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ถ้าหากคุณพ่อและคุณแม่เป็นหนึ่งในสมาชิกเวปดังอย่างเพจ Pantipละก็ ย่อมเคยอ่านเรื่องราวของคุณแม่ท่านนี้แน่นอน ที่ท่านได้เล่าเรื่องราวครั้นแรกเริ่ม ตอนลูกเกิดจนถึงลูกผ่าตัดด้วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดอย่างละเอียด โดยมีเพียงวัตถุประสงค์เดียวคือ ต้องการให้ข้อมูลกับผู้ที่ประสบปัญหาเดียวกันและกำลังค้นหาคำตอบ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ค่อย ๆ อ่านดูนะคะ เพราะเรื่องจะแบ่งเป็นทั้งหมด 8 ตอนด้วยกันค่ะ

EP1 : First impression
22 เมษายน 2559 16.08 น. วินาทีแรกที่แม่ได้ยินเสียงปัณณ์เหมือนในละครอ่ะ นางเอกมากน้ำตามาเลย ยิ่งพอคุณหมออุ้มปัณณ์มาให้แม่หอมแก้มนะ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ เลย เชื่อว่าคนที่ได้เป็นแม่คงจะจำความรู้สึกนั้นกันได้เราทำความรู้จักกันเสร็จ แม่ก็กลับไปนอนรอปัณณ์ที่ห้องพัก แต่ทำไมปัณณ์ยังไม่มาอีกน๊า พอคุณพ่อ คุณยายมา แม่ก็ถามว่าปัณณ์ไปไหน คุณพ่อหน้าไม่ดีละ แม่เริ่มใจคอไม่ดี ต้องแข็งใจถามว่าลูกเป็นอะไร คุณพ่อบอกว่าลูกหายใจเร็ว คุณหมอเลยขอให้รอดูอาการที่ห้อง NICU ก็โอเคแค่หายใจเร็วเองเนอะ ปกติของเด็กแรกเกิดแหล่ะ แม่คิดแบบนั้น..

แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น เมื่อคุณหมอตรวจอย่างละเอียดละ โทรเรียกคุณพ่อกับคุณแม่ขึ้นไปคุย แม่ได้เห็นหน้าปัณณ์อีกครั้ง โดยที่ปัณณ์นอนแอ้งแม้งอยู่ในตู้อบ ตัวปัณณ์กะจิ๋วเดียวเอง ลืมบอกไปว่าหนูหนักแค่ 1900 กรัมเองลูก ตัวแดง ๆ นอนเหมือนไม่ค่อยมีแรงอยู่ในตู้ หายใจเหนื่อยหอบ เอาล่ะ คุณหมอเด็กได้เชิญคุณหมออีกท่านเข้ามาคุยกับเราด้วย คุณหมอชื่อว่า อ.อนันต์ จากรพ.รามา เป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจเด็ก

ตอนนั้นแขนขาแม่เริ่มอ่อนแรงแล้ว จากที่คิดว่าลูกไม่ได้เป็นอะไรหรอก ลูกเราต้องแข็งแรง แต่พอได้เห็นสีหน้าคุณหมอแม่เริ่มอยากเดินออกจากห้องละ แต่ก็เอาวะ ยังไงมันก็ต้องรับรู้อยู่แล้ว กว่าคุณหมอจะเริ่มคุยกับเรา คุณหมอก็นั่งวาดรูปในกระดาษโดยเป็นรูปโครงสร้างหัวใจ อารมณ์แม่เริ่มมาละ คือคิดในใจว่าคุณหมอคะ พูดเลยเถอะค่ะ มันบีบหัวใจมากนะคะ

และแล้วคุณหมอก็เริ่มอธิบาย ว่านี่นะคือหัวใจมีสี่ห้องนะ บลา ๆ แต่…..ปัณณ์มีปัญหาคือผนังกั้นหัวใจด้านบนมีรูรั่วประมาณ 4 มิล ภาษาทางการแพทย์คือ ASD (Atrial Septal Defect) ซึ่งโดยทั่วไป เราคาดหวังว่ามันจะปิดไปเองเมื่อปัณณ์โตขึ้น แม่ฟังแค่นี้ความรู้สึกแม่ก็เหมือนคนจะตายแล้วอ่ะ ยังไม่จบ ยังไม่พอ คุณหมออธิบายอีกว่าไม่ได้มีแค่นั้น มีเรื่องค่อนข้างใหญ่กว่านั้นคือ

ปัณณ์มีเส้นเลือดหัวใจเกินไม่ปิด ซึ่งเส้นเลือดนี้ปัณณ์เอาไว้ใช้ตอนอยู่ในท้อง ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่เชื่อมอยู่ระหว่างหลอดเลือดแดงใหญ่และหลอดเลือดปอด ปกติมันก็จะพบได้แหล่ะได้เด็กที่คลอดก่อนกำหนด แต่คุณหมอไม่เคยเห็นเคสที่ขนาดรูมันใหญ่ขนาดนี้ ชื่อโรคของมันเรียกว่า PDA (Patent Ductus arteriosus) ซึ่งของปัณณ์ตอนที่คุณหมอทำอัลตร้าซาวด์หัวใจหรือเค้าเรียกกันว่า Echo (Echocardiogram) มันมีขนาดถึง 7 มิลกันเลยทีเดียว มันเป็น Large PDA

คุณหมอเล่าให้ฟังว่าเคยเจอใหญ่สุดมันแค่ขนาด 4 มิลเองนะ ถามสิ วิธีการรักษาล่ะคะคุณหมอ คุณหมอบอกว่ามี 3 ทาง ทางแรกรอมันปิดเอง ซึ่งมันเป็นไปได้ยากเพราะขนาดใหญ่ ทางที่สองให้ยาปิดซึ่งก็ยากอีกและก็มีความเสี่ยง ทางสุดท้ายค่ะ ผ่าตัดจ้าาาาาา บ้าไปแล้ว ผ่าตัดหัวใจ มันเรื่องใหญ่มากนะ ปัณณ์ตัวนิดเดียวเอง น้ำหนักก็แค่นี้ งานยากขึ้นไปอิ๊ก คือไรอ่ะ ลูกเราเป็นโรคหัวใจหรอ บ้าไปแล้ว กรรมพันธ์ุไม่มี และเชื่อมั่นมาอย่างแรงตลอดว่าเราแข็งแรง ไม่ใช่สิ นู่นนั่นนี่ สติหลุดไปละ น้ำตาตกใน แล้วก็เร่ิมไหลอย่างต่อเนื่อง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เดินลงลิฟท์มาเข้าห้องพัก เอาไงล่ะทีนี้ หาข้อมูลสิคะ เกิดมาไม่เคยมีความรู้เลยโรคหัวใจ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าในหัวใจเราเนี่ยมันมีไรมั่ง google คะ PDA คือไรคะ พรึ่บบบบบบบ มีคนเป็นเยอะว่ะ ส่วนมากที่อ่านบอกว่าปิดได้เอง ใช่ซี้ ขนาดเล็กนี่ นอนหาข้อมูลเกือบเช้า หลับไปทั้งน้ำตา สรุปได้ใจความว่ามันต้องผ่าตัดเข้าไปเพื่อปิดเส้นเลือดนี้ คุณหมอบอกว่าชิลๆ เด็กน้ำหนักน้อยกว่านี้ก็เคยทำมาแล้ว แต่หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่อ่ะ แค่คำว่าผ่าตัดมันก็นะ ทำใจยากแล้วอ่ะ

สรุปนะการพบกันครั้งแรกของแม่และปัณณ์มันมีทั้งความสุขแล้วก็ความทุกข์ แต่มันก็ต้องผ่านไปสิ

อ่านตอนต่อไปได้ในหน้าถัดไปค่ะ
 

EP2 : Life in NICU#1

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

NICU (Newborn incentive care unit) แผนกทารกแรกเกิดวิกฤต ชื่อโคดน่ากลัวเลย ปัณณ์ต้องอยู่ที่นี่ เพราะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อาการของโรคที่ปัณณ์เป็น ก็จะมีหายใจเร็ว หายใจหอบเหนื่อย และมีภาวะหัวใจล้มเหลวการหายใจของปัณณ์เฉลี่ยแล้วประมาณ 80 ครั้ง/นาที เวลาหายใจทีหน้าอกก็จะบุ๋ม ท้องกระเพื่อม

ลองคิดภาพเราวิ่งขึ้นบันไดประมาณ 5 ชั้น นั่นล่ะ ซึ่งเด็กปกติเค้าจะหายใจกันประมาณ 40-60 ครั้ง/นาที กินนมแต่ละทีก็จะหยุดพักเหนื่อย เพราะเวลาดูดจะทำให้เหนื่อยแต่โชคดีอย่างนึงคือปัณณ์สามารถหายใจได้เอง ไม่ต้องใช้ตัวช่วยอะไร

แม่จะเข้าไปหาปัณณ์ได้ช่วงเวลา 9.00-20.00 แต่มีช่วงพักอยู่แหล่ะจำไม่ได้ นอนรอช่วงเวลาที่จะเข้าไปหาปัณณ์ทุกวัน ปัณณ์ของแม่ก็ยังนอนอยู่ในตู้อบเช่นเคย ที่แขนมีสายเจาะให้ยา ให้น้ำเกลือ ที่ขามีสายเพื่อวัดระดับอ๊อกซิเจนในเลือด เครื่องมันจะ setting ไว้ว่าถ้า rate ต่ำกว่านั้นนี้นะจะดัง พอดังทีเอาล่ะสิ แม่นี่ใจหายใจหล่นตลอด น้ำตามาอีกสิคะ

ทำไมอ่ะ ทำไมต้องเป็นปัณณ์ แม่ยังไม่ได้อุ้มปัณณ์เลยนะได้แต่เกาะตู้ดูปัณณ์ พยาบาลก็บอกวันนี้น้ำหนักขึ้นเท่านั้นเท่านี้นะคะ อาการเป็นงั้นงี้ แต่ในห้อง NICU ก็จะอยู่เยี่ยมนานไม่ได้ ต้องขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อย ๆ ระหว่างห้องพักกับ NICU แต่ละวันอาการปัณณ์ก็จะขึ้น ๆ ลง ๆ มีตัวเหลืองมั่งก็ส่องไฟไป ใส่แว่นตาด้วยนะ 5555

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พอหมดเวลาเยี่ยมก็ลงมาปั๊มนม นมก็คัด ไม่ออกอีก เรียกพยาบาลมาช่วย พยาบาลมาช่วยนวด ขุ่นพระ โคดเจ็บ เจ็บแบบขอโทษนะ สามารถถึบพยาบาลได้อ่ะ แต่ไหลเว่ย ไหลแบบสองหยด 5555555 แต่พยาบาลบอกว่าค่อย ๆ ปั๊มกระตุ้นนะคะคุณแม่ เดี๋ยวมันก็จะออกมาเองค่ะ จ้าาาาา วันต่อมาก็เริ่มปั๊ม ปั๊มทุกๆ 3 ชั่วโมง ผลปรากฎมันไหลจ้า ครั้งแรกได้ไม่ถึงออนซ์นึงจำได้เลย เทใส่ถุงเก็บไว้ให้ปัณณ์ อยากให้ปัณณ์ได้กินนมแม่ จะได้มีภูมิต้านทาน

น้ำนมที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด แต่แม่เต็มใจนะลูก ทำแบบนี้อยู่ 7 วัน วันที่รอคอยก็มาถึง เมื่อคุณหมอเด็กอนุญาติให้ปัณณ์กลับบ้านได้ แล้วคุณหมอทางด้านหัวใจนัดตรวจติดตามอาการอีก 2 วีคถัดไป

คลิกอ่านตอนที่ 3 ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

EP3 : Short time
กลับมาอยู่บ้าน แม่ก็ตื่นมาปั๊มนมทุก ๆ 3 ชั่วโมง ปลุกปัณณ์มากินนมทุก ๆ 3 ชั่วโมง แต่ปัณณ์ไม่เข้าเต้าแม่เลย แต่ดูดจากขวดนี่เก่งจัง ชิส์ ป้อนนมครั้งแรกจำได้แม่นเลย ปัณณ์สำลัก ไอ หน้านี่คล้ำไปเลย แม่นี่แบบขาอ่อนอีกแล้วจะเป็นลม ทำอะไรไม่ถูก จะให้คุณพ่อออกรถแล้ว แต่ยังดีปัณณ์ไม่เป็นอะไร คือตอนนั้นทำอะไรก็กลัวไปหมด

เวลาปัณณ์นอนตอนกลางคืนก็ต้องผลัดเวรกันเฝ้า ไม่กล้าหลับพร้อมลูก นั่งมองปัณณ์ตลอดเวลา เช้ามาจับอาบน้ำ ปัณณ์จะชอบสระผม แต่ไม่ชอบอาบน้ำ จับลงกะละมังตัวปิ๊ดเดียว ลูกเอ้ยยย แม่กลัวจะหลุดมือ

ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันที่บ้านมันก็มีความสุขนะ แต่เหมือนแม่ก็รู้แหล่ะ ว่ามันมีเหตุการณ์อะไรข้างหน้ารออยู่ ซึ่งสำหรับแม่แล้วมันเห็นเหตุการณ์ที่หนักที่สุดในชีวิตแล้วล่ะ…

เอาล่ะถึงเวลานัดหมอเด็กตรวจตัวเหลืองละ ตอนรอหมอมาตรวจคุณยายสังเกตว่าทำไมปัณณ์หายใจเร็วจัง พอเข้าไปหาหมอก็เลยบอกคุณหมอว่า ปัณณ์ดูหายใจเร็วๆหอบๆ คุณหมอก็เอาหูฟังมาฟังเสียงหัวใจ เสียงปอด แล้วก็บอกว่าปอดเค้าเริ่มมีน้ำเยอะแล้วค่ะคุณแม่ แอดมิทเถอะนะคะ น่านนนนนนนนน

ไม่ได้เตรียมใจมาเพื่อแอดมิทเลยค่ะ เพราะอีกแค่วีคเดียวก็จะถึงเวลานัดตรวจหัวใจปัณณ์กับคุณหมอด้านหัวใจอยู่ แล้ว แต่ก็นะ ต้องแอดมิทเพื่อความปลอดภัยใกล้มือหมอไว้ก่อน ก็แอดมิทเพื่อรอคุณหมอด้านหัวใจมาทำ Echo อีกที

ถึงเวลาคุณหมอมาทำ Echo ก็พบกับคำตอบที่ใจแม่จะสลายอีกแล้วว่า ไม่คิดว่าอาการจะเกิดเร็วขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะรูรั่วที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และด้วยพยาธิสภาพของปัณณ์ด้วยเลย ทำให้อาการเกิดขึ้นได้เร็ว คุณหมอก็ถามแม่ว่าจะรักษาต่อที่นี่หรือไปที่รามา คุณพ่อกับคุณแม่ก็บอกคุณหมอว่าไปที่รามาเลยค่ะ คุณหมอก็ถามอีกทีจะไปพรีเมี่ยมหรือธรรมดา ด้วยความที่เราสองคนได้ยินมาเยอะว่าถ้าใช้สิทธิรัฐบาลการบริการจะเป็นยังไง (คหสต.นะคะ) ก็เลยตัดสินใจตอนนั้นเลยว่าไปพรีเมี่ยมค่ะ

โอเคแล้วคุณหมอก็ใจดีมาก ๆ จัดการโทรหาคุณหมอผ่าตัด คุณหมอเด็กที่รามาเพื่อทำการจองเตียงให้เลย ซึ่งระหว่างอยู่ที่รพ.แรก ทางคุณพยาบาลก็พยายามติดต่อรพ.เพื่อจองให้นะ แต่ไม่มีที่ไหนว่างเลย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พอพบคุณหมอหัวใจ แม่ถามคุณหมอทั้งน้ำตาและใจที่กลัวกับคำตอบ เพราะคุณหมอค่อนข้างพูดตรง พูดทีกระแทกใจแม่มาก แม่ถามว่าผ่าตัดแล้วจะหายมั้ย เสี่ยงมั้ย คุณหมอก็ตอบว่าการผ่าตัดทุกอย่างมีความเสี่ยง แต่อันนี้มันคล้ายๆหัตถการเล็ก ๆ แค่ผ่าตรงข้าง ๆ ตัวปัณณ์แล้วก็เข้าไปผูกปิดเส้นเลือด ถามว่าใจชื้นขึ้นมั้ย ไม่เลย ยังคงไว้ซึ่งความกลัว

และแล้ววันรุ่งขึ้นปัณณ์ก็ถูก refer ไปที่รามา การนั่งรถพยาบาลครั้งแรกในชีวิต โดยมีปัณณ์อยู่ในตู้อบอยู่ด้านหลังเรา มันเป็นอารมณ์ที่ here มาก ไปถึงรามา ก็เอาปัณณ์เข้าห้อง NICU ตอนนั้นคุณพ่อไม่ได้มาด้วย แม่อยู่คนเดียวเลยค่าา นั่งมองลูกในตู้อบ น้ำตาไหลตลอดเวลา ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะปัณณ์ ที่ปัณณ์ของแม่จะต้องเจ็บ

คลิกเพื่ออ่านตอนที่ 4 ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
 

EP4: Life in NICU#2

ใกล้ถึงเวลาที่ปัณณ์จะต้องผ่าตัดแล้ว ทีมแพทย์ set วันผ่าตัดไว้เรียบร้อยโดย set ห้องผ่าตัดไว้ 2 ที่ ถ้าเป็น PDA เราผ่าตัดกันได้ที่อาคารพระเทพเลย แต่ถ้าพลิกล็อคไม่ใช่ คุณหมอบอกว่าเราต้องกลับมาตั้งหลักกันใหม่

วันนั้นได้เจอคุณหมอผ่าตัดครั้งแรก คุณหมอดูจากประวัติแล้วเข้ามาคุยกับแม่ คำพูดของคุณหมอพูดว่า ยังไงก็เป็นการผ่าตัด คุณแม่ต้องทำใจไว้ด้วยนะครับ โหยยยยย ร้าวราน แล้วก็ให้แม่เซ็นต์ยินยอมการผ่าตัด โคดดราม่า

โอเคถึงเวลาต้องพาปัณณ์ไปทำ CT scan ละที่ต้องทำเพราะคุณหมอหัวใจขอยังมีข้อสงสัยตอนที่ทำ Echo อยู่ คุณหมอบอกว่าเอาให้แน่ใจเพราะถ้าผ่าเข้าไปแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดมันจะ surprise การทำ CT Scan ต้องดมยาสลบ วิสัญญีแพทย์ก็จะคำนวณตามน้ำหนักตัวปัณณ์ เพื่อให้ dose ยาที่เหมาะสม คิดดูแค่รู้ว่าลูกต้องสลบ แค่เวลาแปบเดียวแม่ก็จะขาดใจอยู่ละ แล้วตอนต้องผ่าตัดล่ะ เห้ออ

ตอนจะพาปัณณ์ไปทำ CT ก็ใช้เวลาแปบเดียว รอผล CT อย่างใจจดใจจ่อ ภาวนาอย่าให้มีอะไรมากไปกว่านี้เลย ตอนรอเราสองคนคิดกันว่า อย่าให้เจออะไรเพิ่มจากเดิมเลย

แล้ว…พยาบาลก็เดินมาบอกเราว่าวันนี้เราต้อง off ห้องผ่าตัดก่อนนะคะคุณแม่ เดี๋ยวคุณแม่รอคุยกับคุณหมออีกทีนะคะ เอาละ งานมาละ และคุณหมอก็บอกเราว่าไม่มีอะไรเพิ่มจ้า แต่เป็นคนละเคสกับที่คุณหมอวินิจฉัยไว้ตอนแรกเลย ยิ่งไปกว่านั้นมันกลับเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่า PDA อีกเป็นสิบเท่า ซึ่งมันเป็นโรคที่คุณหมอเคยพูดทางโทรศัพท์กับคุณหมอผ่าตัดตอนที่จะ refer ปัณณ์ ว่าคุณหมอสงสัยว่าจะใช่มันรึป่าว ไอ้โรคที่ว่านั้นมันคือ… AP window (Aortopulmonary window)

งงอ่าดิ อธิบายบ้านๆเลยนะ มันมีรูรั่วระหว่างเส้นเลือดแดงใหญ่และเส้นเลือดที่จะไปปอด ซึ่งโดยปกติเส้นเลือดสองเส้นนี้มันต้องแยกกันทำหน้าที่ของมันอยู่แล้ว โดยเส้นเลือดแดงใหญ่มันก็ไปเลี้ยงอวัยวะในร่างกาย เส้นเลือดไปปอดมันก็เอาเลือดไปฟอกแค่นั้นจบ แต่ของปัณณ์เส้นเลือดสองเส้นนี้มันพาดผ่านกันแล้วไอ้ที่มันพาดกันน่ะมันมีรูรั่ว ส่งผลให้เลือดปนกันมั่วเลยทีนี้

แต่ที่หนักที่สุดคือเลือดที่จะไปฟอกที่ปอดอ่ะมันมากมันเยอะ จนทำให้เกิดอาการน้ำท่วมปอด และเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ยังไม่จบ AP window ลองไปหาข้อมูลใน google ดูสิ ในประเทศไทยไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคนที่เป็นเลย ไม่มีให้อ่าน case study มีแต่บทความภาษาอังกฤษ เป็น rare case ซึ่งเกิดได้ในทารกแรกเกิดประมาณ 1:8000 แล้วทำไมต้องมาเกิดกับปัณณ์ด้วย

สรุปการผ่าตัดต้องเลื่อนออกไป ต้องวางแผนกันใหม่ โดยมี condition ว่าถ้าจะทำการผ่าตัดต้อง…น้ำหนักตัวปัณณ์ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ผ่าตัดแล้ว ปลอดภัยและเวลาในการผ่าตัดที่เหมาะสม คุณหมอขอน้ำหนักตัวที่เหมาะสมคือ 3000 กรัม และต้องผ่าตัดในระยะเวลาที่ปัณณ์อายุ 2-6 เดือนเท่านั้น และในตอนนั้นน้ำหนักปัณณ์อ่าหรอ 1900 ค่าาาาาา อายุ 20 กว่าวันค่าาาาา

และที่รู้ๆกันว่าเด็กที่เป็นโรคหัวใจจะเป็นเด็กที่โตช้า น้ำหนักขึ้นได้น้อย เอาล่ะสิ

คลิกอ่านตอนที่ 5 ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

EP5 : Let’s it go

มาทำน้ำหนักกันเถอะลูก ทีมแพทย์ที่ดูแลเฉพาะทางของ new born ก็เริ่มวางแผนกันเพื่อทำน้ำหนักปัณณ์ แต่ก็มีข้อระวังคือการเพิ่มน้ำหนักต้องเป็นการเพิ่มมวลร่างกาย ต้องระวังเรื่องน้ำเกิน ซึ่งมันคัดคานกัน เพราะปัณณ์ต้องกินนม นมก็คือน้ำ กินเท่าไหร่ โดนยาขับปัสสาวะเพื่อกำจัดน้ำออกมา แล้วจะเอาน้ำหนักที่ไหนมาขึ้นล่ะลูก

จำได้ว่าต้องเปลี่ยนสูตรนมกันหลายสูตรเลย เพื่อที่จะเอาแต่แคลอรี่จริง ๆ ทุกเช้าตอนเข้ามาหาปัณณ์คำถามแรกที่เราถามพยาบาลก็คือ วันนี้น้ำหนักเท่าไหร่คะ วันไหนที่น้ำหนักขึ้นจะเป็นวันที่แม่ดีใจมาก วันไหนที่น้ำหนักลดแม่ก็แอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ น้ำหนักของปัณณ์เฉลี่ยขึ้นวันละ 10 กรัม คูณเข้าไปสิคะ กี่วันกว่าปัณณ์น้ำหนักจะถึง 3000 กรัม

แต่เราก็ต้องรอค่ะ เพราะถ้าผ่าตัดตอนนี้ความเสี่ยงสูงมาก เพราะเป็นการผ่าตัดแบบ open heart คุณหมอหัวใจก็เข้ามาดูบ่อย ๆ ว่าอาการตอนนี้เป็นยังไง ปอดเป็นยังไง หัวใจเป็นยังไง ซึ่งคุณหมอก็ให้ยาเกี่ยวกับหัวใจเพื่อชะลอเวลาไปด้วย มันกดดันแม่มากเลยนะปัณณ์ จนมาวันนึงคุณหมอหัวก็บอกกับเราว่า ดูแล้วน้ำหนักคงจะขึ้นได้ไม่ทันอาการของปัณณ์ที่แย่ลงไปทุกวันๆ คุณหมอผ่าตัดเลยต่อรองให้ว่างั้นเอาแค่ 2500 กรัมพอ

ถามว่าดีใจที่จะได้ผ่าตัดเร็วมั้ย ดีใจบ้าไรล่ะ ยิ่งน้ำหนักน้อยความเสี่ยงยิ่งสูง แต่ถ้ายิ่งปล่อยไว้นานความเสี่ยงก็สูงอีก ทางไหนก็เสี่ยงว่างั้น แต่ใจพ่อกับแม่แล้วเราเชื่อมั่นในทีมแพทย์ เราเชื่อว่าต้องช่วยปัณณ์ได้

ตลอดเวลาที่ปัณณ์อยู่ NICU ที่นี่ ปัณณ์ได้รับการดูแลจากแม่ๆ พยาบาล ด้วยความเอ็นดู ด้วยความสงสาร ด้วยความรัก เราลุ้นกันทุกวันว่าวันนี้น้ำหนักปัณณ์จะขึ้นมั้ย เราลุ้นไปด้วยกันทุกวัน ปัณณ์ของแม่เก่งมาก ที่สู้กับความเหนื่อยของตัวเอง จนทำน้ำหนักขึ้นมาได้ 2400 กรัม แล้วคุณหมอหัวใจก็ได้บอกกับเราว่า โอเคละ ผ่าตัดเลย

ช็อคค่ะ ถึงแม้แม่จะเตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง มันก็อดไม่ได้อยู่ดี ปัณณ์จะเจ็บมั้ยลูก เจ็บแค่ไหน เจ็บทนได้มั้ยลูก แม่อยู่นี่นะ คุณพ่ออยู่นี่นะ เจ็บแทนปัณณ์ได้มั้ย แม่เป็นแทนปัณณ์ได้มั้ย หัวใจสลาย เป็นคำที่ได้ยินในละครบ่อยๆ มาวันนี้ถึงได้รู้ว่าอาการมันเป็นยังไง

คลิกอ่านตอนที่ 6 ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

EP6 : Surgery day

ก่อนวันผ่าตัด เราต้องย้ายปัณณ์ไปอีกตึกนึง เพื่อการเคลื่อนย้ายที่สะดวก เพราะมันใกล้กับอาคารผ่าตัด เราเข้าไปหาปัณณ์ เข้าไปคุยกับปัณณ์ให้สู้นะลูก พ่อกับแม่อยู่ข้างๆลูกนะ ปัณณ์ต้องกลับมาหาแม่นะลูก พยายามไม่ร้องไห้ต่อหน้าลูก แต่น้ำตามันก็ไหลอ่ะ

เรามองดูปัณณ์ก็ยังคงหายใจหอบเหนื่อยอยู่เหมือนเดิม ปัณณ์จะไหวมั้ยลูก มันทรมานใจมากนะ เพราะพรุ่งนี้มันคือวันที่มีคำตอบอยู่แค่ 2 ทางคือ จบหรือได้ไปต่อ กลับมาบ้านนอนไม่หลับทั้งคืน นอนๆอยู่รู้สึกขาไม่มีแรง คิดวนไปเรื่อยว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง คิดถึงปัณณ์…

วันผ่าตัด เราไปหาปัณณ์แต่เช้าเพื่อที่จะได้ทันไปส่งลูกเข้าห้องผ่าตัด และคุณหมอผ่าตัดต้องคุยกับเราอีกครั้ง ถึงวิธีการผ่าตัด ความเสี่ยง ความสำเร็จ ไปถึงก็เข้าไปหาปัณณ์ก่อนแล้วก็สวดมนต์กัน พูดกับลูกว่าให้กลับมานะ แม่รออยู่ สู้ ๆ นะปัณณ์

แล้วคุณหมอผ่าตัดก็มา เราเข้าไปคุยกันในห้องเล็กๆห้องนึง มีคุณหมอผ่าตัด พ่อกับแม่ แล้วก็พยาบาลคนนึง คุณหมอพูดได้ตรงมาเลยค่ะ ตรงจนแม่ยืนไม่ขึ้น ลุกไม่ไหว คุณหมอวาดรูปหัวใจเด็กปกติ และหัวใจปัณณ์เพื่อให้เราเปรียบเทียบ

คุณหมอบอกวิธีการผ่าตัดว่าต้องใช้เครื่องปอดหัวใจเพื่อทำการบายพาสเลือดไป เลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกายระหว่างการผ่าตัด แต่ถ้าโชคร้ายเครื่องมันใหญ่เกินกว่าหัวใจปัณณ์ หมอก็ต้องเลือกใช้วิธีการหยุดเลือดโดยการเอาอะไรไปหนีบที่หลอดเลือดใหญ่

ซึ่งหมายความว่าตอนนั้นปัณณ์จะไม่มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะในร่างกายเลยรวมทั้ง สมองด้วย และต้องทำแข่งกับเวลา 30 นาที แล้วคุณหมอก็เขียนอัตราความสำเร็จ ความเสี่ยงต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้ ความสำเร็จคือ ทะแด๊นนนนน 50/50 ค่า ความเสี่ยงมีทั้งหมด 11 ข้อค่า แต่ละข้อน้าน ทะลุทะลวงจิตใจแม่เหลือเกินปัณณ์

ความเสี่ยงที่แม่กังวลที่สุดคือภาวะความดันในปอดสูง ซึ่งมันเป็นอาการก่อนผ่าตัดที่คุณหมอหัวใจ concern เป็นพิเศษ ว่ามันอาจจะเกิดขึ้น แม่ถามคำถามคุณหมอแค่คำถามเดียว ว่าคุณหมอมั่นใจมั้ยคะ ซึ่งคำตอบน้านนนน คุณหมอได้ตอบแม่ว่าหมอมั่นใจทุกครั้งที่ทำการผ่าตัด แต่หมอไม่เคยมั่นใจถึงผลสำเร็จของมันเลย

ค่ะหมอ น้ำตาไหลค่ะ คุณหมอบอกอีกแล้วค่ะว่าต้องทำใจไว้ด้วยนะครับ ค่ะหมอ แม่ไม่ถามอะไรอีกแล้วค่ะ คุยกันเสร็จเราก็ออกมานั่งรอข้างนอก รอเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดมารับตัวปัณณ์ไป เราเดินไปส่งปัณณ์ด้วยกันถึงหน้าห้องผ่าตัด จังหวะที่เค้าจะเข็นปัณณ์เข้าห้องผ่าตัด ใจแม่จะขาดแล้วปัณณ์ แม่รออยู่ตรงนี้นะปัณณ์ ออกมาหาแม่นะ

ระยะเวลาในการรอคอยผ่านไปชั่วโมงต่อชั่วโมง แม่สะดุ้งทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดตะโกนเรียกชื่อคนไข้ เหมือนคนจะเป็นบ้า ถามคำถามเดิมๆกับคุณพ่อ ว่าจะโอเคมั้ย จะโอเคมั้ย แล้วเราก็นั่งสวดมนต์กัน กี่ชั่วโมงผ่านไปแล้ว ปัณณ์ก็ยังไม่ออกมา เข้าไปตั้งแต่สิบโมงเช้า

จนแว้บนึงเราเห็นพยาบาลห้อง NICU ถึอถุงของใช้ปัณณ์มาที่ห้องไอซียูหลังผ่าตัดที่อยู่ตรงข้ามห้องผ่าตัด เราก็แอบหวังว่าคุณหมอต้องผ่าตัดเสร็จแล้วแน่ๆ เลย แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ คุณหมอเดินออกมาจากห้องไอซียูหลังผ่าตัด ยิ้มของคุณหมอน้านนน มันทำให้แม่รู้ว่าแม่ได้ไปต่อ

คุณหมอเดินมาบอกเราว่า ผ่าตัดเรียบร้อยแล้วนะครับ ก็เราปิดรูรั่วน้นสำเร็จ หมอใช้วิธีหนีบหลอดเลือดนะครับ เพราะเครื่องมือใหญ่กว่าตัวปัณณ์ หมอใช้เวลาไปทั้งหมด 21 นาทีนะครับ โหยยย แม่นี่ร้องไห้เลย มันเหมือนโล่งไประดับนึงอ่ะ แต่คุณหมอก็ยังบอกว่าผ่าตัดเสร็จ แต่ยังไม่ปลอดภัยนะครับ ต้องรอดูอาการหลังผ่าตัดด้วย แต่สำหรับแม่แล้ว มันเกินครึ่งทางแล้วปัณณ์ ปัณณ์ต้องผ่านไปได้นะลูก

คลิกอ่านตอนที่ 7 ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

EP7 : Life in I.C.U.

เราเข้าไปดูปัณณ์ที่ห้องไอซียู ภาพแรกที่เห็นปัณณ์คือมีท่อช่วยหายใจใส่อยู่ที่ปาก สายอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด เครื่องให้ยาอัตโนมัติประมาณสิบกว่าเครื่องอยู่บนเตียง ปัณณ์ยังไม่ตื่นจากยาสลบ

ปัณณ์เจ็บมั้ยลูก แม่ไม่กล้าแม้แต่จะจับมือปัณณ์ มันกลัวไปหมด เวลาเยี่ยมก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย พยาบาลเดินมาแจ้งว่าที่นี่จะไม่เหมือนที่ NICU นะคะ คุณแม่จะโทรมาถามอาการไม่ได้ เพราะสภาวะของคนไข้ที่นี่อาการเปลี่ยนได้ตลอดเวลา คุณแม่ทิ้งเบอร์ไว้นะคะถ้ามีอะไรทางเราจะติดต่อไปเอง

เอาล่ะสิ ได้แต่บอกไป ว่าอย่าโทรมาเลยดีกว่านะคะ คืนนั้นทั้งคืนเราได้แต่ภาวนาอย่าให้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเลย และคืนนั้นก็ไม่มีจริงๆค่ะ

แต่ 8.34 น. แม่จำเวลาได้เลย เสียงโทรศัพท์ดัง แม่ดูเบอร์ แม่จำได้ว่ามันเป็นเบอร์รพ. แม่กดทิ้งอย่างอัตโนมัติ มือสั่น นั่งไม่ติดที่ แล้วก็ตั้งสติใหม่ โทรกลับไป มีคนรับสายแล้วถามแม่ว่า คุณแม่น้องปัณณ์ใช่มั้ยครับ นี่หมอนะครับ คุณแม่ครับ ตอนนี้น้องอาการไม่ค่อยดีนะครับ

แล้วหลังจากประโยคนี้ แม่ฟังอะไรไม่รู้เรื่องแล้วปัณณ์ ได้แต่ร้องไห้บอกหมอไปว่าช่วยปัณณ์ด้วยนะคะ ช่วยปัณณ์ด้วยนะคะ แล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปหาปัณณ์ โดยมีคุณยายนั่งรถไปเป็นเพื่อน เพราะกลัวแม่ขับคนเดียวไม่ไหว แม่ก็โทรหาคุณพ่อให้ไปรอที่รพ.เลย เพราะวันนั้นคุณพ่อไปทำงาน

ระหว่างขับรถไป แม่คิดถึงปัณณ์ตลอด ภาวนาอย่าให้ปัณณ์เป็นอะไรนะ โทรถามคุณพ่อเป็นระยะ ๆ ว่าถึงรพ.ยัง พอไปถึงรพ. คุณหมอก็อธิบายอาการของปัณณ์ว่า ปัณณ์มีอาการตอนตีสอง ทุกอย่างตกลงหมด ชีพจร ความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ เนื่องจากภาวะความดันในปอดสูงมาก ขนาดหมอใช้ก๊าซไนตริกเพื่อลดความดันในปอดแล้วยังเอาไม่อยู่

หมอจึงจำเป็นต้องใส่เครื่อง Ecmo หรือทีเรารู้จักกันดีกว่าคือเครื่องปอดหัวใจเทียม ลองไปหาคำว่า Ecmo ใน google ดูดิ มีแต่ข่าวปอ ทฤษฎี มันเป็นเครื่องที่ทำงานแทนปอดกับหัวใจชั่วคราว คุณหมอก็บอกอีกว่าการที่ใส่ Ecmo ไม่ใช่การรักษานะ มันเป็นการยื้อเวลาเท่านั้น

โหว ยื้อเวลา เราจะลองใส่เครื่องนี้ดูซัก 5 วัน เพื่อให้เวลาปอดกับหัวใจของปัณณ์ฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว ตอนนี้การรักษาไม่ได้อยู่ที่ทีมแพทย์อย่างเดียวละ แต่อยู่ที่ตัวปัณณ์ด้วยว่าปัณณ์จะไหวมั้ย ตลอดระยะเวลาที่ใส่ Ecmo เราต้องดูอาการกันชั่วโมงต่อชั่วโมง

ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการใส่ Ecmo ของปัณณ์คือภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ก็ต้องเติมเลือดกันไป เอาล่ะ 5 วันละ เตรียม off ecmo ลุ้นอีกแล้ววว off แล้วปัณณ์จะไหวมั้ย ดูอาการกันอีก 4-6 ชั่วโมงหลัง off นั่งนับเวลาไปดิ ชั่วโมงนึงแล้ว สามชั่วโมงแล้ว หกชั่วโมงแล้ววว

ถึงเวลาเยี่ยมปัณณ์พอดี เปิดประตูเข้าไป ผลัวะ ภาพที่เห็นในห้องปัณณ์คือพยาบาลกับหมออยู่ในห้องปัณณ์เต็มไปหมด แม่ยืนช็อกอยู่หน้าประตูห้อง ร้องไห้อีกแล้วจะเหลือ โชคดีมีน้องสาวเข้าไปด้วย เราสองคนยืนมองยืนฟังว่าเค้าทำอะไรกันอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับปัณณ์ของแม่

แล้วหมอก็เดินออกมาบอกแม่ว่า….คุณแม่ครับอาการน้องไม่ค่อยดีนะครับ ตอนนี้คุณแม่ต้องเลือกนะครับว่าจะใช้วิธีไหน ซึ่งเรามีสองวิธี ทางแรกคือใช้ก๊าซไนตริกเข้าไปลดความดันในปอด ซึ่งตอนนี้ให้คุณแม่คิดว่าสมมติก๊าซถังนั้นมี 10 level ปัณณ์ใช้ไปแล้วครับ level ที่ 4 แล้วถ้าถึง 10 แล้วเอาไม่อยู่ก็ต้องนวดหัวใจ 30 นาที ถ้าน้องไม่กลับมาก็ต้องปล่อยครับ

ทางสองคือ on ecmo อีกครั้ง เอาแล้วไง จะเลือกทางแรกปัณณ์ก็เคยใช้ก๊าซตัวนี้แล้วหลังผ่าตัดแต่เอาไม่อยู่ ทางสองล่ะ on ต่อแต่หมอบอกว่าความสำเร็จต่ำความเสี่ยงสูง แม่ก็โทรหาคุณพ่อให้รีบมา พอมาถึง ก็ตกลงกันว่าจะใช้ก๊าซไนตริกก่อน

แล้วเป็นความโชคดีที่ตอนนี้ก๊าซเอาอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นอาจจะเป็นเพราะปัณณ์ได้พักหัวใจพักปอดขึ้นมา ได้ระดับนึงแล้ว เรา on ก๊าซไนตริกกันอยู่ 5 วัน เราลดระดับก๊าซกันลงมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะ off วันที่ off ก๊าซก็ต้องลุ้นกันอีกแล้วว่าปัณณ์จะไหวมั้ย ปัณณ์ของแม่เก่งมากรู้มั้ยลูก ปัณณ์สู้จนผ่านมันมาได้ ปัณณ์ของแม่เป็นนักสู้จริงๆ

(รูปภาพประกอบจากเนตนะคะ เนื่องด้วยใน I.C.U.ไม่สามารถถ่ายรูปและวีดิโอได้ค่ะ)

EP8 : Gift day

ปัณณ์ใช้เวลาอยู่ที่ห้อง I.C.U. ทั้งหมด 3 วีค แล้วก็ย้ายออกมาพักฟื้นที่ห้องเดี่ยววอร์ดศัลยกรรมเด็ก จริง ๆ แล้วเราไม่ได้อยากอยู่ห้องเดี่ยวเลย เพราะไม่ได้อยู่ใกล้สายตาของพยาบาล แม่ก็กังวล กลัวไปหมดทุกอย่าง เวลาเครื่องวัดชีพจร/วัดความดันมันดัง แม่ก็กดออดเรียกพยาบาลละ

คืนแรกเป็นคืนที่แม่ได้กลับมานอนกับปัณณ์อีกครั้ง หลังจากที่เราไม่ได้นอนด้วยกันเกือบสองเดือน แม่ดีใจมากนะปัณณ์ ที่ได้ดูแลปัณณ์อีกครั้ง มันเป็นคืนที่แม่ไม่หลับเลย นั่งดูปัณณ์ทั้งคืน เวลาปัณณ์นอนหลับนิ่ง ๆ แม่ก็เข้าไปขยับตัวปัณณ์ 55555 ว่าทำไมมันนิ่งจังวะ

เพราะก่อนผ่าตัดแม่แค่มองห่าง ๆ ก็เห็นเวลาปัณณ์หายใจละ ว่ามันแรงแค่ไหน แต่นี่หน้ามือเป็นหลังมือ ปัณณ์หายใจเบาๆ ดูสบาย ๆ หลับได้นานขึ้น

เราอยู่ที่ห้องพักฟื้นกันวีคกว่า ๆ คุณหมอก็นัดทำ Echo เพื่อเช็คความพร้อมก่อนกลับบ้าน ผล Echo ก็เรียบร้อยดี ก็จะมีบ้างเรื่องความดันในปอดยังสูงอยู่นิด ๆ เวลาปัณณ์ร้องไห้

อยู่ที่นี่ปัณณ์ก็ได้กลับมาดูดนมเหมือนเดิมแล้วน๊าาา หลังจากที่นอนดูดมือตัวเองมาหลายวัน ลืมบอกไปว่าตั้งแต่มาอยู่ที่ห้องนี้ แม่ก็ได้เห็นรอยยิ้มปัณณ์เป็นครั้งแรก ปัณณ์รู้มั้ยแม่กรี๊ดลั่นเลย ดีใจมากมาย เวลาปัณณ์ยิ้ม ยิ้มไปหมดทั้งหน้าเลยลูก

แต่ก็มีอีกเรื่องตอนเรากลับบ้านเราต้องฟิตกันอย่างจริงจัง คือน้ำหนักของปัณณ์ แม่ต้องไปเรียนทำสูตรนมพิเศษ เพื่อเพิ่มพลังงานเพิ่มน้ำหนักปัณณ์ เพราะตอนนี้ปัณณ์ตัวเล็กตามไม่ทันเพื่อนวัยเดียวกันแล้วน๊า แต่ไม่เป็นไรเนอะลูก แม่ก็ตัวเล็ก คุณพ่อก็ตัวเล็ก ขอร่างกายปัณณ์แข็งแรงก่อน…

และแล้ว ข่าวดีที่แม่รอคอยก็มาถึง เมื่อคุณหมอบอกว่าเราวางแผนกลับบ้านกันได้แล้วนะ เย่ ปัณณ์จะได้กลับไปอยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวแล้ววว หลังจากที่อยู่รพ.สามเดือน ทุกคนรออุ้มปัณณ์ จนต้องจัดคิวกันเลยทีเดียว

แม่ขอบคุณปัณณ์มากนะลูก ที่ปัณณ์ต่อสู้มาตลอด ปัณณ์เก่งมากนะลูก ปัณณ์เป็นผู้ชายคนเดียวที่ทำให้แม่อ่อนแอ ร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นได้แบบไม่อายใคร แต่ก็ทำให้แม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘แม่’ ได้อย่างดีเลยล่ะลูก

ปัจจุบันปัณณ์ผ่าตัดมาแล้วเดือนกว่าๆค่ะ เพิ่งไป echo เมื่อ 2 วีคที่ผ่านมา ผล echo ออกมาดีค่ะ การทำงานของหัวใจดีมาก ผนังกั้นหัวใจห้องบนก็เป็นแค่ flap ไม่ใช่รูรั่ว ยังคงเหลือภาวะความดันในปอดสูงอยู่ คุณหมอบอกว่าเมื่อโตขึ้นจะค่อยๆลดลงไปเอง และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว บำรุงร่างกาย เสริมสร้างพัฒนาการให้ทันเด็กคนอื่นๆ เนื่องจากนอนรพ.ตั้งสามเดือนค่ะ ยังต้องทานยาโรคหัวใจ ยาลดความดันในปอด ยาขับปัสสาวะ และพวกวิตามินบำรุงร่างกาย ปัณณ์แข็งแรงขึ้นทุกวัน ๆ ค่ะ มีพัฒนาการทางด้านอารมณ์และร่างกายที่ดีขึ้น

ขอให้เรื่องราวของปัณณ์เป็นประโยชน์กับแม่ๆ ที่ประสบปัญหาเดียวกันนะคะ รูปปัจจุบันค่ะอายุ 4 เดือนแล้วค่ะ

ทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ทุกคน ขอขอบคุณ ๆ แม่ท่านนี้มาก ๆ นะคะ สำหรับเรื่องเล่าประสบการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

โอกาสและความเสี่ยงโรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิดในทารก

  • สถานการณ์โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิดในปัจจุบัน จะพบในทารก 7.7 คน จากทารก 1,000 คน
  • แต่มีแค่ร้อยละ 1 ที่ตรวจทราบหรือพบเลยตั้งแต่แรกคลอดว่าเป็นโรคนี้
  • โดยในแต่ละปีมีทารกต้องการการผ่าตัดมากถึง 5,000-6,000 ราย แต่สามารถผ่าตัดได้เพียง 3,500 คน

สาเหตุของโรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิดในทารก

  • สาเหตุของโรคยังไม่ทราบแน่ชัดแต่ความผิดปกติเกิดในขั้นตอนการสร้าง อวัยวะตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์มารดา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อใน 3 เดือนแรกหรือเกิดจากกรรมพันธุ์
  • นอกจากนี้สาเหตุของโรคยังเกิดได้จากพฤติกรรมของมารดาขณะตั้งครรภ์ด้วย เช่น แม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าตอนตั้งครรภ์
  • แม่มีอายุมากเกินกว่าวัยเจริญพันธุ์
  • หรือเด็กที่เกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรม เด็กที่คลอดก่อนกำหนด หรือเกิดมาน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ก็อาจมีโอกาสเสี่ยงเป็นได้

ที่มา: เพจ Pantip

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

10 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์

แม่ต้องระวัง กินหมูแผ่น หมูหวานมากเสี่ยงมะเร็ง

บทความโดย

Muninth