เศร้า! แม่เลือดไหลไม่หยุดหลังคลอดจนเสียชีวิต
ไม่นานมานี้ ประเทศมาเลเซียต้องช็อคและเสียใจกับข่าวร้าย เมื่อนางอาเซียน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเซเบรัง จายา ในเมืองปีนัง หลังจากตลอดลูกสาวได้ไม่นาน สาเหตุจากอาการเลือดไหลไม่หยุด
Penang Kini สื่อท้องถิ่น รายงานว่านางอาเซียนเสียชีวิต หลังประสบภาวะตกเลือดหลังคลอด และหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นอุทธาหรณ์ให้กับหลายๆ คน โดยเฉพาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องเสี่ยงชีวิตกับการให้กำเนิดลูกๆ และขอเป็นกำลังใจให้กับครอบครัว สามีของผู้ประสบเหตุ เพื่อให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง
ภาวะตกเลือดหลังคลอด คืออะไร?
นพ. มูฮัมหมัด อิซซาท อับดุล ราซัก สูตินรีแพทย์กล่าวว่า อาการเสียเลือดมากหลังคลอดหรือภาวะตกเลือดหลังคลอดนั้นจะเกิดขึ้นได้ทั้งก่อน ระหว่าง หรือหลังคลอด ส่วนใหญ่แล้ว อาการตกเลือดที่เกิดขึ้นระหว่างและหลังคลอดนั้น เกิดจากแผลฉีกขาดบริเวณฝีเย็บและช่องคลอดฉีกขาด
ภาวะตกเลือดหลังคลอดมี 2 ชนิดคือ
- ภาวะตกเลือดระยะแรก – เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด (ส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ที่โรงพยาบาล)
- ภาวะตกเลือดระยะหลัง – เกิดขึ้นระหว่าง 24 ชั่วโมง – 6 สัปดาห์ หลังคลอด (ส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังแม่กลับมาอยู่บ้านแล้ว)
ภาวะตกเลือดหลังคลอดแบบสาหัส จะทำให้เสียเลือด 500 มิลลิลิตร สำหรับการคลอดแบบธรรมดา และจะเสียเลือดถึง 1 ลิตร หากผ่าคลอด
เพราะเหตุใดจึงเกิดภาวะตกเลือด?
แม่ท้องอาจเกิดภาวะนี้ได้ ทำให้เกิดอาการอ่อนแรงหลังคลอดได้ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ ได้แก่
- รกหรือเนื้อเยื่อที่หลงเหลืออยู่ในท้องแม่
- กล้ามเนื้อมดลูกหดตัวไม่ดี
- คอมดลูก ช่องคลอด ฝีเย็บฉีกขาด
- แม่ท้องอายุ 40 ปีขึ้นไป
- ตกเลือดหลังคลอด
- รกอยู่ต่ำ
- การผ่าคลอด
- การกระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอด
- อาการบาดเจ็บจากการคลอด เช่น การใช้คีมหรือการดูด
- เด็กตัวใหญ่ หนักเกิน 4 กก.
- เคยตกเลือด (จากการคลอดก่อนหน้า)
- โลหิตจาง
- คลอดมากกว่า 5 ครั้ง
อาการควรระวัง
ภาวะตกเลือดจากทำให้ต้องตัดมดลูกทิ้ง จนถึงปี 2005 พบว่าแม่เสียชีวิตจากภาวะตกเลือดหลังคลอดเกือบ 14%
หากคุณมีอาการต่อไปนี้ ควรพบแพทย์ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
- ความดันเลือดลดลง
- อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
- รู้สึกวิงเวียน ปวดหัว และเป็นลม
- ตัวสั่นและเหงื่อออกมาก
- เสียเลือดมาก จนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง
- มีกลิ่นเลือด
- เหนื่อยมากกว่าปกติ
คำแนะนำจากคุณหมอ
เมื่อมีภาวะตกเลือดหลังคลอด หมอจะรีบรักษาอย่างรวดเร็ว โดยฉีดยาที่มีสารซินโทซินอน (อ็อกซิท็อกซิน) เพื่อลดการเสียเลือด จากนั้น หมอจะนวดมดลูกเพื่อช่วยห้ามเลือด
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรพบคุณหมอก่อนคลอดเป็นประจำ หากคนในครอบครัวเคยมีประวัติตกเลือดหลังคลอด คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ครับ
ที่มา sg.theasianparent
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
ดูชัดๆ ตกเลือดหลังคลอด เป็นอย่างไร
แม่ท้อง ดูแลแบบนี้นะ รับรองว่าไม่คลอดก่อนกำหนด !!!
ใกล้เวลาผ่าคลอดแล้ว คุณพร้อมแค่ไหน? มีใครตื่นเต้นบ้าง