แม่สามีร้องปวีณา หลังหลานสาววัย 5 เดือนถูก แม่แท้ ๆ ทำร้าย
แม่สามีร้องปวีณา หลังหลานสาววัย 5 เดือนถูก แม่แท้ ๆ ทำร้าย เมื่อวันที่ 17 มกราคาที่ผ่านมาเวลา 19.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี นำตัว น.ส.นฤมล อายุ 39 ปี เข้าพบ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.พิทักษ์ ปัญญาพร ผกก.สน.บุปผาราม เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ว่า ด.ญ.ขนม (นามสมมุติ) อายุ 5 เดือน หลานสาว ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสต้องผ่าตัดสมองจาก แม่ ทำร้าย โดยมีเพื่อนบ้านเป็นพยานรู้เห็นว่า หลานสาวน่าจะถูก น.ส.แนน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้เป็น แม่ ทำร้าย น้องขนม
น.ส.นฤมล กล่าวว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ รพ.ศิริราช ส่วนลูกชายชื่อ นายฟลุ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ทำงานเป็น รปภ.อยู่ย่านสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อ 1 ปีกว่าที่ผ่านมา นายฟลุ๊ก ได้ไปคบหากับ น.ส.แนน สาววัยรุ่นที่ไม่ได้เรียนหนังสือและไม่ได้ทำการทำงานอะไร จนกระทั่ง น.ส.แนน ตั้งครรภ์คลอดลูกสาวออกมา 1 คน ตนจึงให้ลูกชายรับผิดชอบ ด้วยการนำลูกสะใภ้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่า
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ตนและ นายฟลุ๊ก ลูกชาย ต่างก็ต้องออกไปทำงาน มีเพียง น.ส.แนน เลี้ยง น้องขนม อยู่ที่บ้านด้วยกัน 2 คนเท่านั้น พอเลิกงานพากันกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 19.00 น.วันเดียวกันรู้สึกผิดสังเกตว่า เหตุใด น.ส.แนน ถึงได้นำตัว น้องขนม ขึ้นไปขลุกแฝงตัวอยู่แต่บนห้องชั้นที่ 2 เมื่อ ตนให้ นายฟลุ๊ก ขึ้นไปดูลูก ก็พบว่า น้องขนมมีร่องรอยเขียวช้ำที่ปาก คล้ายโดนกระแทกอย่างแรง ตอนนั้น นายฟลุ๊ก ไม่คิดอะไรคิดว่าเป็นอุบัติเหตุจึงนอนหลับไป จนช่วงเย็นวันที่ 10 มกราคมน.ส.แนน ได้ชวน นายฟลุ๊ค ลูกชายตนไปนอนค้างที่บ้านพ่อกับแม่ และพาน้องขนมไปด้วย มาทราบข่าวอีกครั้งก็ช่วงเช้าวันที่ 11 มกราคมว่า น้องขนม ถูกส่งตัวไปผ่าตัดที่ รพ.ศิริราชอย่างเร่งด่วน
ตนพยายามสอบถาม นายฟลุ๊ก ลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ความว่า เวลาประมาณตีสอง วันที่ 11 มกราคม นายฟลุ๊ก ซึ่งนอนหลับอยู่ที่บ้านพ่อตาแม่ยายต้องตกใจตื่นขึ้นมา เพราะ น้องขนม ร้องไห้ไม่หยุด เมื่อสอบถาม น.ส.แนน ก็อ้างว่า น้องขนม ได้รับอุบัติเหตุตกรถเข็นเด็กหัวฟาดฟื้นได้รับบาดเจ็บ นายฟลุ๊ก จึงรีบพาลูกไปส่ง รพ.อนันต์พัฒนา 2 บางกรวย ตามสิทธิ์รักษา 30 บาทอย่างเร่งด่วน แต่แพทย์ รพ.อนันต์พัฒนา 2 ไม่ไหว เพราะสาหัสมาก จนต้องทำเรื่องส่งตัว น้องขนม ไปผ่าตัดอาการเลือดคั่งในสมอง ที่ รพ.ศิริราช ในช่วงสายวันเดียวกันโดย น้องขนม มีอาการกะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง 2 จุด ซ้ำยังมีอาการตาบวม ตามร่างกายเขียวช้ำและมีรอยเล็บจิกอีกด้วย
“หลังจากที่หลานตนผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาการก็ยังไม่ดีขึ้น นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่ห้องไอซียู ล่าสุดวันนี้แพทย์บอกให้ตนทำใจ เพราะหัวใจ น้องขนม เต้นแผ่วลง เริ่มมีอาการไตวาย และม่านตาปิด ส่วน น.ส.แนน นั้นยังคงอ้ำอึ้งและย้ายออกจากบ้านเช่าตนไปอยู่กับพ่อแม่ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนมีเพื่อนบ้านช่วยทำเรื่องร้องทุกข์ไปขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้ช่วยติดตามคดีนี้ และหากพบว่า น.ส.แนน ลูกสะใภ้ ทำร้ายหลานสาวจริงๆ ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”น.ส.นฤมล กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงปักใจเชื่อว่า น.ส.แนน ทำร้ายลูกในไส้ของตัวเอง น.ส.นฤมล ตอบว่า ที่ผ่านมา น.ส.แนน มีพฤติกรรมทำร้ายลูกอยู่เสมอชอบกล่าวหาว่า น้องขนม แย่งความรักจากสามีไป ที่สำคัญตั้งแต่ น้องขนม อายุได้ 2 เดือน เพื่อนบ้านก็เคยร้องทุกข์ต่อนักสังคมสงเคราะห์ให้เข้ามาตักเตือน น.ส.แนน ครั้งหนึ่งแล้ว ล่าสุดตนเพิ่มรู้ว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา มีพยานปากสำคัญระบุ ได้ยินเสียง น.ส.แนน ทำร้ายทุบตี น้องขนม ที่สำคัญยังได้ยินเสียงคล้าย น.ส.แนน เอาสิ่งของขนาดใหญ่ทุ่มใส่พื้นบ้าน เมื่อพยานคนดังกล่าวเชื่อว่า น้องขนม ต้องถูกทำร้ายอีกแน่ ๆ จึงรีบวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ พบสภาพ น้องขนม มีเลือดออกที่ปากเป็นลิ่มพอพยานอุ้มออกมา น.ส.แนน ยังตะโกนถามเพื่อนบ้านไล่หลังด้วยว่า “มันตายหรือยัง?”
ขณะที่ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเช่าภายในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เพื่อสอบปากคำพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์เรื่อง น.ส.แนน ทำร้าย น้องขนม โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวน เร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมที่สุด และจะรอดูอาการของ น้องขนม แบบวันต่อวัน ซึ่งเรื่องนี้ทางตำรวจให้ความสำคัญมากอยู่แล้ว เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เฉียบขาดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณเพื่อนบ้านด้วยที่ช่วยเป็นหูเป็นตา เมื่อพบเห็นพฤติกรรมเด็กถูกใช้ความรุนแรงจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ร่วมมือกันตรวจสอบ
ที่มา : มติชน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คำพูดไม่ควรทำร้ายลูกวัยเตาะแตะ
โซเชียลแชร์! แม่ทอมวอนช่วยหาลูก หลังเกย์หนุ่มเซ็นรับรองบุตร แล้วขโมยลูกไป