เมื่อคุณแม่ลูกสามอย่าง Sarah Toyer ชาวออสเตรเลีย ตัดสินใจคลอดลูกคนที่สี่ด้วยวิธีผ่าท้องแต่เป็นการผ่าท้องด้วยวิธีการคลอดลูกแบบธรรมชาติ …
ทันทีที่ Sarah รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ เธอก็ทำการปรึกษากับคุณหมอของเธอทันทีว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่การคลอดลูกคนเล็กครั้งนี้ จะขอเป็นการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ โดยอาศัยการผ่าท้องเข้าช่วย ซึ่งคุณหมอก็ไม่ได้รับปากเธอแต่อย่างใด และบอกเธอว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวันที่เธอผ่าท้องคลอด และในวันนั้น เธอก็ทำได้สำเร็จสมดังตั้งใจ ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี การผ่าคลอดลูกของ Sarah จะเป็นอย่างไร แล้วทำไมถึงเรียกว่าเป็นการคลอดลูกแบบธรรมชาติ ไปชมคลิปที่ว่านี้ด้วยกันเลยค่ะ
www.facebook.com/PregnancyVideo/videos/801424143331999/
ดูแลแผลผ่าคลอดอย่างถูกวิธี
1. หลังจากที่คุณหมอเปิดแผลผ่าคลอดแล้ว แผลสามารถถูกน้ำได้หลังผ่าตัดประมาณ 7 วัน รักษาความสะอาดและคอยดูแลให้แผลแห้ง ต้องระวังอย่าให้ผ้าอนามัยไปขูดสีกับแผลที่เย็บไว้ และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ เพื่อรักษาความสะอาดแผลผ่าคลอด และป้องกันการติดเชื้อ
2. ไม่ยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่เป็นการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องมากจนเกินไป และควรอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพราะอากาศร้อนจะทำให้เหงื่อออกมากและเกิดการอับชื้นได้ค่ะ
3. การขยับตัวมากๆ จะไม่ส่งผลกระทบกับแผลหากการขยับนั้นไม่ทำให้แผลมีการยืดขยาย สังเกตง่าย ๆ คือ ขยับตัวได้เท่าที่ไม่รู้สึกเจ็บ หากเจ็บหรือรู้สึกตึง ๆ แสดงว่า แผลมีการยืดขยายออกแล้ว
4. การทาครีมซึ่งมีส่วนผสมของเสตียรอยด์อ่อน ๆ หรือครีมที่มีส่วนผสมของ วิตามินอี ก็สามารถช่วยลดการเกิดแผลเป็นได้ สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่ให้นมลูกอยู่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปว่าครีมที่ทาจะส่งผลต่อน้ำนม เพราะการทายาเป็นเพียงการใช้ยาภายนอก และเฉพาะที่ ไม่เหมือนการกินที่ตัวยาจะแทรกซึมไปทั่วร่างกาย
5. ในช่วง 3 เดือนแรก : ซึ่งมีโอกาสสูงที่แผลจะกลายเป็นคีลอยด์ คือ มีลักษณะหนา นูน สามารถป้องกันได้โดยไม่ยกของหนัก หรือยืดเหยียดแผลมากจนแผลตึงเกินไป การยืดเหยียดจนแผลตึงทำให้ร่างกายปรับสภาพตัวเอง เนื่องจากกลัวว่าแผลจะหลุด จึงสร้างเส้นใยคอลลาเจนหนาๆ เพื่อทำให้แผลแน่นขึ้น พอเส้นใยคอลลาเจนหนาเกินไปจึงกลายเป็นแผลนูนขึ้นมาเป็นแผลคีลอยด์ในที่สุด
ที่มา: NYPost และ PregnancyVideo