อุทาหรณ์!! คุณแม่กับการเลือกใช้ของเพื่อลูกรัก

อุทาหรณ์!! คุณแม่กับการ เลือกใช้ของเพื่อลูกรัก

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงจากคุณแม่มือใหม่ท่านหนึ่ง ที่ได้เปิดเผยเรื่องราวผ่านทาง Pantip เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่ท่านอื่นๆ ให้ทราบเกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างเคร่ดครัดและระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ ให้กับลูกน้อยของคุณ โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า …

การ เลือกใช้ของเพื่อลูกรัก ทางคุณแม่ท่านนี้ … ตั้งแต่แต่งงานกับสามีมาในช่วงเวลาปีที่ 6 เธอและสามีก็ได้ลูกสาวสุดน่ารัก ซึ่งตอนนี้ลูกสาวอายุได้ 3 เดือนแล้ว เธอและสามีรักลูกสาวคนนี้มาก ใส่ใจทุกอย่างที่เป็นเรื่องของลูก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เครื่องใช้ อาหาร หรือแม้แต่ของเล่น เพื่อเพิ่มพัฒนาการ เราก็เตรียมให้ทุกๆ อย่างที่ดีที่สุดให้กับเด็กคนนี้

ย้อนกลับไปประมาณ 10 วันที่แล้ว ตอนนั้นลูกอายุได้ประมาณเกือบๆ 2 เดือน โดยข้างหลังบ้านจะเป็นสวน มีร่องน้ำ ทำให้มียุงเยอะ ขนาดว่าติดมุ้งลวดแล้ว บางครั้งเปิดประตูบ้านไว้แป๊บเดียวยุงก็เข้ามาแล้ว เธอจึงไปหาซื้อผลิตภัณฑ์ยากันยุงสำหรับทารก ซึ่งเธอก็เลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันยุงที่ทำมาจาก organic ขณะนั้นเธอคิดว่ามันน่าจะดีแน่นอน อีกทั้งในด้านหลังฉลากก็ยังระบุอย่างชัดเจนอีกว่า “สามารถใช้กับทารกแรกเกิดได้” แต่พอเธอเริ่มทาให้ลูกสาวไปแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง ลูกสาวก็เริ่มมีผื่นแดงขึ้นตามบริเวิณหน้า และเริ่มร้องไห้งอแงตลอด เธอตกใจมากจึงรีบโทรหาสามีก่อน แล้วจึงรีบพาน้องไปโรงพยาบาลทันที เพราะเรากลัวน้องจะเป็นมากกว่านี้

พอเธอพาลูกสาวเข้าพบคุณหมอ ก็ทำให้เธอทราบสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวเป็นแบบนี้คือ ลูกสาวของเธอแพ้ยากันยุงที่เธอทาให้ลูกสาว และเธอก็แจ้งให้คุณหมอทราบว่า “ก่อนที่เธอจะใช้ทาให้ลูกสาวนั้น เธอได้อ่านฉลากเป็นอย่างดีแล้วว่า สามารถใช้กับทารกแรกเกิดได้”

และทางคุณหมอก็เลยอธิบายให้ฟังว่า

“ยากันยุงสำหรับเด็กทารก ถึงแม้ว่าจะเป็น organic ธรรมชาติอย่างไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ธรรมชาติทุกชนิดจะไม่ทำร้ายผิวเด็ก เพราะมียากันยุงส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของ essential oil ก็จัดได้ว่าเป็น oil ที่อยู่ในตระกูลซิตรัส ซึ่งอาจจะทำให้ระคายเคืองแก่ผิวเด็กแรกเกิดได้ อายุเด็กที่เหมาะสมที่จะสามารถใช้ยากันยุงได้นั้น ควรมีอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปจะดีกว่า หากน้อยกว่านั้นควรใช้วิธีการอื่นๆ แทน เช่น นอนกางมุ้ง, ใส่เสื้อผ้าแขน-ขายาว เพื่อป้องกันยุงจะดีกว่าและเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดด้วย”

หลังจากที่ทราบข้อมูลจากคุณหมอนั้น เธอก็ต้องคอยระมัดระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ลูกสาวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเธอได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจาก organic เป็นพิเศษ … และเธอก็หวังว่า ประสบการณ์ที่เธอได้ประสบในครั้งนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่ทุกคนได้เช่นกันนะคะ

ออร์แกนิคคืออะไร

1. ส่วนประกอบทุกอย่างมาจากธรรมชาติ

เป็นการสร้างอาหารแบบ Back to Nature ธรรมชาติล้วนๆ 100% ส่วนประกอบทุกอย่างนั้นจึงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีสารพิษมาช่วยก่อมะเร็ง

2. ไม่ใช้สารเคมีใดๆ เลย

อาหารออร์แกนิคนั้น ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ หากมีการใช้สารเคมี ก็ไม่ถือว่าเป็นออร์แกนิคแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีป้ายบ่งบอกความเป็นออร์แกนิคไว้ 3 ระดับ คือ

• 100% Organic (ธรรมชาติ 100%)
• Organic (ธรรมชาติ 95% ขึ้นไป ใช้สารสังเคราะห์เพียงเล็กน้อยเท่าที่จำเป็น)
• Made with Organic Ingredient (ธรรมชาติ 70% ขึ้นไป ถ้าต่ำกว่านี้ไม่ถือว่าเป็น Organic)

ซึ่งป้ายบ่งบอกเปอร์เซ็นต์แบบนี้ ตอนนี้พบได้ทั่วไปในอเมริกาและแคนาดา ผู้บริโภคที่โน่นเค้าช่างเลือกซะด้วย อาหารที่เป็น Organic 100% จึงขายดี และคนทำฟาร์มรุ่นใหม่ๆ ก็เริ่มจะหันไป Go Organic กันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการผลิต

คือการลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะการใช้สารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่างๆ จะทำให้มีสารพิษตกค้างอยู่ในดิน ในอากาศ และในน้ำ ซึ่งกว่าจะสลายไปได้นั้นก็อาจกินเวลาเป็นสิบๆ ปีเลยทีเดียว วิธีการปลูกแบบธรรมชาติแบบนี้จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไปแล้ว นอกจากจะได้อาหารที่ไม่มีสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษได้ด้วย

หมายเหตุ :

รายชื่อโรงพยาบาลเด็กที่มีกุมารแพทย์ บริการให้การตรวจวินิจฉัยดูแลและรักษาพยาบาลผู้ป่วยเด็กตลอด 24 ชม.

โรงพยาบาลใจกลางกรุงเทพ

          – ร.พ.เปาโล พหลโยธิน โทร. 02–271–7000

          – ร.พ.พญาไท โทร. 2 02–617–2444 ต่อ 3219, 3220

          – สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โทร. 1415

          – ร.พ.พญาไท โทร. 1 02–640–1111 ต่อ 3111, 3112

โรงพยาบาลในกรุงเทพโซนเหนือ (ดอนเมือง สายไหม หลักสี่ บางเขน)

          – ร.พ.บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ โทร. 02–523–3359–71

          – ร.พ.สายไหม โทร. 02–991–8999

          – ร.พ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล โทร. 02–552–8777

          – ร.พ.เปาโล โชคชัย 4 โทร. 02–514–4140–9

โรงพยาบาลในกรุงเทพโซนตะวันออก (บางกะปิ คันนายาว มีนบุรี หนองจอก)

          – ร.พ.สินแพทย์ โทร. 02–793–5099

          – ร.พ.เวชธานี โทร. 1 02–734–0000

          – ร.พ.เสรีรักษ์ โทร. 02–762–9888, 02–918–9888

โรงพยาบาลในกรุงเทพโซนตะวันออกเฉียงใต้ (สวนหลวง บางนา-เทพารักษ์)

          – ร.พ.ศิครินทร์ โทร. 1728

          – ร.พ.ไทยนครินทร์ โทร. 02–361–2727, 02–361–2828 ต่อ 3104, 3106

          – ร.พ.วิภาราม โทร. 02–722–2500, 02–032–2550 ต่อ 2417, 2418

          – ร.พ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ โทร. 02–378–9090–1

โรงพยาบาลในกรุงเทพฝั่งธนบุรี

          – ร.พ.พญาไท โทร. 3 02–467–1111

          – ร.พ.เกษมราษฎร์ บางแค โทร. 02–804–8959–70 ต่อ 5111, 5093

          – ร.พ.เจ้าพระยา โทร. 02–434–0117, 02–884–7000

          – ร.พ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล โทร. 02–109–9111 ต่อ 10221

          – ร.พ.บางปะกอก โทร. 1 02–872–1111 ต่อ 1145

ที่มา :

https://m.pantip.com/topic/37123230?

https://www.jowagroup.com/th/article

บทความที่เกี่ยวข้อง :
อุทาหรณ์ : ลูกหวิดดับเพราะไม้แขวนเสื้อ

หนูรู้พ่อทำได้! แชร์ประสบการณ์คุณพ่อมือใหม่ เป็นกำลังใจให้คุณพ่อทุกคน

คุณแม่ต้องแชร์ 8 เทคนิคการปั๊ม อย่างไรให้เกลี้ยงเต้า