โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก 4 สุดยอดคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กๆ มาร่วมตอบคำถาม และคลายข้อสงสัยของคุณแม่ทุกท่านในการเลี้ยงลูกสไตล์ต่างๆ ได้แก่
- ศาสตราจารย์ พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ จิตแพทย์มือ 1 ของประเทศไทย มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และผู้ก่อตั้งเพจ “ปั้นใหม่”
- แพทย์หญิงเสาวภา พรจินดารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญกุมารเวช ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม และเจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกเชิงบวก”
- ทันตแพทย์หญิงจีรภา ประพาศพงษ์ จากเพจ “หมอภา” ผู้เขียนหนังสือ “30 หลักคิด ติดปีกลูก”
- นายแพทย์ถิรชัย ตันสันติวงศ์ กุมารแพทย์ระบบประสาท ที่ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าเซเลบริตี้มากมาย
คุณแม่เซเลบริตี้และบล็อกเกอร์คนดังให้ความสนใจเข้าร่วมเสวนา
โดยในงานครั้งนี้ มีคุณแม่เซเลบริตี้สาวสวย พร้อมด้วยบล็อกเกอร์คนดังหลายท่าน เกี่ยวก้อยเจ้าตัวเล็กวัยน่ารักมาแชร์ประสบการณ์กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง อาทิ คุณอุ๊–เจนนิส (โสภณพนิช) ยังพิชิต คุณแม่คนสวยของน้องฝาแฝดจาณีนและเจส ขวัญใจชาวโซเชียล, คุณเปเป้–วาริธร กันท์ไพบูลย์ เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Varinthorn Kids คุณหมอขวัญ–ทันตแพทย์หญิงพิชชุดา ทัพพะทัต คุณแม่สายเที่ยวที่เชื่อมั่นในการเรียนรู้ผ่านโลกกว้าง ฯลฯ โดยมี คุณโอปอล์–ปาณิสรา อารยะสกุล รับหน้าที่พิธีกร โดยบรรยกาศการเสวนาเป็นไปอย่างคึกคัก อบอุ่น และเป็นกันเอง
เบบี้มายด์เผย คุณแม่ส่วนใหญ่ไม่มั่นใจในสัญชาติญาณการเลี้ยงลูกของตนเอง
จากผลสำรวจออนไลน์ในกลุ่มคุณแม่คนไทยอายุระหว่าง 25-43 ปี ที่มีลูกวัยแรกเกิดจนถึง 3 ขวบ โดย เบบี้มายด์ ร่วมกับ บริษัท ทิคเคิลด์ มีเดีย จำกัด พบว่า 94% ของคุณแม่รุ่นใหม่ ไม่มั่นใจในสัญชาติญาณการเลี้ยงลูกของตนเอง ส่วนอีก 83% เกิดความเครียดและมีความกังวลเรื่องการเลี้ยงลูก ซึ่งหลายคนมีความกังวลสูงจนต้องปรึกษาแพทย์ในทุกๆ เรื่อง นอกเหนือจากความกังวลที่ตนเองมีแล้ว อีก 54% ยังยอมรับว่าบุคคลรอบข้าง เช่น พ่อแม่ตนเอง พ่อแม่สามี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต ล้วนมีอิทธิพลต่อการลดทอนความกล้าในการทดลองเลี้ยงลูกตามสไตล์ของตนเองเป็นอย่างมาก โดยมีเพียง 17% เท่านั้นที่ยืนยันว่าตนเองไม่มีความกังวลใดๆ ในการเลี้ยงลูกเลย
เลี้ยงลูกตามธรรมชาติเสริมพัฒนาการลูกได้ดีที่สุด
ศาสตราจารย์ พญ.อุมาพร ตรังคสมบัติ จิตแพทย์มือ 1 ของประเทศไทย มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และผู้ก่อตั้งเพจ “ปั้นใหม่” กล่าวว่า “สมัยก่อนพ่อแม่เลี้ยงลูกแบบปล่อยไปตามบุญตามกรรม แต่ในปัจจุบันมีองค์ความรู้ที่มีประโยชน์มากมายภายใต้แนวคิด Positive Youth Development หรือการพัฒนาเชิงบวก โดยพบว่า การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนั้น ไม่ได้มีปัจจัยแค่ร่างกายแข็งแรง เรียนหนังสือเก่ง หรือมีนิสัยดี แต่ต้องมีการสร้างคุณลักษณะบางอย่างให้เกิดขึ้นในตัวเด็ก โดยคุณหมอได้นำหลักการนี้มาผสมผสานกับความรู้ด้านจิตวิทยาพัฒนาการและจิตเวชศาสตร์การป้องกันปัญหาสุขภาพจิต รวมทั้ง Positive Psychology ประมวลเป็นแนวคิดในการสร้างรากแก้วของชีวิตของลูกๆ โดยเครื่องมือที่สำคัญที่สุดคือ ตัวพ่อแม่ต้องต้องสามารถจัดการความเครียดในตนเอง มีชีวิตคู่ที่แข็งแกร่ง มีการสื่อสารในครอบครัวที่ดี สร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวก และสามารถจัดการกับอารมณ์ของลูกได้อย่างเหมาะสม เพราะต้นไม้ทุกต้นล้วนต้องการการดูแลและใส่ใจต่างกัน เมื่อพ่อแม่เข้าใจธรรมชาติของลูก ปรับสไตล์การเลี้ยงดูให้เหมาะสม ต้นกล้าเล็กๆ ก็สามารถเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีรากแก้วแข็งแรงได้ในอนาคต”
ส่วน แพทย์หญิงเสาวภา พรจินดารักษ์ จากเพจ หมอภา เลี้ยงลูกเชิงบวก เสริมว่า “คนเป็นพ่อแม่ย่อมต้องส่งเสริมพัฒนาการลูกให้เป็นไปตามศักยภาพของเขา เพื่อให้เด็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ได้ทำงานตามสิ่งที่เขาถนัด ในขั้นตอนการพัฒนา เราอาจต้องเผชิญกับอารมณ์และพฤติกรรมต่อต้านตามวัยของลูก ท่ามกลางความขัดแย้งนั้น ควรระลึกไว้เสมอว่า สัมพันธภาพที่ดีกับลูกคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง การเลี้ยงลูกเชิงบวกเป็นการเน้นการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ไม่เน้นการลงโทษหรือใช้อารมณ์ เปิดโอกาสให้ลูกได้คิดวิเคราะห์ กล้าตัดสินใจ แม้สุดท้ายการตัดสินใจนั้นผิดพลาด ก็ให้เรียนรู้ผลของการกระทำ เมื่อใดก็ตามที่ลูกรู้รับผิดชอบและเปิดเผยความถนัดของตนเองออกมาแล้ว เขาก็จะสามารถต่อยอดในสิ่งที่เป็น และไปถึงฝั่งฝันได้ในที่สุด”
ทางด้าน ทันตแพทย์หญิงจีรภา ประพาศพงษ์ จากเพจ “หมอภา” ผู้เขียนหนังสือ “30 หลักคิด ติดปีกลูก”
ให้ความเห็นว่า “วิธีการที่จะเสริมพัฒนาการของลูกได้ดีที่สุด คือการเลี้ยงลูกตามธรรมชาติ เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้รอบด้าน ให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาในการค้นหาตัวเองโดยไร้กรอบกำหนด พัฒนาสุขภาพกายและใจไปพร้อมๆ กัน เน้นส่งเสริมทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต เช่น การใช้ชีวิต การเอาตัวรอด การเป็นเจ้านายเทคโนโลยี ฯลฯ พ่อแม่เองก็ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้ เมื่อลูกมีความนับถือตนเอง มีความภาคภูมิใจในตนเอง เขาก็จะมีความเชื่อมั่นและเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์”
สำหรับ นายแพทย์ถิรชัย ตันสันติวงศ์ กุมารแพทย์ระบบประสาทที่ได้รับความไว้วางใจจากเซเลบริตี้ เสริมว่า “การเลี้ยงลูกไม่ได้มีวิธีสำเร็จรูปเสมอไป แม้จะเป็นพี่น้องท้องเดียวกันยังไม่สามารถเลี้ยงดูแบบเดียวกันได้ การเลี้ยงลูกจึงต้องสังเกตอุปนิสัยและจิตใจเด็กเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมรู้จักลูกตัวเองดีที่สุด นอกเหนือจากพัฒนาการทางร่างกายแล้ว เราสามารถกระตุ้นพัฒนาการทางด้านสมองและระบบประสาทของเด็กๆ ได้ตั้งแต่วัยทารก ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเด็กที่มี IQ ดีต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งพันธุกรรม อาหาร และการกระตุ้นพัฒนาการตามวัย ดังนั้นคุณแม่ควรให้ความสำคัญในเรื่อง EQ เพิ่มขึ้น เน้นไปที่การแก้ปัญหาทางด้านอารมณ์และทัศนคติต่างๆ ในมุมมองของหมอ พ่อแม่ที่ประสบความสำเร็จคือ พ่อแม่ที่ส่งเสริมให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์ มีสุขภาพและจิตใจที่ดีนั่นเอง”
นางสาวสุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Marketing Officer บริษัทโอสถสภา จำกัด เชื่อว่า “แม้ความคิดเห็นต่างๆ ของคนรอบข้าง หรือสิ่งที่เห็นในอินเตอร์เน็ต จะทำให้คุณแม่ลังเลและขาดความเชื่อมั่นในสัญชาติญาณตนเองอยู่บ้าง แต่เบบี้มายด์เชื่อมั่นว่า ธรรมชาติดีที่สุด คนเป็นแม่ย่อมเข้าใจในธรรมชาติของลูกตนเองมากกว่าใคร เราจึงมีพันธกิจเสริมความมั่นใจและเป็นพลังใจให้คุณแม่เชื่อมั่นในสัญชาติญาณความเป็นแม่ พร้อมยืนหยัดเคียงข้างคุณแม่ทุกคนที่เลี้ยงลูกตามสไตล์ของตนเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก เพราะสัญชาติญาณความเป็นแม่จะชี้แนะแนวทางในการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด พร้อมกันนี้ได้เดินหน้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติที่ดีที่สุดเพื่อทารกตัวน้อย ให้คุณแม่สามารถวางใจและคลายความกังวลว่าได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกรัก
โดยหลังจากนี้ เบบี้มายด์ จะเดินหน้าจัดกิจกรรมเพิ่มเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสัญชาติญาณความเป็นแม่ที่เข้าใจในธรรมชาติของลูกๆ ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำในการเวิร์คช็อปการดูแลลูกน้อยด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความมั่นใจของคุณแม่ให้ครบรอบด้าน สร้างแรงบันดาลใจและลดความกดดันของคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่ค่อยมั่นใจในการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของตนเอง
คุณแม่สามารถดูคลิปเสวนาย้อนหลัง และติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ใน www.facebook.com/BabiMildTH