ลูกน้อยที่เกิดจากการผ่าคลอด อาจมีโอกาสเจ็บป่วยมากขึ้นถึง 20% เพราะลูกอาจขาดโอกาสได้รับภูมิต้านทานตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต แต่คุณแม่ก็สามารถคืนภูมิต้านทานให้กับลูกน้อยได้ด้วย นมแม่ ที่ถือว่าเป็นโภชนาการที่ดีที่สุด ซึ่งมีจุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติก) และอาหารของจุลินทรีย์ (พรีไบโอติก) ที่ทำงานร่วมกันแบบ ซินไบโอติก ส่งเสริมภูมิต้านทานให้กลับคืนมา
ภูมิต้านทานช่วงแรกคือรากฐานของชีวิตที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
นับตั้งแต่ก้าวแรกของชีวิตลูกน้อย ‘ภูมิต้านทาน’ คือสิ่งที่คุณแม่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวตลอดชีวิตของลูก
ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงจรุงจิตร์ งามไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะนำว่า “ช่วงแรกเกิด คือช่วงโอกาสทองที่จะส่งเสริมระบบภูมิต้านทาน ให้ลูกน้อยแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย เพื่อรองรับทุกพัฒนาการ และการเจริญเติบโตในอนาคต หากพลาดโอกาสทองนี้ไป ก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับคืนมาได้ ”
เพราะเหตุใดการผ่าคลอด ทำให้โอกาสพัฒนาภูมิต้านทานของลูกน้อยล่าช้าในช่วงแรกของชีวิต
ลูกน้อยที่คลอดธรรมชาติจะได้รับ จุลินทรีย์สุขภาพ หรือโพรไบโอติก ผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่ซึ่งเป็นภูมิตั้งต้นในการพัฒนาระบบภูมิต้านทานที่ดี ต่างจากเด็กที่ผ่าคลอด ที่ไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพ ทำให้ระบบภูมิต้านทานพัฒนาล่าช้าจึงทำให้มีโอกาสเกิดการแพ้อาหาร มีปัญหาเรื่องการติดเชื้อ และการป่วยจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียได้ง่ายกว่าเด็กคลอดธรรมชาติ ซึ่งหากลูกไม่ได้รับการคืนภูมิต้านทานตั้งต้นนี้ ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการในด้านต่างๆ ต่อไป
วิธีเพิ่มภูมิต้านทานให้ลูกน้อย คือการให้ลูกได้ทานนมแม่อย่างน้อยเป็นเวลา 6 เดือนหลังคลอด ในกรณีที่ไม่สามารถทานนมแม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการเลี้ยงดูลูกอย่างถูกต้อง รวมถึงโภชนาการที่รวมคุณสมบัติของ โพรไบโอติก กับพรีไบโอติกให้ทำงานร่วมกัน เรียกว่า ซินไบโอติก
หากคุณแม่จำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าคลอด หลังคลอดลูกแล้วอย่าลืมให้ลูกได้กินนมแม่เพื่อเสริมภูมิต้านทานของลูกน้อยนะคะ ปรึกษาวิธีการกระตุ้นน้ำนมหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านอื่นๆ กับทีมผู้เชี่ยวชาญ นิวทรีเซีย ไฮคิว คิดส์ แคร์ไลน์ 0-2740-3333 และโทรฟรี (โทรศัพท์บ้าน) ที่ 1-800-291900 ได้ตลอด 24 ชม. หรือ ทางห้องสนทนาสดที่ https://www.hiqkidsclub.com/our_careline/live_chat เวลา 08.00-22.00 น. ค่ะ