แม่เป้ย ปานวาด โพสต์เฟซบุ๊ก ภาพสามีขณะปีนขึ้นมาช่วยตัวเองที่ถูกขังอยู่ในห้องน้ำ พร้อมข้อความว่า ก็ยังดีที่สามีไม่ปล่อยเราถูกขังอยู่ในห้องน้ำคนเดียว
ส่วนน้องโปรดเองก็เป็นห่วงแม่เป้ยอยู่ไม่น้อย โดยแม่เป้ยโพสต์เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า
"พี่เลี้ยงเล่าให้ฟัง ในระหว่างที่เราติดอยู่ในห้องน้ำว่าโปรดจะร้องไห้ ยิ่งตอนได้ยินเสียงป๊อปถีบประตู เพื่อจะพังประตูเข้าไป โปรดถามว่าคุณแม่จะเจ็บไหม คุณแม่จะเลือดไหลไหม โถวลูกกกกก"
เห็นน้องโปรดพูดแบบนี้ ช่างน่าเอ็นดูเสียจริงๆ และก็โชคดีมากๆ ที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับอันตราย
#ในวันที่หนึ่งบวกหนึ่งกลับกลายเป็นสาม
การนอกใจ เป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่นำไปสู่ปัญหาในชีวิตคู่ได้มากที่สุด
ชีวิตคู่ที่ตั้งใจว่าจะจับมือไว้ไปจนตายจากกันต้องมาถึงทางแยก ในวันที่มีมือที่สามเข้ามาแทรกในชีวิตของสามีและภรรยา
เหมือนกับเรื่องของอรุณาและธาดาในละครเรื่อง เมีย2018 สามีภรรยาที่ชีวิตครอบครัวมีความสุขและอบอุ่น มีโซ่ทองคล้องใจคือลูกสาวตัวน้อยที่น่ารัก อรุณาถือเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่ภรรยาและแม่อย่างดีเยี่ยม
แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ในวันที่ธาดานอกใจภรรยาไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่น ตรงนั้นก็ถือว่ากรรมย่อมเกิดขึ้นแล้ว
จริงๆ ธาดาก็ไม่ใช่จะชั่วร้ายเลวทราม เขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีกิเลสตัณหา แต่ไม่รู้จักควบคุมความต้องการตัวเอง และเมื่อคนแบบนี้กลายเป็นสามีและพ่อ จึงทำให้เกิดความเจ็บปวดกับภรรยาและลูกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อปล่อยใจเตลิดไปกับตัณหา สุดท้ายชีวิตคู่ก็ต้องจวนเจียนพังทลาย มิหนำซ้ำยังทำให้ภรรยาแสนดีอย่างอรุณาต้องเจ็บปวดสาหัส
ธาดาเองก็คงจะโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวเองที่เห็นแก่ตัณหาราคะเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
กิเลสตัณหา และ การผิดศีลข้อ3 สิ่งนี้แหละที่ทำให้ชีวิตคู่พังมานักต่อนักแล้ว
ในฐานะเป็นจิตแพทย์เด็ก หลายๆครั้งที่ได้รับฟังเรื่องราวของครอบครัวที่มีปัญหาเพราะสามีนอกใจภรรยา ที่แย่ไปกว่านั้น เมื่อสามีภรรยามีลูกด้วยแล้ว ปัญหาที่เกิดย่อมส่งผลถึงลูกๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ใดๆในโลกล้วนไม่แน่นอน แต่อย่างน้อยเราแต่ละคนก็ควรมีความ รับผิดชอบ มีจิตสำนึกที่จะควบคุมการกระทำ ความอยาก ความต้องการใดๆ ของเราได้
อย่าทำในสิ่งที่จะทำให้คนที่เรารักมีความทุกข์ และเห็นใจคนรอบข้างโดยเฉพาะคนสำคัญของเรา
#หมอมินบานเย็น
#เมีย2018
ไม่ว่าในละครเมีย2018 จะจบลงเช่นใด แต่การนอกใจ คือจุดเริ่มต้นของจุดจบชีวิตคู่ ก่อนจะทำอะไร ขอให้คุณสามีคิดสักนิด และขอเป็นกำลังใจ ให้กับผู้หญิงทุกคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาชีวิตคู่อยู่นะคะ
วิธีการทำนายเพศในตาราง
จากตารางด้านล่าง ซึ่งเป็นปฎิทินแบบจีนนะคะ จากตารางด้านล่างจะเห็นรูปลูก 2 สี คือ สีฟ้า เท่ากับ ลูกชาย ส่วนสีชมพูคือลูกสาวค่ะ
ตัวอย่าง ตอนนี้คุณแม่มีอายุ 30 ปี เมื่อลองย้อนกลับไปในช่วงเริ่มการตั้งครรภ์ พบว่าคุณแม่มีกิจกรรมกับคุณพ่อในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นก็ไปไล่ดูในตาราง เริ่มจากแทบซ้ายสุดที่เป็นตัวเลข ก็ให้ไล่ดูที่เลข 30 จากนั้น ด้านบนจะแสดงเดือน เดือนกุมภาพันธ์ คือ Feb แสดงว่าคุณแม่มีโอกาสได้ลูกชายค่ะ
เห็นไหมค่ะ ว่าวิธีการทายเพศลูก โดยใช้ตำราแบบจีนไม่ยากเลย คราวนี้ คุณแม่ลองมาทำนายดูนะคะ
คราวนี้เราลองมาดู การทำนายเพศตามความเชื่อแบบไทยโบราณบ้างดีกว่า ว่ากันว่ามีความแม่นไม่ต่างกันเช่นเดียวกันค่ะ
วิธีทายเพศลูกตามความเชื่อ
1. ดูว่าพ่ออ้วนขึ้นไหม
คนเฒ่าคนแก่บางคนมีความเชื่อว่า ถ้าคุณพ่อมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ แสดงว่าจะได้ลูกสาว ในทางกลับกัน หากคุณพ่อไม่อ้วนขึ้นเลย แสดงว่าได้ลูกชาย ซึ่งความเชื่อนี้ ก็มีวิจัยจากประเทศเดนมาร์กมาสนับสนุนด้วยว่า น้ำหนักของพ่อเด็กที่เปลี่ยนแปลงไปสามารถบอกเพศลูกได้ จากงานวิจัยพบว่า พ่อเด็กเกือบจะทุกคนจาก 100 คน ที่อ้วนขึ้นจะได้ลูกสาว และมีพ่อเด็กที่ได้ลูกชายเพียง 5 คนเท่านั้นที่อ้วนขึ้น
2. แม่เท้าเย็นหรือไหม?
มาถึงอีกความเชื่อที่ว่า หากคุณแม่เท้าเย็นในขณะตั้งครรภ์ นั่นหมายถึงคุณกำลังจะได้ลูกชาย แล้วมันจริงแค่ไหนล่ะ ความเชื่อนี้ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยของ Dr. Alexander Nachnamen ผู้เชี่ยวชาญในประเทศเยอรมนี ที่บอกว่า "ผู้หญิงที่ตั้งท้องลูกชายมักพบมีอาการเท้าเย็น โดยผู้หญิงที่ได้ลูกชายจะมีระบบการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีเท่าหญิงที่ตั้งท้องลูกสาว"
ที่มา : khaosod.co.th