เช็กเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม 2566 เป็นเงินที่รัฐบาลได้จัดสรรไว้ช่วยเหลือครอบครัวที่มีรายได้น้อย วันนี้มา เช็คเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม ใครมีสิทธิ์ได้รับบ้าง หากมีลูกอายุระหว่าง 0-6 ปี เช็คเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม มีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง และจะลงทะเบียนอย่างไร วันนี้ เรามีวิธีมาแนะนำ การ เช็คเงินอุดหนุนบุตรในปีนี้กัน
ข้อแตกต่างระหว่าง เงินสงเคราะห์บุตร และเงินอุดหนุนบุตร
- เงินอุดหนุนบุตร : เงินที่รัฐบาลจัดสรรไว้ เพื่อช่วยเหลือให้กับครอบครัวที่มีลูกอายุไม่เกิน 6 ปี และเป็นครอบครัวที่มีรายได้น้อย หรือไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี
- เงินสงเคราะห์บุตร : เงินที่รัฐบาลจัดสรรไว้ เพื่อช่วยเหลือให้กับครอบครัวที่มีลูกอายุไม่เกิน 6 ปี แต่ผู้ประกันตนในกองทุนประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะได้รับในวงเงิน 800 บาท (เพิ่มจาก 600) โดยแต่ละครอบครัว สามารถขอใช้สิทธิ์ การขอเงิน เงินสงเคราะห์บุตร ได้ ไม่เกินครอบครัวละ 3 คน
ซึ่งหมายความว่า หากไม่มีคุณสมบัติในการรับเงิน อุดหนุนบุตร ก็จะไม่มีคุณสมบัติในการขอรับเงิน เงินสงเคราะห์บุตร ได้เช่นกัน
หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ในกรณีขอรับ เงินสงเคราะห์บุตร 2566
- ต้องเป็นผู้ประกันตนในกองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน
- สำหรับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน (บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้ เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น)
- ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตรซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
หากมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็สามารถยื่นเอกสารเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์บุตร 800 บาทต่อลูก 1 คน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เงินอุดหนุนบุตร งวดเดือนตุลาคม 2566 เริ่มโอนวันไหน?
วิดีโอจาก : Around-Review
การเบิกสิทธิกรณี ขอรับเงินสงเคราะห์บุตร
ลงทะเบียนเงินอุดหนุนบุตรปี 66 ออนไลน์ หรือ เช็คเงินอุดหนุนบุตร 2566
- ทางสำนักงานประกันสังคมจะทำการตรวจสอบ การนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน หากมีการนำส่งเงินสมทบครบ 12 เดือน ภายใน 36 เดือนก่อนบุตรคลอด จึงจะมีการย้อนหลังให้ไม่เกิน 1 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ยกเว้น กรณีผู้ประกันตนมิได้นำส่งเงินสมทบตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ทางสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินให้ผู้ประกันตน ณ วันที่สิทธิเกิดขึ้นเท่านั้น
วิธีลงทะเบียนขอรับเงินสงเคราะห์บุตร
1. หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอ
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร (สปส. 2-01)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนทั้งของตนเองและคู่สมรส
- สำเนาทะเบียนสมรส / ทะเบียนหย่าของผู้ประกันตน
- (กรณีจดทะเบียนหย่า) หรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร ซึ่งเกิดจากคำสั่งศาลพิพากษาให้เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- สำเนาสูติบัตร
- สำเนา หน้าแรกของสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี โดยธนาคารที่ใช้ได้ จะมีทั้งหมด 11 ธนาคารคือ
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
2. ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
- ผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ / สำนักงานประกันสังคมจังหวัด และสาขา หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์ โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้)
- เจ้าหน้าที่ จะทำการตรวจหลักฐาน และพิจารณาอนุมัติ
- สำนักงานประกันสังคม จะจัดส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาไปยังของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
- การพิจารณาสั่งจ่าย จะจ่ายเป็นรายเดือน โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์ ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
หากมีคุณสมบัติครบถ้วน ทางประกันสังคม จะพิจารณาอนุมัติเงินกรณี เงินสงเคราะห์บุตร และจะโอนเงินเข้าบัญชี ในทุก ๆ วันสุดท้ายของเดือน สำหรับผู้ที่เคยลงทะเบียนเงินอุดหนุนเด็กเอาไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเงินสงเคราะห์บุตร สามารถถอนคุณสมบัติ และลงทะเบียนได้ที่หน้าเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคมโดยเลือกไปที่เมนู วิธีลงทะเบียนเงินสงเคราะห์บุตร ซึ่งตั้งแต่เดือน มกราคม 2564 เป็นต้นไป จะได้เพิ่มจาก 600 บาท เป็น 800 บาทต่อเดือน
ปกติเงินสงเคราะห์บุตรจากประกันสังคม จะโอนเข้าบัญชีที่ได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่เอาไว้ โดยเงินจะถูกโอนเข้ามาทุก ๆ วันสุดท้ายของเดือน แต่หากวันสุดท้ายของเดือนไปตรงกับวันหยุด หรือ เสาร์-อาทิตย์ เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีให้ล่วงหน้า
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลงทะเบียน ม.33 เรารักกัน เตรียมเปิดรับสิทธิ์เงิน 4,000 บาท เริ่ม 21 ก.พ.นี้
เช็กเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม 2566 การเช็กสถานะการจ่ายของประกัน
คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจเช็กสถานะการจ่ายของประกันสังคมได้จากบริการ ประกันสังคมออนไลน์ หรือทาง Application SSO Connect ได้ดังนี้
-
ขั้นตอนที่ 1
ดาวน์โหลด application SSO Connect
หรือสามารถเข้าผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม https://www.sso.go.th
หลังจากนั้น เข้าสู่ระบบ (หากยังไม่ได้เป็นสมาชิก สามารถสมัครสมาชิก ๆ ได้ในระบบ เพื่อเช็คสิทธิ์ประกันสังคม)
-
ขั้นตอนที่ 2
กรณีใช้ Application ไปที่เลือกที่เมนู การเบิกสิทธิประโยชน์
หรือผ่านทางเว็บไซต์ ให้เลือกที่เมนู การใช้สิทธิประโยชน์ทดแทน
-
ขั้นตอนที่ 3
ระบบจะแสดงรายการ สำหรับการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรให้ โดยแยกตามเดือน และสิทธิ์ของแต่ละคน ซึ่งหาก ทางระบบแจ้งว่า มียอดโอนมาแล้ว ให้เราเช็คกับทางแอพธนาคารของเราอีกครั้งว่ามีเงินเข้ามาแล้วหรือยัง
กรณีที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินให้ตรวจสอบข้อมูลดังนี้
- ส่งเงินสมทบของเดือนนั้นหรือไม่ โดยในข้อมูลระบุว่า เงินสงเคราะห์บุตรได้เฉพาะเดือนที่นำส่งเงินสมทบ ย้อนหลัง 3 เดือน ถ้าในเดือน เช่น ถ้าเป็นเดือนมกราคม ไม่ได้ส่งเงินสมทบ ก็จะไม่ได้เงินเข้าบัญชีในปลายเดือนเมษายน
- หากลาออก ว่างงาน ขาดส่ง หรือเปลี่ยนจากมาตรา 33 เป็น 39 หรือได้งานใหม่ ก็ต้องยื่นเรื่องสงเคราะห์บุตรใหม่ โดยใช้สิทธิบุตรคนเดิม
- บัญชีโดนระงับหรือไม่ ซึ่งหากมีส่วนที่เราต้องคืนให้สำนักงาน แต่ไม่ได้คืนอาจทำให้บัญชีถูกระงับได้
- หรือสามารถเช็คและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคม โทร 1506
เงินสงเคราะห์บุตรเข้าวันไหน
เรื่องของการจ่ายเงิน คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงอยากจะทราบว่า เงินสงเคราะห์บุตรเข้าวันไหน ซึ่งปกติแล้วจะมีการจ่ายเงินเข้าบัญชีให้ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน หากเดือนไหนที่วันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ตรงกับเวลานอกราชการอย่างวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดของทางราชการ ทางกรมบัญชีกลางจะเลื่อนการจ่ายเงินให้เร็วขึ้น ดังนั้นการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรในปีงบประมาณ 2566 จะเข้าตามวันที่ดังต่อไปนี้
- เดือนมกราคม : วันอังคารที่ 10 มกราคม 2566
- เดือนกุมภาพันธ์ : วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566
- เดือนมีนาคม : วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566
- เดือนเมษายน : วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2566
- เดือนพฤษภาคม : วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566
- เดือนมิถุนายน : วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566
- เดือนกรกฎาคม : วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566
- เดือนสิงหาคม : วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566
- เดือนกันยายน : วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566
- เดือนตุลาคม : วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566
- เดือนพฤศจิกายน : วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566
- เดือนธันวาคม : วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงวันที่โอนเงิน กรมบัญชีกลางจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ทั้งนี้เนื่องจากเงินสงเคราะห์บุตร เป็นเงินสำหรับผู้ประกันตนในกองทุนประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 ในขณะที่เงินอุดหนุนบุตร เป็นเงินสำหรับผู้มีรายได้น้อย (รายได้ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี) ซึ่งหากคุณgข้าเงื่อนไข ทั้ง 2 แบบ ก็สามารถลองยื่นสมัครไปทั้ง 2 โครงการได้เช่นกัน ยังไงอย่าลืมเข้ามา เช็คเงินอุดหนุนบุตร 2566 กันนะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สิทธิประกันสังคมมาตรา 33 ได้รับสวัสดิการอะไรบ้าง ใครได้บ้าง
คลอดลูกได้สิทธิอะไรบ้าง ประกันสังคมได้เท่าไหร่ ลดหย่อนภาษีได้อย่างไร
เงินประกันสังคมกรณีคลอดบุตร และ เงินสงเคราะห์บุตร ยื่นอย่างไร ให้ได้เงิน
ที่มา : topnews , sso, bangkokbiznews