เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน จะมีวิธีไหนที่ทำได้ง่ายสำหรับคุณแม่บ้าง แต่ละวิธีลดน้ำหนักลงไปได้แค่ไหนกันนะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน มาฟังพวกเธอกันค่ะว่าใช้วิธีไหน และน้ำหนักลงไปได้เท่าไหร่กันบ้าง

1.ให้ลูกมีส่วนร่วม

คุณแม่อลิซาเบธ ลดไป 13.6 กิโลกรัมภายใน 5-6 เดือน

ขณะที่คุณแม่ต้องอยู่ในบ้านท่ามกลางหน้าหนาวกับลูกน้อยวัยแรกเกิด สิ่งที่คุณแม่ทำคือการเต้นรำไปกับลูก หรือวางลูกลงแล้วเต้นไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น ไม่เพียงแค่ลูกจะขำกับท่าทางตลก ๆ หรือน้ำหนักจะลดลงได้ เเต่คุณเเม่ยังอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

คุณแม่ดีแอนนา ลดไป 13.6 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน

คุณแม่ออกกำลังกายในท่าสควอท ซิทอัพ และท่า arm lift ไปพร้อม ๆ กับลูกวัยเดือนเศษของเธอค่ะ โดยออกกำลังกายทุกวัน วันละ 1-2 เซทเท่านั้น โดยเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องออกไปไหนให้เสียเงินเลยค่ะ

2.กินน้อยลง

คุณแม่ไอวี่ ลดไป 18 กิโลกรัมภายใน 5 เดือน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่ใช่วิธีแช่โยเกิร์ตไว้ในช่องแข็งและเอาออกมากินแทนไอศกรีม หรือของหวานอื่น ๆ ที่อยากกินไว้ในช่องแข็ง เนื่องจากจะกินได้ทีละน้อยและกินได้ยากขึ้นค่ะ เวลาที่ของหวานเหล่านี้แข็งตัว

คุณแม่แดเนียล  ลดไป 36 กิโลกรัมภายใน 6 เดือน

คุณแม่ดื่มน้ำมากขึ้น ทั้งก่อนให้นม ระหว่างให้นม และหลังให้นม ช่วยให้คุณแม่อิ่มท้อง และงดขนมค่ะ

3.ดูแลเรื่องอาหาร

คุณแม่อิลานา ลดไป 18 กิโลกรัมภายใน 2 ปี 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โดยที่ 13 กิโลกรัมแรกนั้นลดลงเพียงเเค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเองค่ะ โดยไม่ใส่ชีสในเเซนวิชและไม่กินมันฝรั่งทอดที่มากับมื้ออาหาร เปลี่ยนจากกินขนมหวานหรือคุ๊กกี้เป็นเพรทเซิล แครอทสติ๊กหรือแอปเปิ้ลแทน ถ้าอยากกินของหวานก็เลือกกินให้ไม่เกิน 100 แคลอรี่เท่านั้น

4.เดินขึ้นลงบันได

คุณแม่เมแกน ลดไป 11 กิโลกรัมภายใน 4 เดือน 

หลังจากคลอดลูกได้ 2-3 สัปดาห์ คุณแม่ย้ายโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกไปไว้ที่ชั้น 2 เวลาที่หนูน้อยต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม ทำให้คุณแม่ต้องเดินขึ้นลงบันได ทำให้ช่วยเผาผลาญเเคลอรี่ได้ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5.พาลูกไปเดินเล่น

คุณแม่นิโคล ลดไป 15.8 กิโลกรัมภายใน 19 เดือน 

การพาลูกไปเดินเล่นทุกวันที่สวนสาธารณะ ในหมู่บ้าน หรือพาลูกไปเดินซื้อกับข้าว เป็นเวลา 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมงต่อวัน ขึ้นอยู่กับว่าลูกยอมอยู่ในรถเข็นนานแค่ไหนนั้น คุณแม่บอกว่าช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ค่ะ

6.ตั้งเป้าให้สูง

คุณแม่เบตตี้ ลดไป 10 กิโลกรัมภายใน 9 เดือน

คุณแม่บอกว่าการตั้งเป้าหมายและกำหนดเวลานั้นช่วยให้คุณแม่ลดน้ำหนักลงได้ โดยตัวคุณแม่เองนั้นตั้งเป้าว่าจะลงวิ่งมาราธอนเป็นครั้งเเรกภายใน 9 เดือนหลังคลอด โดยเริ่มแรกก็เป็นการออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดิน จากนั้นเมื่อคุณแม่กลับไปทำงานคุณแม่ก็เริ่มเข้ายิม จนในที่สุดก็สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ

7.จัดการกับความอยาก

คุณแม่เคอร์รี่ ลดไป 5.5 กิโลกรัมภายใน 8 เดือน และตั้งเป้าว่าจะลดอีก 8 กิโลกรัม

คุณแม่ที่ติดขนมกรุบกรอบเลือกที่จะไม่ซื้อสิ่งที่อยากกิน(เเละทำให้น้ำหนักไม่ลด)เข้าบ้าน เมื่อใดที่อยากกินขนมเหล่านี้ คุณแม่จะกินห่อเล็กที่สุด แทนที่จะกินห่อใหญ่เข้าไปทั้งห่อ

คุณแม่เอมิลี่ ลดไป 18 กิโลกรัมภายใน 1o เดือน

คุณแม่คิดว่าหลังจากที่คลอดลูกแล้วน้ำหนักส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นมาจะหายไปเอง เเต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นค่ะ หลังจากคลอดไม่กี่เดือน คุณแม่เลิกกินขนมจากร้านสตาร์บัคและจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ของตัวเองให้เหลือเพียง 2 แก้วต่ออาทิตย์เท่านั้นค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

8.เข้ายิมที่เอาลูกไปด้วยได้

คุณแม่เจน ลดไป 30 กิโลกรัมภายใน 7-8 เดือน

หลังคลอดลูกเพียง 2 อาทิตย์ คุณเเม่ก็เหลือน้ำหนักส่วนเกินอยู่ถึง 20 กิโลกรัม คุณแม่จึงตัดสินใจหาสถานที่ออกกำลังกายที่มียิมอยู่ด้วย ซึ่งคุณแม่บอกว่าเธอสบายใจมากๆ เพราะในขณะที่ออกกำลังกายอยู่นั้น เธอสามารถเดินไปดูลูกได้ตลอดเวลา และที่สำคัญการออกกำลังกายก็ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นด้วยค่ะ

9.กินอาหารเช้า

คุณแม่คริสทีน ลดไป 11 กิโลกรัมภายใน 4 เดือน

คุณแม่เลือกที่จะกินอาหารมือเช้าที่บ้าน อย่างมัฟฟินกับมาการีนหรือแยม แทนที่จะไปกินที่ทำงาน ข้อดีอีกอย่างคือลูกจะนอนนานขึ้นอีกด้วยละค่ะ

10.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

คุณแม่ทริช ลดไป 16 กิโลกรัมภายใน 5 เดือน

แม้การเลี้ยงลูกจะทำให้คุณแม่น้ำหนักลดลงไปได้บ้าง เเต่คุณแม่ก็ต้องการตัวช่วยอื่นๆ เข้ามาด้วย อย่างการกำหนดว่าในเเต่ละมื้อต้องกินอะไรบ้าง หรือกินปริมาณเท่าไหร่ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคุณเเม่ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไรด้วยค่ะ

11.เติมหลังด้วยของว่าง

คุณแม่มัวรีน (ลูกแฝด) ลดไป 22.5 กิโลกรัมภายใน 6-7 เดือน

คุณแม่เลือกของว่างสุดเฮลตี้อย่างชีสมอสซาเรลล่าแท่ง ขนมปังไม่ขัดสีทาเนยถั่ว นอกจากจะช่วยให้มีแรงแล้ว ยังไม่ทำให้คุณอยากกินอาหารจานด่วนอีกด้วยละค่ะ

คุณแม่บัฟฟี่ ลดไป 13.5 กิโลกรัมภายใน 6 เดือน

คุณแม่บอกว่าถ้าไม่หิวก็จะยังไม่กินค่ะ เพราะนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงตรงนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องกินมื้อเที่ยงทันที เลือกของว่างที่ไขมันต่ำและเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารดีๆ

12.ล่อด้วยเสื้อผ้าใหม่

คุณแม่เบคกี้ ลดไป 24.5 กิโลกรัมภายใน 8 เดือน

หากน้ำหนักยังไม่ลด คุณเเม่จะไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ คราวนี้ก็ต้องทนใส่ชุดคลุมท้องที่อยู่ในตู้ไปนั่นน่ะเเหละ นอกจากนี้การกลับไปทำงานโดยยังใส่ชุดคลุมท้องอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่โอเคเอาเสียเลย นอกจากนี้คุณแม่ยังจ้างผู้ฝึกสอนส่วนตัว 2 ครั้งต่อสัปดาห์ให้มาช่วยในเรื่องของการออกกำลังกายอีกด้วยค่ะ

13.พึ่งน้องหมา

คุณแม่ทิฟฟานี่ ลดไป 13.5 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน

คุณแม่บอกว่าการพาน้องหมาไปเดินเล่นหรือไต่เขาวันละชั่วโมงทุกวันนั้นช่วยได้ค่ะ นอกจากนี้คุณเเม่ยังออกกำลังกายด้วยท่า crunches 100 ครั้ง และท่า push-up 25 ครั้ง ทุกคืนก่อนนอนด้วยค่ะ

14.ดูแลโภชนาการ

คุณแม่ลีแอน ลดไป 11 กิโลกรัมภายใน 6 เดือน

นอกจากจำกัดการกินข้าวนอกบ้านแค่ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งแล้ว คุณแม่ยังเน้นทำอาหารกินเองที่บ้าน โดยไม่กินเป็นมื้อใหญ่ๆ เเต่จะเเบ่งกินเป็นมื้อเล็กๆ 5 มื้อต่อวันเเทน โดยเน้นอาหารที่ไขมันต่ำ เเละทำได้ง่าย เช่น ปลาย่าง ไก่กับผักนึ่ง ข้าวไม่ขัดสี หรือควินัล ถ้าไม่อยากทำบ่อยๆ ก็ทำครั้งละมากๆ เเล้วเเบ่งแช่งเเข็งไว้ค่ะ

ที่มา Parents