เครื่องฟอกอากาศ SHARP เครื่องกรองอากาศ ยี่ห้อไหนดี

ในวันที่ต้องซื้ออากาศหายใจ เครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่นไหนดี เครื่องกรองอากาศ ยี่ห้อไหนดี และจะตอบโจทย์ของเราได้มากแค่ไหน มาดูกันดีกว่า

ปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศมีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ มากมาย ซึ่งคุณสมบัติ ก็จะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศนั้น ควรจะดูคุณสมบัติหลัก ๆ คือ ขนาดห้องที่ใช้งาน หากรุ่นเล็กเกินไป ก็ไม่เกิดประโยชน์ หากรุ่นที่ซื้อใหญ่เกินขนาดห้องไปมาก ก็เท่ากับว่าเราจ่ายเกินจำเป็น วันนี้เรามาแนะนำ เครื่องฟอกอากาศของ SHARP สองรุ่น ที่นิยมอย่างมากในท้องตลาด มาดูกันว่า รุ่นไหนที่ตอบโจทย์ของคุณกันบ้าง

เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J80TA

เครื่องกรองอากาศ ยี่ห้อไหนดี สำหรับจุดเด่นที่ชูโรงสำหรับรุ่นนี้ คือ

1. High Density 25000

คือหมายถึงสร้างประจุ ไอออน ในอากาศ 25,000 ไอออน ต่อ 1 ลูกบาศก์เซนต์ของอากาศ (โดยมีการวัดกลางห้อง สูง 1.2 เมตรเหนือพื้น เมื่อวางเครื่องฟอกติดชิดผนัง ในโหมด MED)

Plasma cluster VS Corona Virus

สำหรับยุคปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาด คงไม่พูดไม่ได้ว่า Plasma Cluster มีผลต่อเชื้อ COVID-19 อย่างไร แน่นอนไส้กรอง HEPA มันไม่สามารถกรองไวรัสได้นี่นา ถ้าเทียบกับพวก ULPA ที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กกว่าได้   สำหรับ Plasma Cluster ได้มีหลักฐานการการทดลองที่สามารถ Inactivate Virus หลายสายพันธุ์ โดยในกลุ่ม Corona นั้น ทดสอบโดยใช้ Feline corona ตั้งแต่ปี 2004 และพบว่าลดปริมาณเชื้อได้

2. ระบบแผ่นกรอบ 3 ชั้น

ดักจับฝุ่นระออง ขนาด > 240 ไมครอน แผ่นกรองกลิ่นที่ใช้ถ่าน แผ่นกรอง HEPA กรองฝุ่นที่เล็กสุด 0.3 ไมครอน

3. ฟังก์ชั่น LAN ไร้สาย

แสดงประสิทธิภาพ อากาศ สภาพแวดล้อม รวมถึง สามารถควบคุมเครื่องระยะไกล ตั้งเวลาปิดเครื่องได้  และแสดงความสิ้นเปลืองของชิ้นส่วนไส้กรองรวมถึงตัวกำเนิดประจุ โดยสามารถควบคุมผ่าน Application  ของชาร์ป

ตัวเครื่อง

เครื่องนี้ถือว่าออกแบบได้ร่วมสมัย ขนาดเครื่องค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวครับ  คือ 416 x 291 x 728 น้ำหนัก 10.6 Kg

ข้อดี คือ มีช่องลมออกด้านหน้า นอกเหนือจากด้านบน ตัวเครื่องเป็นพลาสติก สีดำเทาเข้ม ออกแนวขรึม ๆ ช่องรูออก มีไฟเรือง ๆ สีฟ้า หรือสีอื่น ๆ ตามอินดิเคเตอร์ของสภาพอากาศภายในห้อง

ด้านบน เป็นแผงปุ่มคอนโทรลแบบสัมผัส สีเงิน ถือว่าออกแบบได้สวยเลยทีเดียว และใช้ได้ง่าย

ด้านข้าง มีช่องใส่ Ion Generator ที่ใส่ที่กำเนิดประจุ เปลี่ยนได้ง่าย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ

ด้านหลัง เป็นฝาตะแกรงขนาดใหญ่ ด้านในเป็นที่ใส่ไส้กรองถ่าน เพื่อดูดกลิ่น และ ไส้กรอง HEPA

ด้านหน้า มีที่ Display ดำ สามารถเลือกแสดง ไม่ว่าจะเป็น PM2.5 ค่าความชื้นในอากาศ ค่าอุณหภูมิห้อง หรือ กำลังไฟ (Watt) ที่ใช้ ถ้าแสดงเป็น PM 2.5 เครื่องจะขึ้นแสดงเป็น Lo ถ้าค่าต่ำกว่า 10

ด้านการใช้งาน 

เครื่องฟอกตัวนี้เหมาะกับห้อง 62 ตรม. (ตามเสปค)  โดยสามารถเลือกโหมดต่าง ๆ ได้จากแผงควบคุมสัมผัสได้ดังนี้

โหมด Clean ion shower เครื่องฟอกจะปล่อยไอออน พลาสมาคลัสเตอร์ และลมแรง ราว ๆ 10 นาที และฟอกอากาศ ด้วยประสิทธิภาพสูง

โหมดฟอกอากาศ เฉพาะจุด ใช้เมื่อต้องการกำจัดกลิ่นเชื้อโรคออกจากโซฟา หรือม่าน  โดยจะปล่อยไอออน พลาสม่าคลัสเตอร์ไปยังด้านหน้า

โหมดออโต้  ตั้งความเร็วพัดลมอัตโนมัติ ขึ้นกับ ฝุ่น กลิ่น และแสงสว่าง
นอกจากนี้ยังมีโหมด การทำงานพัดลม  ต่ำ กลาง สูง และสำหรับการนอนหลับ  โดยโหมดการนอนหลับ เครื่องจะทำงานเสียงเบา

โหมดละอองเกสรดอกไม้ เครื่องจะเพิ่มความไวของเซนเซอร์ในการดักจับฝุ่น

การตั้งเวลา สามารถตั้งเวลาปิด ที่ 1 – 12 ชั่วโมง หรือใช้แอพในการตั้งค่าได้

การ  Maintenance
แผ่นกรอง HEPA อายุการใช้งานสูงสุด 2 ปีหลังแกะ โดยคำแนะนำในการเปลี่ยนอ้างอิงจาก ห้องที่มีการสูบบุรี่ 5 มวนต่อวัน พบว่าประสิทธิภาพในการดักกรองฝุ่นเครื่องฟอกจะลดลงเมื่อเทียบกับแผ่นกรองใหม่

สำหรับข้อเสีย ที่ทุก ๆ คนพูดถึงเรื่องฝุ่น ก็ต้องยอมรับว่า มีฝุ่นตกตามเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างเยอะ พลาสม่ามันไปจับ ทำให้ฝุ่นตกลงมาจริง และแอพพลิเคชั่นที่ถือว่าเชื่อมต่อค่อนข้างช้า

บทความที่เกี่ยวข้อง : คุณแม่ต้องรู้ อากาศดีสร้างได้ มีอะไรบ้าง

เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-J30TA เป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กที่มีราคาย่อมเยาว์ สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ และเหมาะสำหรับห้องประมาณ 25-30 ตรม.

อย่างไรก็ตามเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ก็ไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับทุกคน ทุกสถานการณ์ อย่างแรกเลยก็คือเครื่องตัวนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก ขนาดเล็กแปลว่าเราสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ง่าย แต่ก็หมายความว่าไม่เหมาะกับห้องขนาดใหญ่ เพราะเครื่องเล็ก ๆ ไม่สามารถกรองอากาศได้หมด

ผู้ผลิตแนะนำว่า Sharp FP-J30TA ตัวนี้เหมาะสำหรับห้องประมาณ 25-30 ตารางเมตร โดยที่ฟังก์ชันกรองอากาศ Plasmacluster จะเหมาะกับห้องที่มีขนาด 20 ตรม เท่านั้น

จุดแตกต่างอีกอย่างก็คือ ความยากง่ายในการซื้อไส้กรอง เพราะอายุการใช้งานของไส้กรองเครื่องกรองอากาศมีแค่ 1 – 3 ปีเท่านั้น หากเราอยากใช้เครื่องให้คุ้มแล้ว ก็ต้องซื้อไส้กรองใหม่เรื่อย ๆ ซึ่งของ Sharp FP-J30TA ก็หาซื้อ หรือขายสินค้าทดแทนได้ไม่ยากเท่าไร เพราะไส้กรองมีขนาดค่อนข้างมาตรฐาน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ฝุ่นละออง pm 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน วิธีป้องกันฝุ่นละอองในอากาศ

วิธีใช้เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-J30TA  

เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-J30TA มีอยู่หลายระบบการทำงาน ในส่วนนี้เรามาดูกันว่าระบบทำงานต่าง ๆ มีอะไรบ้าง และเราจะใช้งานได้อย่างไร

การฟอกอากาศทั่วไป – หากเราแค่กดปุ่ม เปิด (POWER) เครื่องก็จะทำงานฟอกอากาศในทันที

โหมด Clean Ion Shower – เป็นโหมดที่เครื่องจะปล่อย Plasmacluster Ions หรือพลาสม่าคลัสเตอร์ ความเข้มข้นสูงออกมาเป็นเวลา 60 นาที ซึ่งทางผู้ผลิตบอกว่า ระบบนี้สามารถตรวจจับฝุ่นละออง และกรองอากาศได้ดีกว่าระบบทั่วไป

ซึ่งพลาสม่าคลัสเตอร์ก็เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานถกเถียงกันมานานแล้วว่า ‘ใช้ได้ดีจริงหรือเปล่า ?’ หรือผู้ผลิตใส่ไว้อย่างนั้น เพื่อสร้างจุดขายที่ไม่จำเป็น ในส่วนนี้ก็ยังไม่สามารถตอบได้  เพราะยังไม่มีงานวิจัยแน่นอน แต่มีก็คงดีกว่าไม่มีอะไรเลย ผู้ผลิตบอกว่าดี ก็คงดีกว่าจริง ๆ แต่จะดีกว่ามาก หรือดีกว่าน้อย อันนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้งานนั่นเอง

ความเร็วพัดลม – ความเร็วการตรวจจับ – เป็นอีกโหมดที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ความเร็วพัดลมใช้ในการตรวจจับฝุ่นละอองด้วย ยิ่งความเร็วเยอะก็ยิ่งตรวจจับได้เยอะ แต่ก็จะมีเสียงดังมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ก็มีเสียงเบามาก โดยเฉพาะเสียงตอนอยู่ใน Night Mode สำหรับตอนนอน

ขึ้นชื่อว่าเครื่องกรองอากาศ หน้าที่หลักก็คือ ‘การกรองอากาศ’ แต่การกรองอากาศนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า กรองอากาศช้าเร็วแค่ไหน เสียงดังแค่ไหน และกรองได้สะอาดหรือเปล่า ซึ่งปกติแล้วขอแค่เครื่องกรองมีแผ่นกรองแบบ HEPA ก็สามารถกรองฝุ่นที่สำคัญ ๆ อย่าง PM2.5 ได้แล้ว

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่คนมักมองข้ามไปก็คือ ‘ระบบแผ่นกรองกลิ่น’ ที่จะมีประโยชน์มากสำหรับบ้านที่มีการทำอาหารบ่อย ๆ หรือห้องที่อยู่ใกล้ห้องน้ำ และระบบน้ำขังเป็นต้น

เครื่องฟอกอากาศ Sharp fp-j30ta เหมาะกับใคร

เนื่องจากว่าตัวเครื่องมีขนาดเล็ก ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานเฉพาะทางของบางคน แต่ถ้าเราตั้งไว้ใกล้ ๆ ตัวก่อนนอน หรือตั้งไว้ใกล้ทีวี ที่ทำงาน ห้องนั่งเล่น ตัวเครื่องก็น่าจะกรองอากาศได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว

อาจจะเป็นปัญหาของคนมีบ้านใหญ่ แต่ถ้าคุณอยู่ในห้องที่มีพื้นที่ พอประมาณ ไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหน มาไหนเยอะ เครื่องฟอกอากาศตัวนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร ถือว่า เป็นตัวที่คุ้มราคาที่สุดแล้วในราคาเท่านี้

แต่เครื่องที่มีขนาดเล็กก็คงไม่สามารถ ‘กรองกลิ่น’ ได้ดีเท่า โดยเฉพาะกลิ่นอาหารอย่างกระเทียม กลิ่นเครื่องเทศ ถ้ากลิ่นฉุนทั้งห้อง ยังไงคุณก็ต้องเปิดหน้าต่าง เปิดประตู เพื่อระบายกลิ่นอยู่ดี

ตัวเครื่องมีประกัน 1 ปี แต่อายุการใช้งานของเครื่องจริง ๆ ก็คงใช้ได้นานมากกว่านั้นมาก ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่ได้โชคร้าย ได้สินค้าไม่ดีจากผู้ผลิต  อายุการใช้งานของเครื่องก็อยู่นานกว่าที่บอกเอาไว้ เราแค่ต้องขยันทำความสะอาด และเปลี่ยนไส้กรองตามคำแนะนำด้านบนบ้าง เพื่อให้เครื่องอยู่ในสภาพการใช้งานที่ดีเสมอ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับใครบ้างมาดูกัน

**ข้อควรระวัง – หากซื้อสินค้ามาแล้ว ก่อนใช้งานเราควรแกะเครื่องออกมาเพื่อดูว่า ไส้กรองมีพลาสติกห่อไส้กรอง หรือเปล่า ถ้าเราเปิดเครื่องโดยมีพลาสติกห่อไส้กรอง เครื่องก็จะไม่ทำการฟอกอากาศให้เรา บางคนใช้งานมาเป็นปีแล้วยังไม่แกะออกเลย

สามารถซื้อได้ที่  https://th.sharp/

ที่มาอ้างอิง https://www.chiangmainews.co.th

แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเครื่องฟอกอากาศได้ที่นี่!

เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดลูก คุณแม่เลือกเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหน เพราะอะไรกันบ้างคะ