งานวิจัยจากสถาบันไม่แสวงหาผลกำไร Retina Foundation of the Southwest ในดัลลัส เท็กซัส ตีพิมพ์ในนิตยสาร JAMA Ophthalmology โดยนักวิจัยใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์ เพื่อเก็บข้อมูลระหว่างที่เด็กๆ มีการเล่นเกมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรักษาอาการและพัฒนาการมองเห็น และพบว่าพวกเขามีอาการที่ดีขึ้นค่ะ
การรักษาเด็กๆ ที่เป็นโรคตาขี้เกียจนั้นมีหลักการง่ายๆ คือให้ตาทั้งสองข้างได้ทำงาน เพราะเวลามองสิ่งต่างๆ ด้วยตาทั้งสองข้าง เด็กๆ จะมองไม่ชัดเท่าการมองเห็นด้วยตาเพียงข้างเดียว โดยจำนวนเด็กๆ ที่มีตาขี้เกียจในสหรัฐอเมริกามีจำนวนถึง 3% เลยทีเดียวนะคะ
การรักษาแบบเดิมๆ ซึ่งเป็นการใส่ผ้าปิดตา ให้ข้างที่เป็นโรคตาขี้เกียจได้ทำงาน เด็กส่วนใหญ่จะมีพัฒนาการด้านการมองเห็นที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ผลกับเด็กทุกคน เด็กบางคนกลับไปเป็นโรคตาขี้เกียจหลังจากได้รับการรักษา
เกมที่รักษาโรคตาขี้เกียจได้คือ Dig rush เป็นเกมขุดทองในเมืองขึ้นรถขนทอง และขนออกมาให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องหลบสิ่งกีดขวางต่างๆ อย่างมอนสเตอร์
เด็กๆ ต้องเล่นเกมนี้ขณะที่ใส่แว่นพิเศษที่ต้องใช้ตาทั้งสองข้างในการมองเห็น ตาข้างที่แข็งแรงกว่าจะมองเห็นรถขนทอง ในขณะที่ตาข้างที่ขี้เกียจจะมองเห็นตัวละครที่เด็กๆ เล่น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จำต้องใช้ตาทั้งสองข้าง
โดยการเก็บข้อมูลนั้น เด็กๆ ใช้เวลาเล่น วันละ 1 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นให้เด็กๆ มาทดสอบการอ่าน ซึ่งเฉลี่ยแล้วเด็กๆ อ่านได้มากกว่าเดิมถึง 1.5 บรรทัด เมื่อเทียบกับการรักษาแบบเดิมที่ใช้ผ้าปิดตา ที่เด็กๆ อ่านได้เพียงแค่ 0.7 บรรทัด
เด็กๆ ที่ใช้การรักษาโดยเกมและแว่นตาพิเศษ มีอาการดีขึ้นถึง 40% บางคนมีสายตาดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติ ขณะที่การรักษาแบบเดิม เด็กๆ มีอาการดีขึ้นเพียงแค่ 7% เท่านั้นค่ะ และยังไม่มีรายงานว่าเด็กๆ ที่เล่นเกมมีอาการตาขี้เกียจกลับมาเป็นอีกแต่อย่างใดนะคะ
ที่มา livescience
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การแพทย์เผย โรคตาขี้เกียจ โรคที่เป็นมากในเด็ก
ทำอย่างไรเมื่อลูกเป็นโรคตาขี้เกียจ (Lazy eyes)