เหตุเกิดนี้ขึ้นกับน้องเฟื่องฟู ลูกชายวัย 2 ขวบ 8 เดือน ซึ่งเพิ่งกลับมาจากโรงเรียน โดยปกติทุกเย็นลูกชายจะไปชวนเด็กข้างบ้านมาเล่นด้วยกัน ตอนนั้นคุณแม่เพิ่งคลอดน้องคนเล็กได้ 3 เดือน และกำลังให้นมลูกอยู่พอดี ขณะนั้นก็สังเกตว่าน้องเฟื่องฟูกำลังจะวิ่งออกไปนอกบ้าน ตอนนั้นประตูรั้วหน้าบ้านเปิดอยู่ ในใจก็นึกกลัวว่าถ้าน้องวิ่งไปเจอรถที่ขับผ่านหน้าบ้านจะทำยังไง จึงรีบวางลูกคนเล็กลง และวิ่งตามเพื่อจะไปบอกให้น้องกลับเข้าบ้าน คุณแม่ยังไปไม่ทันถึงตัว น้องก็ตกใจนึกว่าแม่จะเข้ามาตี เลยวิ่งหนีจนผลักประตูรั้วอย่างแรง ทำให้ประตูรั้วหน้าบ้านขนาดใหญ่ ที่ทำด้วยโครงเหล็กและเนื้อไม้แท้ๆ ตกออกจากราง ประตูรั้วจึงเอนล้มลงมาทับตัวน้องที่จับประตูอยู่ ภาพที่แม่เห็นตอนนั้น คือน้องล้มนอนในท่าที่หน้าคว่ำกับพื้นถนนแล้วมีประตูรั้วบ้านที่ใหญ่และน้ำหนักมาก (ประมาณน้ำหนักผู้ใหญ่ 4 คน) ทับร่างเอาไว้!!
แม่ตกใจมาก รีบวิ่งไปยกประตูอย่างไว แต่อย่างที่บอกว่าประตูรั้วหนักมากต้องตะโกนเรียกให้เพื่อนนบ้านมาช่วยยก อีกทั้งแม่เพิ่งผ่าคลอดน้องคนเล็กได้ 3 เดือน วินาทีนั้น ห่วงลูกมากกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก ทำให้แผลผ่าคลอดปริแยกโดยไม่รู้ตัว
ลูกกระดูกขาหัก ชัก ไข้ขึ้นสูง หยุดหายใจ แม่แทบล้มทั้งยืน
พอนำตัวน้องออกมาจากประตูรั้วที่ทับไว้ ก็เห็นชัดเลยว่าน้องนอนขาผิดรูป หน้าถลอก คิ้วยุบ รู้ทันที่ว่าน้องขาหัก จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล โชคดีที่น้องไม่ได้สลบ ไม่ได้มีอาการอาเจียน หลังจากหมอเอ็กซเรย์ดูก็พบว่า กระดูกขาบนหักเข้าไปประมาณ 4-5 ซม. กะโหลกร้าวสองจุด หมอบอกว่าต้องสังเกตอาการ 24 ชม. งดข้าวงดน้ำ แล้วต้องดึงขาข้างที่หักเอาไว้ รั้งกระดูกประมาณ 10 วัน ในระหว่างนั้นน้องมีไข้สูงมาก มีอาการชัก หยุดหายใจไปประมาณ 10-15 วินาที หมอให้ใส่ท่อช่วยหายใจ ถึงขนาดปั๊มหัวใจ และพาเอ็กซเรย์อีกครั้งว่าที่เกิดอาการชักนั้น เกิดจากการที่มีไข้สูงหรือการถูกกระทบกระเทือนของสมอง
ตอนที่น้องชัก หยุดหายใจ แม่กลัวมากค่ะ เป็นลมหลายรอบมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ หมอได้เข้ามาคุยกับแม่ว่า “ให้คุณแม่ทำใจดีๆ น้องหยุดหายใจนานเกินภาวะ แต่หมอก็จะช่วยให้สุดความสามารถของหมอนะ” พอหมอพูดเท่านั้น แม่แทบไม่มีแรงอุ้มลูกคนเล็กที่อยู่ในมือ จากนั้นก็ร้องไห้โฮเหมือนคนบ้า ไม่มีสติ แม่ทั้งกราบ ทั้งคุกเข่าบอกหมอกะพยาบาลให้ช่วยลูกแม่ที แม่คิดเสมอที่ลูกเป็นแบบนี้แม่ผิดเอง บกพร่องในหน้าที่ ดูแลลูกไม่ดี
ทั้งหมอเด็ก หมอสมอง หมอกระดูก ตั้งใจทำงานกันเป็นทีมมากคะ น้องถูกส่งเข้าห้องไอซียู 3 วันกว่าจะได้ออกมา กว่าจะผ่านวิกฤตนั้นมาได้ แม่แทบหัวใจสลาย หมอบอกว่า ยังโชคดีที่ตอนประตูรั้วทับน้องคว่ำหน้าลง ถ้านอนหงายโอกาสรอดอาจจะไม่มี ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้โอกาสของเด็กวัยสองขวบกว่า ปกติจะเสียชีวิตแน่นอน
หมอถามแม่มาประโยคหนึ่งว่า ให้ลูกกินนมแม่นานไหน แม่บอกว่า น้องกินนมแม่ปีครึ่ง หมอบอกว่า รู้มั้ย การให้เด็กได้กินแม่นั้นดีมาก เวลาที่เด็กต้องรักษาขั้นวิกฤตถ้าร่างกายเด็กไม่พร้อม ไม่แข็งแรงพอ มันจะทำให้การรักษายากขึ้น ซึ่งในเคสของน้องเฟื่องฟูสภาวะร่างกายพร้อมมาก จึงโชคดีที่ผ่านขั้นตอนการรักษามาได้ น้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลประมาณครึ่งเดือนค่ะ ใส่เฝือกไว้ประมานเกือบสองเดือน ตอนนี้ถอดเฝือกและเดินได้ปกติแล้ว
อยากฝากถึงคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยใกล้เคียงกันค่ะ ลูกในวัย 2 ขวบกำลังอยู่ในช่วงวัยเรียนรู้ของเด็ก การปล่อยให้ลูกได้เล่นถือเป็นประสบการณ์ที่สำคัญของเด็ก แต่สำหรับพ่อแม่เรื่องการดูแลลูกก็สำคัญไม่แพ้กันนะคะ เพราะหากคลาดสายตาเพียงนิดเดียว จังหวะไม่ดี…อาจกลายเป็นเสียใจ…เพราะบางคนอาจไม่โชคดีเสมอไปค่ะ
————————-
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
แม่ช็อค!! ลูกหายใจเสียงดัง เอ็กซเรย์เจอก้อนแบตเตอรี่ในหลอดอาหาร
2 ขวบถูกรถชนเพราะแม่ติดแชทมือถือ