อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และมีพื้นที่ครอบคลุม อยู่ 2 จังหวัดคือจังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย
สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ประบกอบไปด้วย
น้ำตกภูสอยดาว ซึ่งอยู่ริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ น้ำตกภูสอยดาวมีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้น จะมีชื่อเรียกที่สุดแสนจะไพเราะว่า ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์ มีน้ำไหลตลอดปี
น้ำตกสายทิพย์ เป็นน้ำตก 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร สภาพป่าโดยรอบน้ำตกมีความชุ่มชื้นมาก จึงมีมอสสีเขียวขึ้นปกคลุมตามก้อนหินริมน้ำ
ทุ่งดอกไม้ในป่าสน ช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ป่า ชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่น ดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ในฤดูหนาวจะมีดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารี อินทนนท์ และต้นเมเปิลซึ่งใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงามมาก
ลานสนสามใบ บริเวณนี้จะมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้า เป็นลานโล่ง ที่มีต้นสนสามใบ ขึ้นกระจายกันอยู่ มีดอกไม้หลากสีสันชูช่อบานสะพรั่ง อวดความสวยงามกันเป็นกลุ่มหนาแน่นเต็มไปทั่วทั้งลาน เช่น ดอกหงอนไก่สีม่วง ซึ่งพอบานพร้อมกันทั่วทั้งลานจะมีสีสีม่วง เต็มไปทั่วบริเวณลานสน
บริเวณรอบ ๆ ของลานสน จะมีลำธารเล็ก ๆ รอบลาน สวยงามมาก เป็นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว ที่ได้ขึ้นไปชมบนลานสนแห่งนี้ อีกทั้งยังมีแหล่งต้นน้ำ ที่จะไหลไปรวมกับน้ำตกภูสอยดาวเป็นซึ่งแหล่งน้ำ ที่อยู่ด้านล่างอุทยานฯ
ในช่วงเย็นที่บริเวณลานสน ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในเมืองไทย แต่ที่นี่ไม่มีบ้านพัก และร้านอาหาร หากต้องการพักค้างแรม นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเต็นท์และอุปกรณ์การนอน รวมไปถึงอาหารมาด้วย
ในช่วงหน้าหนาว ที่นี่ก็จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 1 – 5 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว และสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะฉะนั้น การจะมาค้างแรมที่นี่ควรเตรียม เสื้อผ้าสำหรับกันหนาวมาด้วย
จุดที่ถ้าไปถึงแล้วไม่ถ่ายรูปไม่ได้เลย ก็คือ ป้ายผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ในการได้มาเยือนบนลานสนแห่งนี้ ใกล้ๆ กันจะเป็นทุ่งหญ้าลานสน ถ้าไปช่วงฤดูฝนจะเป็นทุ่งดอกหงอนไก่ที่บานสวยงามเต็มพื้นที่ลานสนไปหมด
อีกจุดคือ หลักเขตไทย-ลาว ที่ปักเขตแดนแบ่งประเทศไทยและประเทศลาวมีขึ้นหลังสงครามบ้านร่มเกล้า
ในส่วนของ การเดินทาง ที่นี่จะต้องเดินเท้าจากน้ำตกภูสอยดาว ขึ้นสู่ยอดภูสอยดาว ระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง โดยเส้นทางจะต้องปีน ๆ เดิน ๆ ใครที่มีแผนจะเดินทางไปที่นี่ จะต้องเตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม สำหรับการเดินเพื่อขึ้นไปบนยอด ลานสนภูสอยดาว
รองเท้าเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่สำคัญอย่างมาก สำหรับการเดินทางด้วยการเดิน เนื่องจาก เส้นทางที่จะต้อง เดินไปนั้น ระหว่างทางค่อนข้างลาดชัน และบางจุดค่อนข้างลื่น หากไปเจอฝนตก ยิ่งไปใหญ่เลย ก่อนเดินจึงทางควรตรวจสอบสภาพรองเท้า ว่าใช้งานได้ดีพอหรือไม่ ถ้าไม่พร้อมใช้งาน และเกิดขาดจนใช้งานต่อไม่ได้ ระหว่างทางจะลำบากมาก แน่นอน ส่วนการแต่งกาย แนะนำว่าควรใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว จะเหมาะสำหรับการเดินเท้ามากที่สุด
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ และยังมีบริการลูกหาบสำหรับช่วยขนสัมภาระ ทางอุทยานฯ อนุญาตให้ขึ้นภูได้ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น.
สิ่งสำคัญหลังจากจบทริปคือ ไม่ควรนำสิ่งของธรรมชาติออกไปจากอุทยานฯ สิ่งที่จะสามารถนำติดตัวกลับไปได้คือ ภาพที่บันทึกไว้ และความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาเป็นผู้พิชิต ภูสอยดาว แห่งนี้
สุดท้ายนี้อยากฝากถึงนักท่องเที่ยวและนักเดินทางทุกท่าน ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ควรช่วยกันรักษา สภาพแวดล้อม ของที่นั่นเพื่อเราจะได้มีธรรมชาติที่สวยๆ แบบนี้ใให้ได้ไปเยือนอีกตราบ นานเท่านาน
The Asianparent Thailand ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทริปครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็ก คาเฟ่เด็ก ฟาร์ม กิจกรรม 1 เดย์ทริป กิจกรรมสำหรับครอบครัว ทั้งทะเล ภูเขา ที่พักหลากสไตล์ทั้งแบบแคมป์ แบบพูลวิลล่า ที่พักริมหาด ที่พักติดทะเล ที่พักอิงแอบแนบภูเขา ให้ลูกได้ออกไปเรียนรู้กับธรรมชาติ สายลม แสงแดดและหาดทราย เสริมสร้างการเรียนรู้และพัฒนาการได้สมวัย เสริมสร้างทักษะทางสังคมและสติปัญหา สามารถปรับตัวและเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมต่างถิ่น การใช้ชีวิตกับผู้อื่นและมารยาททางสังคม
ที่มา : thai.tourismthailand.org , www.museumthailand.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
ททท. ผุดไอเดีย เส้นทางสละโสด ดึงคนเหงาเดินทาง กระตุ้นการท่องเที่ยว
ท่องเที่ยว ท่องอดีต พาลูกเรียนรู้วัฒนธรรม ณ สุโขทัย เมืองประวัติศาสตร์
รวม แหล่งท่องเที่ยว เลือกที่พัก และ ลานกางเตนท์สวนผึ้ง – ราชบุรี