อาบน้ำร้อน ติดนอนแช่น้ำร้อนจัดๆ ตอนท้องต้องระวัง!

การได้อาบน้ำร้อนน้ำอุ่น ๆ นั้นจะทำให้ร่างกายที่เมื่อยล้ามา รู้สึกผ่อนคลายสบายตัว หายจากความรู้สึกปวดเมื่อยมากขึ้น แต่สำหรับที่ชอบ อาบน้ำร้อน แช่น้ำร้อนจัด ๆ พอท้องก็ยังติด แบบนี้จะปลอดภัยมั้ย?

ข้อดีของการได้ อาบน้ำร้อน นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหลายอย่าง เช่น ช่วยบรรเทากล้ามเนื้อที่ปวดเมื่อยล้า ทำให้รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้น ช่วยทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก แต่ก็มีคำเตือนที่บอกต่อกันว่า การอาบน้ำร้อนในอุณหภูมิสูงเกินไปไม่ดีต่อแม่ท้อง!!

อาบน้ำร้อน ตอนท้อง ปลอดภัยมั้ย?

สมาคมการตั้งครรภ์อเมริกันได้เตือนแม่ ๆ ที่ตั้งครรภ์ว่า การอาบน้ำแบบแช่น้ำร้อนจัด ๆ นั้น อาจสร้างปัญหาในการพัฒนาของทารกในครรภ์ได้ ลูกน้อยในครรภ์ที่ได้รับความร้อนจากการอาบน้ำในอุณหภูมิที่สูงกว่า 39 องศาเซลเซียสนาน ๆ จะส่งผลกระทบต่อในเรื่องพัฒนาการทางสมองและการมองเห็น เนื่องจากลูกในท้องนั้นอยู่ในอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ลงแช่น้ำร้อนจัด ๆ หรือเป็นเวลานาน นอกจากสิ่งที่ไม่ปลอดภัยต่อตัวลูกในท้องแล้ว ยังส่งผลต่อตัวคุณแม่ได้ เช่น เกิดอาการความดันสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งอาการความดันสูงนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในระหว่างตั้งครรภ์อยู่แล้ว เมื่ออาบน้ำที่ร้อนมากก็เป็นสาเหตุที่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดขึ้นได้ แถมยังส่งผลต่อผิวหนังที่อาจทำให้ผิวแห้ง มีอาการคัน เมื่อเกาก็จะทำให้เกิดปัญหาริ้วรอย หรือการแตกลายของผิวตามมา

อย่างไรก็ตาม  หากคุณแม่อยากอาบน้ำร้อนเพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตัว ก็สามารถทำได้โดยหาวิธีที่ปลอดภัยต่อแม่และลูก ได้แก่

  • ไม่ควรอาบน้ำในอุณหภูมิที่สูงเกินไปไม่ว่าจะอาบน้ำจากฝักบัวหรือการแช่น้ำร้อน
  • หากอยากนอนแช่น้ำร้อนไม่ควรใช้อุณหภูมิที่สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส และไม่ควรแช่นานเกิน 10 นาที
  • หากรู้สึกไม่สบายตัวระหว่างการแช่น้ำ ให้รีบขึ้นจากน้ำอย่างระมัดระวังทันทีเท่าที่จะทำได้
  • ในระหว่างตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่าหรือนอนแช่อ่างน้ำร้อนเพื่อความปลอดภัยต่อตัวแม่และลูกน้อยในท้อง
  • เมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อนจัดการใช้น้ำธรรมดาอาบน้ำเพื่อความสบายตัว และดื่มน้ำให้มากพอเพื่อลดภาวะสูญเสียน้ำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อตัวเองและลูกในท้องดีที่สุดนะคะ

ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการอาบน้ำ แต่เราก็ยังทำกันอยู่ประจำ

อาบน้ำ เรื่องง่ายที่ดูเหมือนง่าย (เพราะว่ามันง่ายจริง ๆ) ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นกิจวัตรที่เราทำกันอยู่ทุกวัน แต่หลายคนยังมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการอาบน้ำ ซึ่งส่งผลร้ายต่อสุขภาพผิวและหนึ่งใน วิธีดูแลผิว ที่ง่ายที่สุดก็คือการล้างความเชื่อเดิมไปเสีย แล้วคุณก็จะได้สุขภาพผิวที่ดีกลับคืนมา มาดูกันเถอะว่า 5 ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการอาบน้ำนั้นมีอะไรบ้าง ?

1. อาบน้ำอุ่นดีต่อผิว

เป็นความเชื่อที่ไม่จริงเลยค่ะ เพราะน้ำร้อนจะทำให้ผิวแห้งและเป็นขุย เนื่องจากการขจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้ดีเกินไป จนทำให้ผิวไม่สามารถปกป้องตัวเองได้และมีการไหลเวียนของเลือดสูงขึ้น ส่งผลต่ออาการแสบและผื่นคัน อุณหภูมิที่เหมาะคือประมาณ 35 องศา หรือน้ำธรรมดาที่เราเปิดจากก๊อกในบ้านเรานั่นเอง

2. ยิ่งอาบน้ำนานยิ่งดี

สาว ๆ หลายคนเสพติดการอาบน้ำนาน ซึ่งไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ในห้องน้ำ หรือจะเปิดมินิคอนเสิร์ตอยู่ก็ตาม การอาบน้ำนานเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพผิว เช่นเดียวกับการอาบน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ผิวแห้งและมีผื่นคัน ระยะเวลาที่เหมาะสมในการอาบน้ำ โดยทั่วไปคือ 7 นาที หรืออาจบวกลบนิดหน่อย

3. การถูสบู่และใช้น้ำยาสระผมปริมาณมาก

โฆษณาสบู่หรือเจลอาบน้ำมักสร้างความเข้าใจผิดให้เราเสมอ ว่าต้องมีการตีฟองออกมาเยอะ ๆ จะได้สะอาด แต่แท้จริงแล้ว การใช้สบู่หรือเจลอาบน้ำ (รวมถึงน้ำยาสระผม) มากหรือถี่เกินไป ส่งผลแย่ต่อสุขภาพผิว เพราะจะทำไปลดน้ำมันหล่อลื่นบนผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งหยาบกระด้าง รวมถึงสบู่บางชนิดที่มีฤทธิ์กำจัดแบคทีเรียเป็นพิเศษ คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้มันทุกวันก็ได้

4. การใช้ฟองน้ำถูตัว

เป็นเรื่องปกติของการอาบน้ำที่จะใช้ฟองน้ำหรือรังบวบ (ต่างประเทศนิยมเป็นถุงมือมากกว่า) ซึ่งอันที่จริงแล้ว ฟองน้ำที่เปียกชื้เป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ควรเปลี่ยนทุก 4 สัปดาห์ หรือให้ดีกว่านั้นลองใช้ผ้าขนหนูเทอร์รี่หรือผ้าเช็ดตัวแทน เพราะสามารถซักได้ตลอดและไม่เกิดการหมักหมม

5. เช็ดตัวแรง ๆ

อันนี้ไม่ค่อยเป็นกับสาว ๆ เท่าไหร่ แต่หนุ่ม ๆ หลายท่านมักจะเช็ดตัวแรงเพื่อแสดงความเป็นแมน (?) ซึ่งอันที่จริงแล้วผ้าขนหนูสามารถซึมซับน้ำได้ดีอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถูตัวแรง ๆ เพราะนอกจากจะไม่ได้อะไร (แค่แห้งเร็ว) ยังทำให้เกิดรอยถลอกเล็ก ๆ บนผิวหนัง ดังนั้นการเช็ดตัวเพียงแค่ถูหรือซับเบา ๆ หลังจากนั้นก็ทาครีมที่คุณชื่นชอบก็พอแล้ว

5 เหตุผลที่ไม่ควรอาบน้ำร้อน แก้หนาว

1. เซลล์ผิวหนังจะถูกทำร้าย

น้ำที่มีอุณหภูมิสูงมากๆ จะทำให้ผิวชั้นนอกเราเกิดสภาวะเครียดค่ะ และน้ำร้อนก็ยังทำลายเซลล์ผิวหนังของเราได้อีกด้วย

2. ผิวแตก เป็นผื่นแดงได้

จากเหตุผลที่ว่า น้ำร้อนจัดสามารถเข้าไปทำร้ายเซลล์ผิวหนังได้ ลองสังเกตเวลาที่เราอาบน้ำร้อนจัด มักจะทำให้เกิดความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนผิวที่ตามมา มันทำให้เราหายหนาวได้จริง แต่อาจส่งผลให้ผิวเราแตก หรือเป็นผื่นแดงได้

3. เจอปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุย

แม้น้ำร้อนจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ดี แต่อีกหนึ่งความจริงที่มันทำต่อผิวเราก็คือ น้ำร้อนจะดึงเอาความชุ่มชื้นจากผิวเราไปด้วย พอผิวเราขาดความชุ่มชื้นก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และอาจเกิดอาการคันร่วมด้วยได้ค่ะ

4. หนังศีรษะถูกทำร้าย

ถ้าใครชอบใช้น้ำร้อนสระผม อาจต้องระวังสักหน่อยแล้ว เพราะว่าน้ำร้อนสามารถทำให้ผมเราแห้งเสียได้ และยิ่งถ้าเป็นคนที่ย้อมสีผม อาจทำให้สีที่ผอมมาซัดจางเร็วขึ้นกว่าเดิมค่ะ

5. กระตุ้นให้เกิดสิวได้

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า น้ำร้อนเนี่ยแหละ ทำให้เกิดสิวได้ เราอาจคิดว่า น้ำร้อนน่าจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ แต่น้ำร้อนที่ไหลออกมาจากฝักบัวไม่ได้สะอาดอย่างที่เราคิดกันหรอกค่ะ และอีกอย่าง น้ำที่ร้อนจัดจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งมากขึ้น ส่งผลให้ผิวกระตุ้นสร้างความมันออกมามากกว่าเดิม เลยทำให้น้ำร้อนสามารถกระตุ้นให้เกิดสิว และทำให้สิวที่เป็นอยู่มีอาการที่เลวร้ายมากขึ้นได้ค่ะ

แม้ว่าอาการจะหนาวสักแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรอาบน้ำด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิร้อนจัด เพราะอาจทำให้ผิวเสียได้ ถ้าใครทนหนาวไม่ไหวเราก็ขอแนะนำให้เปลี่ยนมาอาบน้ำอุ่นๆ ก็พอ ไม่ควรเกิน 49 องศาเซลเซียส หลังอาบน้ำให้ทาโลชั่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ป้องกันผิวแห้งอีกทีหนึงด้วยนะคะ

ที่มาจาก :https://www.idskinexpert.com/knowledge/5-


บทความใกล้เคียงที่น่าสนใจ :

5 ข้อเกี่ยวกับการอาบน้ำ ที่แม่ท้องควรทราบ

5 เรื่องที่เข้าใจผิดๆ ของการอาบน้ำทารกแรกเกิด

บทความโดย

Napatsakorn .R