6 อาการยอดฮิตตอนท้อง ที่มองข้ามไม่ได้

มาดูกันครับว่า อาการยอดฮิตตอนท้อง มีอะไรบ้าง และจะมีวีธีแก้ไขหรือบรรเทาอาการอย่างไร

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

6 อาการยอดฮิตตอนท้อง

ระหว่างตั้งครรภ์นั้น แม่ท้องส่วนมากมักจะพบเจอกับอาการผิดปกติต่างๆหลายอย่าง บางท่านก็มีอาการมาก บางท่านก็มีอาการน้อยแตกต่างกันไป เรามาดูกันครับว่า อาการยอดฮิตตอนท้อง มีอะไรบ้าง

1.แพ้ท้อง

อาการแพ้ท้องนั้น ทางการแพทย์เชื่อกันว่าน่าจะมีสาเหตุได้ 2 ประการครับ

ประการแรก การแพ้ท้องน่าจะเป็นกลไกของร่างกายคุณแม่ที่จะปฎิเสธสิ่งที่คุณแม่จะกินเข้าไปทุกชนิดเพราะกลัวว่าจะไปทำอันตรายต่อตัวลูกน้อยในท้อง เหตุที่เชื่อเช่นนั้นก็เพราะพบว่าส่วนมากแล้วช่วงเวลาที่คุณแม่แพ้ท้องมักจะเป็นช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกกำลังมีการสร้างอวัยวะต่างๆ มากมาย ภายหลัง 3 เดือนไปแล้ว การสร้างอวัยวะต่างๆจะเสร็จสิ้นเกือบหมดแล้ว การแพ้ท้องก็มักจะหายตามไปด้วยครับ

ประการที่ 2 น่าจะเกี่ยวข้องกับปริมาณของฮอร์โมนที่สร้างมาจากรกที่ชื่อว่า Human Chorionic Gonadotrophin หรือเรียกย่อๆว่า HCG  ยิ่งมีเนื้อรกมากก็จะยิ่งสร้างฮอร์โมน HCG ได้มาก อาการแพ้ท้องก็จะยิ่งมากตามไปด้วยครับ

คุณแม่แต่ละคน เวลาแพ้ท้องจะมีอาการรุนแรงไม่เท่ากัน บางคนก็แค่ผะอืดผะอม บางคนก็อาเจียนออกมา ในขณะที่บางคนแพ้รุนแรงมาก ทานอะไรไม่ได้เลย จนดูโทรม ตาลึกโบ๋ ปากแห้ง ปัสสาวะน้อยและสีเหลืองเข้ม กรณีนี้ควรรีบไปหาหมอได้แล้วนะครับ

ป้องกันและแก้ไข

ถ้าแม่ท้องมีอาการเพียงเล็กน้อย ก็สามารถแก้ไขหรือบรรเทาอาการได้โดยเปลี่ยนวิธีรับประทานอาหาร โดยควรรับประทานอาหารที่มีลักษณะดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ทานอาหารย่อยง่าย มีสารอาหารที่มีคุณค่า อาจเป็นน้ำผลไม้สด กับขนมปังกรอบหรือน้ำขิง
  • เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง

แต่หากแม่ท้องมีอาหารแพ้ท้องรุนแรง ก็ควรไปพบแพทย์จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกในครรภ์ครับ

2.เส้นเลือดขอด

ระหว่างที่มีการตั้งครรภ์ ความดันในหลอดเลือดจะสูงขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดเล็กๆบริเวณโคนขา น่อง และเท้าโป่งพองขึ้น หรือสำหรับบางอาชีพที่ต้องยืนนานๆ ก็อาจทำให้รู้สึกปวดที่บริเวณเส้นเลือดที่ขา และเกิดอาการเส้นเลือดของได้

โดยปกติภาวะนี้ไม่มีอันตรายอะไรครับ และจะหายได้เองหลังคลอด จะมีคุณแม่เพียงบางรายเท่านั้น ที่อาจมีเส้นเลือดขอดมาตั้งแต่ก่อนท้อง เมื่อมีการตั้งท้องขึ้นเลยทำให้อาการของเส้นเลือดขอดรุนแรงขึ้นครับ

ป้องกันและแก้ไข

  • คุณแม่ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการยืน นั่ง และนอน ดังนี้ครับ
    หลีกเลี่ยงการเดิน ยืน หรือนั่งห้อยเท้านานๆ  ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้ผ้าพันแผลชนิดยืดพันรอบจากเท้ามาถึงใต้หัวเข่าหรือโคนขา จะช่วยป้องกันไม่ให้เส้นเลือดขอดเป็นมากขึ้น
  • เวลานอนควรหาหมอนหนุนเท้าให้สูงกว่าปกติ เลือดจะได้ไม่ไหลไปกองที่เท้า อาการของเส้นเลือดขอดก็จะลดลงครับ

อาการยอดฮิตตอนท้อง มีอะไรอีกบ้าง ติดตามหน้าถัดไปครับ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3.ริดสีดวงทวาร

อาการของความผิดปกติในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เรียกว่า ริดสีดวงทวาร เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากปัญหาหนึ่งเลยทีเดียว ความจริงแล้ว ริดสีดวงทวาร ก็คือหลอดเลือดดำที่อยู่บริเวณทวารหนักนั่นเอง ซึ่งหลอดเลือดดำบริเวณนี้จะมีลักษณะพิเศษก็คือ มันจะรวมกันเป็นกระจุก เวลาคุณแม่มีการตั้งท้อง มดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจะกดหลอดเลือดดำใหญ่ในช่องท้องทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีและมาคั่งอยู่ที่หลอดเลือดบริเวณก้น ทำให้กระจุกเลือดนี้ปูดออกมาเป็นก้อน เวลาถ่ายอุจจาระไปโดนจะทำให้เจ็บได้ ยิ่งบางคนท้องผูกหรืออุจจาระแข็งต้องเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน อุจจาระอาจไปครูดกับริดสีดวงทำให้หลอดเลือดฉีกขาดเวลาถ่ายจึงมีเลือดสดปนมากับอุจจาระได้

ป้องกันและแก้ไข

  • คุณแม่ควรรับประทานผัก ผลไม้ และน้ำให้มากๆครับ
  • ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา อย่ากั้นอุจจาระโดยไม่จำเป็น
  • ใช้ยาระบายเป็นครั้งคราวถ้าจำเป็น

4.อืด แน่นท้อง

อาการอืด แน่นท้องนั้นเป็นอาการที่พบบ่อยมากอีกอาการหนึ่งระหว่างตั้งครรภ์ เพราะเมื่อมีการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะมีการสร้างฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ขึ้นมาหลายชนิด ซึ่งมีผลรวมๆ กัน ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานช้าลง เวลาทานอาหารคุณแม่จึงรู้สึกอึดอัดและแน่นท้องได้ง่ายนั่นเองครับ

ป้องกันและแก้ไข

  • คุณแม่ควรทานอาหารที่ย่อยง่ายๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก เช่นอาหารมันๆ หรืออาหารที่จะทำให้เกิดแก็สได้ง่ายๆ เช่น น้ำอัดลมเป็นต้น
  • ควรรับประทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยมื้อ  อย่าทานทีละเยอะๆ

อาการยอดฮิตตอนท้อง มีอะไรอีกบ้าง ติดตามหน้าถัดไปครับ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5.อยากรับประทานของแปลกๆ

แม่ท้องบางคนอาจรู้สึกอยากกินของแปลกๆ ทั้งๆที่ตอนก่อนท้องก็ไม่เคยคิดจะกินมาก่อน เช่น อาหารเผ็ดจัด หวานจัด หรือมีกลิ่นคาวมาก หรือของเปรี้ยวจัด เค็มจัด ซึ่งของแปลกบางอย่างอาจจะไม่ใช่อาหารแต่คุณแม่อยากกินก็มี เช่น ดินสอพอง เป็นต้น ส่วนสาเหตุที่ว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ยังไม่มีคำตอบชี้ชัดครับ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นผลมาจากอิทธิพลของฮอร์โมนระหว่างตั้งท้อง

ป้องกันและแก้ไข

ถ้าอาหารที่แม่ท้องอยากทาน เป็นหาหารที่ไม่มีอันตรายอะไรก็สามารถทานได้ตามปกติครับ แต่อาหารบางอย่างหรือของแปลกๆ ที่อาจส่งผลต่อลูกในครรภ์ ก็ขอให้อดใจไว้ดีกว่าครับ หาอะไรอย่างอื่นมาทานแทนจะดีกว่า เพราะคุณแม่อาจเสียใจที่อาจจะกินอะไรแล้วไปทำร้ายลูกในครรภ์ได้นะครับ

6.ตกขาว

อาการตกขาวกับแม่ท้องนั้น แทบจะเรียกว่าของคู่กันเลยก็ว่าได้ ตกขาวในคุณแม่ที่ตั้งท้องมีได้ทั้งตกขาวที่ปกติและผิดปกติ ซึ่งในขณะที่ไม่ตั้งครรภ์นั้น ผู้หญิงทุกคนก็จะมีตกขาวเพื่อหล่อลื่นช่องคลอดอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการตั้งครรภ์ก็จะยิ่งมีตกขาวมากขึ้น การที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ การมีตกขาวมากในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์เป็นกลไลการปรับตัวตามปกติสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ครับ และภายหลังคลอดก็จะหายไปได้เอง

ตกขาวที่ปกติมักมีลักษณะเป็นมูกสีขาวๆ แต่ถ้าคุณแม่คนใดที่มีตกขาวเปลี่ยนสีไป อาจจะเป็นสีเหลืองหรือเขียว หรือมีอาการบางอย่างร่วมด้วย เช่น คันช่องคลอด หรือปวดในช่องคลอด และตกขาวมีกลิ่นเหม็น คุณควรรีบไปพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณอาจติดเชื้อบริเวณช่องคลอดได้ครับ

ป้องกันและแก้ไข

  • รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้เกิดความอับชื้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดระหว่างการตั้งครรภ์ เนื่องจากจะทำให้คุณแม่เสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ
  • เลือกใส่ชุดชั้นที่ใส่สบาย ไม่รัดจนเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาพิเศษชนิดต่างๆสวนล้างช่องคลอด ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำธรรมดา
  • ไม่ควรไปซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจไม่ตรงกับเชื้อ ทำให้รักษาไม่หายขาด อาจทำให้ดื้อยาและเป็นเรื้อรังได้ครับ

ที่มา si.mahidol.ac.th

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

P.Veerasedtakul