อาการซึมเศร้าหลังคลอด อาการผิดปกติหลังคลอด อาการเป็นอย่างไร แม้แต่แม่ชมพู่ก็ต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
แม่ชมพู่เผชิญภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
เป็นแม่คนแล้ว แต่หุ่นยังเช้งไม่เปลี่ยนไปเลย สำหรับคุณแม่ลูกแฝด ชมพู่ อารยา ที่มาอวดหุ่นแซ่บขึ้นปกนิตยสารแพรว ในลุคสุดเปรี้ยว สวมวิกผมสั้นสุดชิค ถ่ายแฟชั่นเก๋ ๆ
นอกจากจะมีเซ็ตแฟชั่นสวย ๆ ให้ได้ดูกันแล้ว นิตยสารแพรวปกแม่ชม (นิตยสารแพรว ธ.ค. 61) ยังมีบทสัมภาษณ์พิเศษ ที่เจ้าตัวเปิดเผยเรื่องที่ใครหลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่า คุณแม่ชมพู่คนเก่ง ต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ภาวะที่แม่หลังคลอดหลายคนเคยผ่านกันมาแล้ว
“หมอเตือนเรื่องภาวะซึมเศร้าหลังคลอดว่า ชมอาจต้องเผชิญ แต่ชมมั่นใจตัวเองไปหน่อยว่า ร่างกายฉันฟิต จิตใจแข็งแรง ไม่น่าเจอปัญหานี้ แต่สุดท้ายเจอจริง ๆ บางวันชมร้องไห้เหมือนคนบ้า ทั้งโมโหและอะไรหลายอย่าง นอนน้ำตาไหลอยู่คนเดียว พร้อมตั้งคำถามว่า เราเป็นอะไรเนี่ย”
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Baby Blues)
Baby Blues เป็นปรากฏการณ์ปกติหลังคลอดบุตร ซึ่งพบได้บ่อยถึง 50 – 85 เปอร์เซ็นต์ อาการมักเริ่มเกิดในช่วงหลังคลอดไม่กี่วัน โดยมีอาการมากที่สุดประมาณวันที่ 4 – 5 และมักหายภายในวันที่ 10 ในบางรายอาจมีอาการอยู่นานถึง 2 สัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญถือว่า ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นหลังคลอด บวกกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการดำเนินชีวิตประจำวันของแม่ รวมไปถึงการอดนอนของแม่มือใหม่ด้วย
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum Depression) เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่คุณแม่บางคนอาจต้องเผชิญหลังคลอดบุตร โดยอาจมีอาการซึมเศร้า เสียใจ วิตกกังวล และอ่อนเพลียมากจนไม่สามารถเลี้ยงลูกหรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ หากมีอาการเหล่านี้ คุณแม่ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาอย่างเหมาะสม และหากมีอาการรุนแรงอย่างหลอน มีความคิดทำร้ายตัวเองหรือลูกน้อย หรือแม้แต่คิดฆ่าตัวตาย คนรอบข้างควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที
คุณแม่อาจพบว่าอยู่ดี ๆ ตัวเองก็ร้องไห้โดยไม่ทราบสาเหตุ อารมณ์ขึ้นลง และจะหายไปเอง ในขณะที่โรคซึมเศร้าหลังคลอด และความผิดปกติทางอารมณ์อื่น ๆ นั้นเป็นอาการที่ต้องได้รับการรักษา
โรคซึมเศร้าหลังคลอด ไม่เหมือนกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Baby Blues)
1. โรคซึมเศร้าหลังคลอด รวมถึงความวิตกกังวล และความผิดปกติทางอารมณ์อื่น ๆ ด้วย
โรคซึมเศร้าหลังคลอด เป็นความผิดปกติทางอารมณ์หลังคลอด แบ่งเป็น 4 ชนิด
- ซึมเศร้า
- วิตกกังวลแบบซึมเศร้าและวิตกกังลแบบไม่ซึมเศร้า
- ตื่นตระหนก
- ย้ำคิดย้ำทำ
ขอบเขตของโรคซึมเศร้าหลังคลอดนี้กว้างกว่าที่คิด แม่บางคนมีความวิตกกังวลมากโดยที่ไม่มีอาการซึมเศร้า แต่คุณอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญอยู่กับโรคซึมเศร้าหลังคลอดในรูปแบบหนึ่งนั่นเอง
2. ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้หญิงบางคนเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด
แม่ที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย หรือแม่เคยมีประวัติความผิดปกติทางอารมณ์มาก่อนมีแนวโน้มที่จะเป็นกับโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้ แต่ตามข้อมูลของสมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน ระบุว่า ครึ่งหนึ่งของแม่หลังคลอดที่ได้รับการวินิจฉัย เพิ่งเกิดอาการเช่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อาทิ แม่ที่เคยสูญเสียลูก หรือ มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ มีปัญหาสุขภาพ ทารกคลอดก่อนกำหนดและต้องอยู่ใน NICU รวมถึงแม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะมีอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ และลดต่ำลงอย่างมากในช่วง 2 – 3 วันหลังคลอด จึงส่งผลต่ออารมณ์ของแม่หลังคลอด
3. การอดนอนส่งผลต่อโรคซึมเศร้าหลังคลอด
การนอนของแม่หลังคลอดจะเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากคุณต้องตื่นมาให้นมลูกน้อยทุก 2 ชั่วโมงถ้าคุณแม่ได้นอนยาว 5 – 6 ชั่วโมงและมีช่วงที่งีบหลับได้ คุณจะรู้สึกดีขึ้นใน 1 – 3 สัปดาห์ นั่นหมายความว่า คุณแม่ควรมีผู้ช่วยที่สามารถป้อนนมจากขวดบ้าง เพื่อที่คุณแม่จะได้พักผ่อนในช่วงกลางคืน และในขณะที่ลูกนอนหลับ คุณแม่ควรฉวยโอกาสนี้นอนไปพร้อมกับลูกด้วยเลย อย่างไรก็ดี แม่บางคนอาจต้องใช้ยา เพื่อช่วยให้สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น
ขอบเขตของโรคซึมเศร้าหลังคลอดนี้กว้างกว่าที่คิด แม่บางคนมีความวิตกกังวลมากโดยที่ไม่มีอาการซึมเศร้า แต่คุณอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญอยู่กับโรคซึมเศร้าหลังคลอดในรูปแบบหนึ่งนั่นเอง
อาการซึมเศร้าหลังคลอด
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดมักเกิดขึ้นในช่วงปีแรกหลังจากคลอดบุตร โดยอาการที่มักพบได้ มีดังนี้
- รู้สึกเศร้า เสียใจ หมดหวัง
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด โกรธง่าย หรืออยู่ไม่สุข
- วิตกกังวลมากผิดปกติ
- มีปัญหาในการนอนหลับ เช่น นอนหลับมากผิดปกติ นอนไม่หลับ เป็นต้น
- ร้องไห้มากกว่าปกติ หรือร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล
- มีปัญหาเรื่องสมาธิ การจดจำรายละเอียด หรือการตัดสินใจ
- หมดความสนใจในสิ่งที่ชอบหรืองานอดิเรก
- รับประทานอาหารน้อยลง หรือรับประทานมากขึ้นอย่างผิดปกติ
- มีปัญหาสุขภาพโดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน เช่น ปวดศีรษะบ่อย ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เป็นต้น
- เก็บตัว หรือหลีกเลี่ยงการพบเจอเพื่อนและคนในครอบครัว
- มีปัญหาในการสร้างความผูกพันระหว่างแม่ลูก
- กังวลไปว่าตนเองไม่มีความสามารถในการดูแลลูกอยู่บ่อย ๆ
- มีความคิดทำร้ายร่างกายตัวเองหรือลูกน้อย
คุณแม่ที่มีอาการซึมเศร้าหลังคลอดควรไปพบแพทย์หากอาการข้างต้นไม่หายไปภายใน 2 สัปดาห์ มีอาการรุนแรงขึ้น หรืออาการเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อการดูแลลูกน้อยและการใช้ชีวิตประจำวัน และควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุดหากคุณแม่มีความคิดฆ่าตัวตายหรือทำร้ายตัวเองและเด็ก โดยคนใกล้ชิดควรช่วยดูแลเด็กชั่วคราว เพราะหากปล่อยไว้อาจเป็นอันตรายต่อตัวแม่และเด็กได้
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้หญิงบางคนเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด อาการผิดปกติหลังคลอด
แม่ที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย หรือแม่เคยมีประวัติความผิดปกติทางอารมณ์มาก่อนมีแนวโน้มที่จะเป็นกับโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้ แต่ตามข้อมูลของสมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน ระบุว่า ครึ่งหนึ่งของแม่หลังคลอดที่ได้รับการวินิจฉัยเพิ่งเกิดอาการเช่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต
ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อาทิ แม่ที่เคยสูญเสียลูก หรือ มีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ มีปัญหาสุขภาพ ทารกคลอดก่อนกำหนดและต้องอยู่ใน NICU รวมถึง แม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดยิ่งมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะมีอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอรโรนและเอสโตรเจนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ และลดต่ำลงอย่างมากในช่วง 2 – 3 วันหลังคลอด จึงส่งผลต่ออารมณ์ของแม่หลังคลอด
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเป็นสิ่งที่แม่หลังคลอด หลาย ๆ คน ต้องเผชิญ แม่ต้องคอยสังเกตตัวเองให้ดี ถ้ารู้สึกว่า ร้องไห้บ่อย เครียด หงุดหงิด ให้ปรึกษาคุณหมอ เพื่อวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดว่าเป็นภาวะซึมเศร้าหลังคลอดหรือไม่
ภาวะแทรกซ้อนของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจได้ในระยะยาว และอาจส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวได้ โดยเฉพาะตัวผู้ป่วยเอง เช่น ทำให้คุณแม่กลายเป็นโรคซึมเศร้า และส่งผลต่อความสามารถในการเลี้ยงดูทารกจนทำให้ทำหน้าที่แม่ได้อย่างไม่เต็มความสามารถ เป็นต้น และแม้จะรับการรักษาแล้วก็ยังมีความเสี่ยงที่คุณแม่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ในภายหลังเช่นกัน
ส่วนผลกระทบต่อลูก ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอาจทำให้ทารกมีปัญหาด้านอารมณ์และพฤติกรรม เช่น นอนหลับยาก ไม่ยอมกินนมหรืออาหาร ร้องไห้มากผิดปกติ เป็นโรคสมาธิสั้น หรือมีปัญหาพัฒนาการทางภาษา เป็นต้น
นอกจากนี้ คุณพ่อของเด็กก็อาจได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมและบรรยากาศในครอบครัวไปด้วย ซึ่งทำให้เสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้าสูงขึ้น เพราะจากเดิมคุณพ่อมือใหม่ก็เสี่ยงเกิดภาวะนี้ได้อยู่แล้วแม้ภรรยาจะไม่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดก็ตาม
อาการผิดปกติหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรีบไปพบหมอทันที
1. แม่หลังคลอดปวดท้องรุนแรง
มีอาการปวดท้องมาก ปวดท้องจนตัวบิด และไม่ได้เป็นผลมาจากอาหารการกินแต่อย่างใด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กความผิดปกติโดยด่วน เพราะอาการปวดท้องอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ
2. แม่หลังคลอดมีเลือดออกจากช่องคลอด
เมื่อมีเลือดออกมาจากช่องคลอดจนชุ่มผ้าอนามัย 1 แผ่น ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง และเลือดที่ออกมานั้นมีลักษณะเป็นก้อนๆ โดยมั่นใจว่าไม่ใช่ประจำเดือน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กความผิดปกติ
3. แม่หลังคลอดแสบขัดหรือเจ็บเวลาขับถ่าย
เวลาถ่ายปัสสาวะมักมีอาการแสบขัด หรือมีอาการเจ็บร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กความผิดปกติ
4. แม่หลังคลอดเต้านมผิดปกติ
มีอาการปวดเต้านม เต้านมบวมแดง มีก้อนแข็ง ๆ ที่เต้านม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของอาการเต้านมอักเสบ หรืออาจเป็นก้อนมะเร็งร้ายก็ได้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กความผิดปกติ
5. แม่หลังคลอดแผลฝีเย็บอักเสบ
เมื่อแผลฝีเย็บมีหนอง หรือมีเลือดไหลออกมา และเกิดการบวมแดงจนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนปวดถ่วงไปถึงทวารหนัก แบบนี้ก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
6. แม่หลังคลอดปวดหัวและมีไข้สูง
คุณแม่มีอาการปวดศีรษะมาก หนาวสั่น และมีไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส แม้จะกินยาลดไข้แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น นั่นคืออาการของการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนบางอย่าง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กความผิดปกติ
7. แม่หลังคลอดน้ำคาวปลามีสีแดงผิดปกติ
หลังจากคลอดมาได้ 15 วัน หากน้ำคาวปลาก็มีสีแดงตลอด อาจจะเกิดจากการที่มีเศษรกเหลือค้างอยู่ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะมีการอักเสบติดเชื้อของโพรงมดลูก ควรที่จะไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากน้ำคาวปลาที่ออกมาในช่วงหลังคลอด 3 – 4 วันจะเป็นเลือดสดๆ แต่ผ่านไปประมาณ 10 – 14 วันจะเป็นน้ำปนเลือด สีจะออกน้ำตาลดำ จากนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นน้ำสีขาวออกเหลืองจนกระทั่งหมดไปภายในระยะเวลาประมาณ 4 สัปดาห์
ที่มาจาก : www.pobpad.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 สัญญาณเตือนใกล้คลอด..คุณแม่เตรียมตัวยัง
ภาพหาดูยาก!! ทารกแรกคลอดในถุงน้ำคร่ำ
คุณหมอบอกมา 5 ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องต้องระวัง!!