ทารกแรกเกิดนั้นมีผิวที่ค่อนข้างอ่อนนุ่มและบอบบาง และอาจมีอาการผื่นหรืออาการแพ้ได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จึงควรให้ความใส่ใจกับการดูแลผิวของลูกน้อยที่ต้องการการดูแลปกป้องมากเป็นพิเศษ พ่อแม่มือใหม่จึงมักมีความกังวลในเรื่องผิวของลูกน้อย ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าแปลกอะไร ที่นอกจากจะต้องใส่ใจต่อผิวบาง ๆ ไม่ทำให้เกิดผื่นแพ้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคง อยากให้ลูกผิวดี สุขภาพดีด้วย
เพราะอะไรผิวของทารกจึงต้องการดูแลเอาใจใส่
- ผิวหนังของทารกนั้นมีชั้นผิวที่บอบบางอย่างมาก
- ผิวทารกแรกเกิดจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ
- ผิวทารกนั้นมีแนวโน้มที่จะมีผิวที่แพ้ง่ายในช่วง 2 -3 เดือนแรก และมีโอกาสที่จะเป็นผื่นผ้าอ้อม หรือเกิดอาการระคายเคืองได้จากการแพ้สารเคมีในแชมพู สบู่ และอื่น ๆ อีกมากมาย
อยากให้ลูกผิวดี 7 เคล็ดลับดูแลผิวพรรณของทารก
#1 การอาบน้ำ
พ่อแม่มือใหม่ชอบที่อาบน้ำให้ลูกในทุก ๆ วัน และจะดีไม่น้อยหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สบู่และแชมพูที่มาจากธรรมชาติ ปลอดจากสารเคมีใด ๆ ที่มั่นใจว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังของทารกน้อย ไม่ควรใช้สบู่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียใด ๆ เพราะมันอาจจะรุนแรงเกินไปสำหรับผิวที่บอบบางของลูกน้อย ล้างทำความผิวด้วยน้ำอุ่นโดยใช้หลังมือหรือหลังแขนสัมผัสกับผิวน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำที่เตรียมให้ลูกอาบไม่ได้ร้อนหรือเย็นเกินไป และหลังจากอาบน้ำเช็ดตัวลูกให้แห้งภายในห้องที่มีอุณหภูมิอบอุ่น ซึ่งควรปิดแอร์หรือพัดลมทุกครั้งในช่วงเวลาที่อาบน้ำแต่งตัวทารก
#2 การใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ผ้าอ้อมสำเร็จรูปนั้นมีประโยชน์อย่างมากต่อการซึมซับการถ่ายของลูกน้อย รวมถึงความสะดวกสบายที่ช่วยพ่อแม่ให้เบาแรงซักไปได้เยอะ แต่อย่างไรก็ตามผ้าอ้อมสำเร็จรูปบางชนิดอาจทำให้ผิวของทารกเกิดการระคายเคืองและอาจทำให้เกิดผื่นคันหรือการติดเชื้อได้ หรือการปล่อยให้สิ่งสกปรกอยู่ใต้ก้นลูกนานเกินไปก็อาจทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อม เนื่องจากการระคายเคืองที่ผิวหนังจากการใส่ผ้าอ้อมเปียกชื้น ทำให้ผิวสวย ๆ กลายเป็นผิวเสีย ๆ ได้ เพราะทารกแรกเกิดนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นผื่นแพ้ได้ง่าย ดังนั้นควรสังเกตผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ลูกใช้ว่าทำให้เกิดอาการแพ้หรือเปล่า และคอยทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกทันที ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อย ปล่อยให้ผิวบริเวณนั้นแห้งก่อนที่จะสวมใส่ใหม่อีกครั้ง หากเกิดกรณีที่เป็นผื่นแดงบริเวณผิวหนังหากสังเกตดูรุนแรงควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อดูอาการทันที เพราะอาจเป็นเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้
#3 ดูแลผิวที่เป็นปานและกลาก
โดยทั่วไปแล้วมีเด็กทารกจำนวนมากที่มีปานแต่กำเนิด คือผิวหนังบริเวณที่มีสีแตกต่างจากบริเวณอื่น จะเห็นได้ชัดหลังทารกเกิดมาไม่นาน มีลักษณะสี ความนูนของปาน จะแตกต่างกันตามสาเหตุของต้นกำเนิด ปานของเบบี๋ที่ไม่เป็นอันตรายเมื่อโตขึ้นสีของปานก็จะค่อย ๆ จางหายไป ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตปานของลูกเป็นระยะ อย่างน้อยก็ในช่วงอาบน้ำหากพบว่าปานดูบวมแดงขึ้น มีอาการเจ็บ มีขนาดโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีสีเปลี่ยนไปหรือสีไม่สม่ำเสมอ มีน้ำเหลืองหรือเลือดออกมา ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอนะคะ
ส่วนกลากที่เป็นผดผื่นคันสีแดงอาจเกิดขึ้นได้โดยมีสาเหตุหรือไม่มีก็ได้ โดยมักจะขึ้นที่ใบหน้าของทารก หน้าอก ข้อศอกแขน หรือหลังข้อเข่า ถ้าหากพ่อแม่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมาก่อน ทารกก็จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นกลากได้ ให้ใช้สบู่อ่อน ๆ และทาครีมบำรุงผิว
#4 ดูแลผิวทารกที่มีผิวแห้ง
หากลูกน้อยมีผิวแห้ง ในช่วงเดือนแรก ๆ ของทารกควรถูตัวทำความสะอาดผิวด้วยน้ำเปล่าสองหรือสามครั้งต่อสัปดาห์ ก็ช่วยทำให้ลูกสะอาดโดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการอาบน้ำลูกที่บ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังทำให้ผิวแห้งและหมองคล้ำ และใช้ครีมบำรุงผิวที่ทำจากธรรมชาติเพื่อให้ผิวชุ่มชื่น อ่อนนุ่มและเรียบลื่น เช่น น้ำมันมะพร้าว
#5 ดูแลผิวพรรณของเบบี๋ให้มีผิวดี
- ไม่ควรให้ทารกสัมผัสกับแสงแดดแรง ๆ โดยตรงจนกว่าจะอายุ 6 เดือน หากพาลูกออกนอกบ้านปกป้องผิวที่อ่อนนุ่มของทารกด้วยการใส่เสื้อแขนยาว กางเกง และสวมหมวก
- ผดร้อนเล็ก ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากเหงื่อ ในบริเวณรักแร้ ข้อพับต่าง ๆ หรือบริเวณช่วงต่อของผ้าอ้อม การใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ และอยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสบาย ๆ จะช่วยลดอาการผดร้อนให้กับเจ้าตัวน้อยได้
- ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อปกป้องผิวของทารกจากการระคายเคืองกับผิวหนัง ผดผื่น ผิวแห้งกร้าน การติดเชื้อ หรืออาการภูมิแพ้ต่าง ๆ
เพราะลูกน้อยแสนรักที่มีผิวบอบบางนั้นไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการดูแลอย่างดีที่สุด ร่วมกันแชร์และแบ่งปันเคล็ดลับดี ๆ ไปให้ถึงคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกท่านนะคะ
อยากให้ลูกผิวสวย ผิวดีอย่างมีสุขภาพดีด้วย ควรทำอย่างไร?
1. การเลือกสบู่อาบน้ำให้ลูก
1.หากลูกของคุณยังเป็นทารก ใช้น้ำเปล่าอาบก็พอแล้ว
2.ถ้าหากจะใช้สบู่อาบน้ำ ควรใช้แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอ
3.ที่สำคัญควรเลือกสบู่อาบน้ำที่อ่อนโยนและทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันปาล์ม
4. อ่านส่วนผสมของสบู่ให้ดีก่อนซื้อมาอาบน้ำให้ลูกด้วย สบู่อาบน้ำส่วนมากจะมีสารเคมีที่ชื่อว่า Sodium Lauryl Sulphate (SLS) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิดฟองสบู่ แนะนำว่าอย่าเลือกสบู่ที่มีสารเคมีชนิดนี้ผสมอยู่ และต้องไม่ใส่น้ำหอมด้วย
2. ป้องกันลูกจากแสงแดดจ้า
1.หากลูกของคุณยังเป็นทารก ควรพาออกห่างจากแสงแดดจ้า
2. แต่แนะนำว่าให้พามาเดินเล่นรับแสงแดดอ่อน ๆ (ไม่เกินวันละ 10 นาที) จะทำให้เด็ก ๆ มีกระดูกที่แข็งแรง
3. หากลูกของคุณอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถเลือกซื้อครีมกันแดดสำหรับทารกโดยเฉพาะมาทาให้ลูกได้ เช่น ครีมกันแดดที่ทำมาจากธรรมชาติ ใช้ zinc oxide
4.สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาแล้ว แนะนำให้ใช้ครีมกันแดด ที่ป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบีด้วย (broad-spectrum sunscreen) และมีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไปด้วย
5. ควรทาครีมกันแดดให้ลูกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงก่อนออกไปเจอแดดจ้า และต้องทาอีกทุก ๆ สองชั่วโมงด้วย
เคล็ดลับปกป้องผิวเด็กจากแสงแดดเพิ่มเติม
3. อาหารและน้ำ
1. ควรให้ลูกดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอทุกวัน น้ำจะช่วยให้ผิวพรรณของเด็ก ๆ ชุ่มชื่น และส่งผลให้มีสุขภาพดีตามมาด้วย
2.อาหารต่าง ๆ ที่ทานแล้วช่วยให้เด็กมีผิวสวย มีสุขภาพผิวดีนั้นมีมากมาย เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม ชีสโยเกิร์ต หรือจะเป็นโปรตีนจากไข่ ปลา และเนื้อ รวมทั้งผัก ข้าวโอ๊ตแบบเม็ด (ไม่ได้บด) และ ข้าวกล้อง
credit content : www.momjunction.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
ทำอย่างไรไม่ให้ลูกหัวแบน อยากให้ลูกโตมาหัวทุย สวย ต้องทำไง
อยากให้ลูกนอนยาว ทำได้ไม่ยาก ลูกหลับสนิทให้แม่ได้พักเหมือนได้ขึ้นสวรรค์