"อยากให้ลูกตัวเล็กต้องสูบบุหรี่" เทรนใหม่ของแม่วัยรุ่น

เมื่อว่าที่แม่วัยรุ่น มีความเชื่อแปลก ๆ "การมีลูกตัวเล็กถือว่าน่ารัก เพราะฉะนั้นมาสูบบุหรี่กันเถอะ!?"

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อคุณแม่วัยรุ่นที่มีอายุเพียง 16 – 17 ปี กลัวว่าลูกที่อยู่ในครรภ์จะตัวใหญ่เกินไป พวกเขาจึงเลือกวิธีการลดขนาดของทารกในครรภ์ด้วยการสูบบุหรี่

เมื่อรองศาสตราจารย์ ซิโมน เดนนิส ประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย กล่าวหลังจากที่มีการศึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของคุณแม่วัยรุ่นว่า “ฉันถึงกับอึ้ง เมื่อผลจากการศึกษาพบว่า บรรดาคุณแม่วัยรุ่นที่มีอายุราว 16-17 ปี มีค่านิยมในการตั้งครรภ์กันแปลก ๆ สืบเนื่องจากพวกเขายังเป็นเด็ก อายุน้อยและมีร่างกายที่เล็ก ก็เลยกลัวว่า เด็กที่อยู่ในครรภ์นั้นจะมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะรับไหว และเพื่อควบคุมให้ทารกมีขนาดเล็ก วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ การสูบบุหรี่นั่นเอง ซึ่ง 18 เปอร์เซ็นของคุณแม่ที่สูบบุหรี่นั้นลูกในครรภ์จะมีน้ำหนักตัวเบาถึง 200 กรัม”

แม่ท้องสูบบุหรี่

คงไม่ใช่เรื่องดีนักที่แม่ท้องสูบบุหรี่  เพราะแม่ท้องเพียงแค่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม  เช่น ฝุ่น  ควัน  กลิ่นอันไม่พึงประสงค์  เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำลายสุขภาพแม่และทารกในครรภ์ทั้งสิ้น  ปัจจุบันพบว่า  มีแม่ท้องจำนวนไม่น้อยที่ยังสูบบุหรี่ซึ่งผลร้ายจากการสูบบุหรี่นั้น  จากรายงานการศึกษาพบว่า  แม่ท้องที่สูบบุหรี่  ทารกที่เกิดมาจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติและยังทำให้ทารกแรกคลอดมีโอกาสเจ็บ ป่วยได้ง่าย  สมาคมเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์แห่งอเมริกา  มีผลการวิจัยพบว่า ร้อยละ 13 ของภาวะมีบุตรยากในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ระหว่างที่ตั้งครรภ์อาจเป็นสาเหตุทำให้แท้งบุตร  ภาวะรกเกาะต่ำ  ทารกน้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐาน  ฯลฯ  นอกจากนี้ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะมีแน้วโน้มที่จะหมดประจำเดือนเร็วกว่า ผู้หญิงทั่วไปถึง 4 ปี

แม่ท้องสูบบุหรี่ส่งผลอย่างไรต่อลูกในครรภ์คลิกอ่านได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

บุหรี่มหันตภัยร้ายต่อลูกในครรภ์

บุหรี่และควันบุหรี่เป็นอันตรายร้ายแรงทั้งต่อแม่ท้องและทารกในครรภ์  มีรายงานวิจัยพบว่า  ถ้าแม่ท้องสูบบุหรี่หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีควันบุหรี่จะมีผลต่อทารกใน ครรภ์  กล่าวคือ  สารเคมีในบุหรี่จะทำลายโครโมโซมของทารก   ทำให้ทารกตายแรกคลอดหรือทำให้ทารกเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ    มีน้ำหนัก  ส่วนสูง  รอบอกและรอบศีรษะต่ำกว่าเกณฑ์  ระบบประสาท  ระบบการหายใจและหลอดเลือด ซึ่งประเมินภายหลังแรกคลอด  พบว่า  มีปัญหาในระบบทางเดินหายใจ ภายหลังคลอดทันทีและมีแนวโน้มจะเป็นโรคหอบหืดเมื่อโตขึ้น  มีอาการปวดท้อง  โคลิก (colic) อาเจียน  ท้องเสีย  ลำไส้อักเสบ  กระสับกระส่าย  นอนหลับพักผ่อนน้อย มีอาการเหมือนคนขาดยา  มีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะแต่กำเนิดและเมื่อโตขึ้นเด็กอาจเจ็บป่วย ด้วยโรคมะเร็งในระบบต่าง ๆ ภายหลังคลอดทารกยังได้รับสารเคมีผ่านทางน้ำนมแม่อีกถ้าหากแม่ยังไม่เลิกสูบ บุหรี่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wisconsin – Milwaukee ได้ทำการศึกษาพบว่า  13 % ของแม่ที่สูบบุหรี่ตอนท้องมีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ลูกเป็นโรคออทิสติกได้  โดยให้เหตุผลว่า  เพราะทารกในครรภ์ต้องการออกซิเจน การที่แม่สูบบุหรี่ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่จะส่งผ่านไปยังลูกน้อยทางสายสะดือ นั้นลดลง  มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กตลอดจนพัฒนาการต่าง ๆ ที่ถดถอย  อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดและการแท้งด้วย

นอกจากนั้นการสูดดมควันบุหรี่จากคนในบ้าน  โดยที่ทารกไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยตนเอง  ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะทำให้ทารกมีระดับสติปัญญาต่ำ  เมื่อโตขึ้นจะมีบุคลิกไม่อยู่นิ่ง (Hyperactive) เป็นเด็กสมาธิสั้นมีพัฒนาการทางอารมณ์และพฤติกรรมการเรียนรู้ไม่เหมาะสมกับ วัย  สำหรับทารกที่เป็นเพศหญิงนั้นเมื่อโตขึ้นอาจเกิดภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากท่อนำไข่ถูกสารเคมีจากบุหรี่ทำลาย  ดังนั้น  หากคุณแม่ตั้งครรภ์และไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ควรแจ้งแพทย์เพื่อหาวิธีเลิก บุหรี่เพื่อสุขภาพของตนเองและทารกในครรภ์

การอดบุหรี่ในแม่ท้องสามารถทำได้

ตามปกติแล้วผู้หญิงที่สูบบุหรี่ก่อนตั้งครรภ์  หากวางแผนจะตั้งครรภ์ควรเลิกบุหรี่อย่างน้อย 4 – 5  เดือน ก่อนที่จะตั้งครรภ์  เพราะจะทำให้ปัญหาจากการสูบบุหรี่ที่มีต่อทารกในครรภ์ลดน้อยลงนอกจากนี้จาก การศึกษาพบว่า  การอดบุหรี่เพียง 1 เดือนก่อนคลอด  ก็สามารถช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างคลอดทารกได้  การอดบุหรี่บางคนเรียกว่า  “การหักดิบ”  สำหรับแม่ท้องคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก  เพราะจะมีผลกระทบข้างเคียงตามมา  คือ  มีอาการนอนไม่หลับ  หงุดหงิด ปวดศีรษะ  อ่อนเพลีย  เป็นต้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะเลิกบุหรี่ก่อนที่จะวางแผนตั้งครรภ์  ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช  ในการปฏิบัติตัวก่อนตั้งครรภ์  ระหว่างตั้งครรภ์  และหลังคลอดอย่างเหมาะสม  เพื่อช่วยในการอดบุหรี่  และลดอาการพิษจากนิโคตินในบุหรี่  คุณแม่ควรดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 – 10 แก้ว  หรือดื่มน้ำผลไม้คั้นสด  เช่น  น้ำส้ม  น้ำแครอท  น้ำองุ่น  เป็นต้น  เลือกรับประทานผักผลไม้สด  งดดื่มชา  กาแฟ  น้ำอัดลม  และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  หรือออกกำลังกาย  เช่น  ว่ายน้ำ เล่นโยคะ  เพื่อการมีสมาธิที่ดี  กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่ลืมนึกถึงการสูบบุหรี่ได้

ที่มา: Dailytelegraph

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

แม่ยุคใหม่กับปัจจัยที่เสี่ยงต้อการคลอดลูกก่อนกำหนด

ไลฟ์สไตล์ของแม่ท้องที่เสี่ยงแท้ง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Muninth