เมื่อช่วงเวลาของการสอบ กำลังจะมาถึง สิ่งหนึ่ง ที่เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับการสอบเลยก็คือ “ การ อ่านหนังสือสอบ ” น้อง ๆ คนไหนที่เป็นหนอนหนังสืออยู่แล้ว การ อ่านหนังสือสอบ ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับ คนที่ไม่ได้รักในการอ่านอยู่แล้ว ก็ต้องทนนั่งติว นั่งหนังสือ เพื่อให้สามารถทำข้อสอบได้ แต่หากวันไหน ที่ไม่ได้ มีใจพร้อมจะอ่านอยู่แล้วนั้น เมื่ออ่านหรือติวไปซักพัก ก็จะไม่อยากทำ อยากเลิก แน่นอนเราค่อนข้างแน่ใจว่า จะต้องมีหลายคนที่มีอาการดังกล่าว วันนี้ เราเลบยอยากมาแนะนำ 6 วิธีคิดง่าย ๆ เพื่อให้เรา กลับมามีไฟในการอ่านหนังสือสอบกัน
1
- เป้าหมายของเรา ต้องชัดเจน
ต้องเริ่มต้น ที่การมองให้ห็นว่า เป้าหมายที่เราตั้งไว้นั้น มันยิ่งใหญ่ และสำคัญมากขนาดไหน จินตนาการว่า หากตัวเองทำสำเร็จ ก็จะได้เป็นแบบนี้นะ (วาดภาพในฝันไว้ ) เช่น หากอยากเป็นหมอมาก ๆ เพราะอยากช่วยเหลือผู้อื่น น้อง ๆ ก็ต้องมองให้เห็นภาพตัวเองที่เป็นหมอกำลังรักษาผู้อื่นอยู่ ซึ่งไอ้ภาดจากจินตนาการนี่แหละ ที่จะเป็นแรงผลักดันให้ ตัวเราไปให้ถึง ในสิ่งที่เราฝันไว้ให้ได้ และ หากจาะไปให้ถึงวันนั้น แน่นอน เราต้องเริ่มจากวันนี้!!
- นึกถึงความผิดหวัง เสียใจในอดีต และเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้
หลาย ๆ คนคงเคยสอบได้คะแนนไม่ดี เช่น คะแนนสอบวัดกลางภาคเรียน GAT/PAT รอบที่ผ่านมา ที่มันคฝวรจะได้มากกว่าที่เป็น แต่กลับได้นิดเดียว หายแทบไม่เหลือ ไม่ว่าผิดหวังด้วยอะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็คงต้องจัดการชีวิตเสียใหม เริ่มขยัน และควรจะเข้มงวดกับการ อ่านหนหังสือ จัดตารางอ่านหนังสืออย่างจริงจัง ตั้งใจอ่านหนังสือให้มากขึ้น พยายามให้มากขึ้น และคิดกับตัวเองเสมอว่า “เราต้องไม่พลาดอย่างนั้นอีก!” หากคิดได้แบบนี้ ความคิดจะช่วยผลักดันเราให้กลับมาม่ไฟเพิ่มขึ้น พร้อมที่จะลุกไปอ่านหนังสือได้บ้างล่ะ
- มองคนรอบตัว ให้เป็นทั้งสิ่งเปรียบเทียบ และผลักดัน
ไม่ว่าจะเป็น หมอ วิศวะ หรือสถาปนิก ทั้งเรา และเพื่อนจะต้องมีซักสายอาชีพที่อยากเป็น หากเราคิดว่า คนรอบข้างเราล้วนแล้วแต่เป็นคุ่สแข่งของเรา แล้วเมื่อถึงวัีนประกาศผล แล้วพวกเขาทำสำเร็จ แต่เราพลาดละ คนพวกนั้นจะมองเราสึกอย่างไร พ่อแม่ คนรอบข้างเราละ เค้าจะเสียใจมั้ย เพราะฉะนั้นหากเราไม่อยาก ให้คนรอบข้างดูถูกหรือ ผิดหวังในตัวเรา เราต้องทำสิ่ง ตรงหน้า่เราให้สำเร็จ ให้ได้ แล้วหยิบหนังสือ ขึ้นมาตั้งใจอ่านพร้อทมออกไปทำฝันให้่สำเร้จกันเถอะ
2
- มองว่าคนอื่น อยู่เหนือกว่าเราเสมอ
เมื่อผลออกมา และ คะแนไม่ตรงตามที่เราคาดไว้ บางคนออาจจะ มีความคิดว่า “มันต้องมีคนที่ได้คะแนนแย่กว่าเราบ้างละ” หากใครกำลังคิดอย่างนี้ หยุด ! ซะเดี๋ยวนี้เลย สิ่งที่ควรทำ คือเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เขาเหนือกว่า และพยายามแข่งขันกับเขาดีกว่านะ เพราะหากมอง แค่คนที่อ่อนกว่าเรา เราจะดูกเก่งอยู่าเสมอ แต่ หากเมื่อไร ที่เราเอาตัวไปเปรียบกับคนที่เขาเก่งเขาอยู่สูงกว่า มันจะมีความรู้สึกอยากได้ อยากไเป็นอยากเขาจะเกิดขึ้น และให้เรายึดเอาตรงนั้นแหละมาเป็นรแรงผลักดัน
- ไปนั่งอ่านกับเพื่อนที่ขยันอ่านหนังสือ
วิธีนี้ใช้ได้ผลแน่นอน เพราะเมื่อเราได้อ่าน ได้ติวกับคนขยัน ๆ การอ่านหนังสือก็จะเหมือนเป็นการบังคับให้เราต้องอ่านไปกับเขาด้วย อาจเนื่องมาจากกดดันที่เห็นเพื่อนอ่าน หรือจะเพราะไม่มีใครรบกวนสมาธิทำให้อ่านได้นาน ที่สำคัญ ข้อดีของการที่ไปติวหนังสือกับคนขยันๆ พวกเขาจะช่วยกระตุ้นให้เรา ได้ อ่านได้ทำ ได้ถาม ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ แนั่นหมายความว่า เราจะได้คำตอบ ในสิ่งที่เราไม่ทราบนั่นเอง
3
- พักสักนิดก่อนกลับมาลุยต่อ
ในกรณีที่น้องหมดไฟจริง ๆ หรือไม่ไหวจริง ๆ ทำยังไงก็อ่านหนังสือต่อไม่ไหว ไม่มีสมาธิในการอ่าน สิ่งที่ดีที่สุด คือพักจากสิ่งตรงหน้า ซธก่อน ถ้าง่วง ก็อาจงีบหลับซัก 10-15 นาที หรือเดินไปหากิจกรรมอย่างอื่นทำ สักพัก เช่น ดูทีวี ฟังเพลง เดินเล่นนอกบ้าน เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย แล้วค่อยกลับมาตั้งใจอ่านอย่างจริงจัง แต่มีข้อควรระวังคืออย่าไปพักผ่อนเพลินจนไม่กลับมาอ่านหนังสือละ ไม่งั้นก็จะไม่ได้อะไรเลย
ที่มา : tcasportfolio.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรงเรียนนี้ที่แม่เลือก: โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า พระราม 5 รีวิวโดยคุณแม่แอน-น้องนะโม (School Hit)
นักเรียนชั้น ป.6 ม.3 แห่สมัครสอบโอเน็ต ยอดรวมกว่า 9 แสน คน
การจัดการทดสอบ O-NET ชั้น ป.6 ม.3 และ V-NET ปวช.3 ปีการศึกษา 2563