อยากทำประกันสุขภาพให้ลูก เลือกทำประกันสุขภาพเด็กแบบไหนดี ประกันแบบไหนคุ้มที่สุด

อยากทำประกันสุขภาพให้ลูก ไม่ต้องคิดนาน ประกันเด็ก ซื้อได้เลยไม่ต้องรอ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ อยากทำประกันสุขภาพให้ลูก อาจมีข้อสงสัยว่า เหตุใดเบี้ยประกันของเด็กเล็กจึงสูงกว่าของเด็กโต ซึ่งความแตกต่างของเบี้ยประกันนี้เอง เป็นสาเหตุให้คุณพ่อคุณแม่บางท่านตัดสินใจรอให้ลูกโตอีกสักนิด เพื่อให้เบี้ยประกันถูกลง จึงค่อยทำประกันให้ลูก ซึ่งจริง ๆ แล้ว สาเหตุที่ทำให้เบี้ยประกันของเด็กเล็กสูงกว่าเด็กโต ทั้ง ๆ ที่โดยส่วนมากเบี้ยประกันจะสูงขึ้นตามอายุของผู้ทำประกันนั้น มีดังนี้ 

• ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กแรกเกิด – 5 ปี ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ จึงมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ ได้มากกว่า บ่อยกว่า และหนักกว่าเด็กโต
• เด็กเล็กยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากมาย
• เนื่องจากเด็กวัยนี้ยังไม่สามารถสื่อสารได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าไม่สบายตรงไหน หรือเจ็บป่วยมากน้อยเพียงใด
• จากสถิติพบว่ายอดเคลมประกันของเด็กเล็กวัยแรกเกิด – 5 ปี มีความเสี่ยงในการเคลมประกันมากกว่าเด็กโต

ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง ส่งผลให้เบี้ยประกันของเด็กวัยแรกเกิด – 5 ปี มีราคาแพงกว่าเด็กโต แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับค่ารักษาพยาบาลแต่ละครั้งที่สูงลิบลิ่วแล้ว อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องหันมาพิจารณาความสำคัญในการทำประกันสุขภาพให้ลูกน้อยวันแรกเกิด – 5 ปี กันอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยไม่ต้องรอให้ลูกโต รอให้ลูกป่วย หรือเลือกทำประกันสุขภาพเด็กเล็กที่ค่าเบี้ยถูกลง แต่มีเงื่อนไขไม่ครอบคลุมเมื่อเจ็บป่วยบางโรค และเมื่อลองมองภาพรวมแล้ว การเลือกทำประกันสำหรับเด็กที่ค่าเบี้ยสูงขึ้นอีกนิด แต่คุ้มครองสุขภาพลูกน้อย รวมถึงสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ไปพร้อม ๆ กัน ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ฉลาดและคุ้มค่า

ประกันสุขภาพเด็ก คือ ประกันที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็ก ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยในกรณีที่เด็กเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ

ประกันสุขภาพเด็กแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

• ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่าย จ่ายเบี้ยประกันแบบรายปี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุดตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ มีข้อดีคือคุ้มครองค่าใช้จ่ายสูงได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย แต่มีข้อเสียคือเบี้ยประกันอาจสูง
• ประกันสุขภาพเด็กแบบแยกค่าใช้จ่าย จ่ายเบี้ยประกันแบบรายปี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงตามอัตราที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ มีข้อดีคือเบี้ยประกันอาจถูกกว่าแบบเหมาจ่าย แต่มีข้อเสียคือต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางส่วนก่อน แล้วจึงนำใบเสร็จไปเคลมกับบริษัทประกัน

นอกจากนี้ ยังมีประกันเด็กบางประเภทที่ให้ความคุ้มครองแบบผสมผสานระหว่างประกันสุขภาพเด็กและประกันอุบัติเหตุเด็ก เช่น ประกันสุขภาพแม่และลูก เป็นต้น

ประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพเด็ก

• ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในกรณีที่เด็กเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ
• ช่วยให้เด็กได้รับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ
• ช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เปรียบเทียบประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเหล่านี้ประกอบด้วย

• วงเงินความคุ้มครอง วงเงินความคุ้มครองที่สูงขึ้น หมายถึงค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมได้มากขึ้น แต่เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
• ค่าเบี้ยประกัน ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุของผู้เอาประกันภัย วงเงินความคุ้มครอง ระยะเวลาความคุ้มครอง เป็นต้น
• ความคุ้มครอง ประกันสุขภาพเด็กบางแผนอาจครอบคลุมค่าใช้จ่ายเฉพาะค่ารักษาพยาบาล ส่วนบางแผนอาจครอบคลุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าฉีดวัคซีน ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ เป็นต้น
• เงื่อนไขความคุ้มครอง เงื่อนไขความคุ้มครองของแต่ละบริษัทประกันอาจแตกต่างกัน ตัวอย่างเงื่อนไขความคุ้มครองที่ควรพิจารณา เช่น โรคที่ยกเว้นความคุ้มครอง ระยะเวลารอคอย เป็นต้น

วิธีเลือกซื้อ ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก

1. ศึกษาแผนความคุ้มครองจากหลาย ๆ บริษัท ดูว่าประกันฉบับนี้คุ้มครองในเรื่องอะไรบ้าง เช่น อุบัติเหตุ เจ็บป่วย ผู้ป่วยใน (IPD*) และผู้ป่วยนอก (OPD*) หรือความคุ้มครองผลประโยชน์อื่น ๆ หรือเอกสารแนบท้ายที่ทางประกันคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น ค่าทันตกรรม ค่าดูแลโดยพยาบาลพิเศษ เป็นต้น โดยเลือกตามความต้องการของคุณเองเป็นหลัก
2. วงเงินคุ้มครองที่เหมาะสม ประกันสุขภาพเด็กโดยทั่วไปจะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ แบบแยกค่าใช้จ่าย และแบบเหมาจ่าย หากคุณต้องการจ่ายเบี้ยน้อยแนะนำให้เลือกความคุ้มครองแบบแยกค่าใช้จ่ายที่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายตามจริงดีกว่า โดยอาจจะอ้างอิงกับการพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำ จากนั้นมาคำนวณค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อลูกต้องนอนโรงพยาบาล
3. ชำระเบี้ยประกันต้องอยู่ในกำลังทรัพย์หรือวงเงินที่เหมาะกับตัวเอง หลายบริษัทสามารถให้คุณเลือกชำระเบี้ยประกันได้ทั้งแบบรายเดือน และรายปี หรือแม้แต่การผ่อนชำระ
4. เข้าใจระยะเวลารอคอย ระยะรอคอย (Waiting Period) เป็นระยะเวลาที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณทำประกันสุขภาพแล้วรอการอนุมัติกรมธรรม์ เพื่อป้องกันการเรียกค่าสินไหมเกินจากสภาพที่เป็นมาก่อนเอาประกันภัย โดยแต่ละบริษัทจะกำหนดระยะเวลารอคอยแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแผนประกันแต่ละประเภท ดังนั้น ก่อนซื้อควรดูว่ามีระยะรอคอยเท่าไหร่ถึงจะสามารถใช้ได้
5. เลือกซื้อจากบริษัทนายหน้าหรือตัวแทนที่น่าเชื่อถือ ควรซื้อประกันจากนายหน้า หรือตัวแทนที่มีความจริงใจ ตรงไปตรงมา และสามารถติดต่อได้ง่ายเมื่อต้องการขอคำปรึกษา

*IPD หรือ ผู้ป่วยใน คือเงินที่บริษัทประกันจะจ่ายให้เมื่อมีการนอนค้างคืนที่โรงพยาบาล โดยมีค่าห้องกับค่าอาหาร

*OPD หรือ ผู้ป่วยนอก คือเป็นเงินที่ทางบริษัทจะจ่ายแทนสำหรับค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอแต่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล

ประกันสุขภาพเด็กแตกต่างจากของผู้ใหญ่อย่างไร

• ความคุ้มครอง ประกันสุขภาพเด็กส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง แต่อาจมีข้อยกเว้นบางโรคที่ไม่สามารถคุ้มครองได้ เช่น โรคทางพันธุกรรม โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เป็นต้น ประกันสุขภาพผู้ใหญ่จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคทั่วไป โรคร้ายแรง รวมถึงโรคทางพันธุกรรม โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เป็นต้น
• วงเงินความคุ้มครอง ประกันสุขภาพเด็กส่วนใหญ่จะมีวงเงินความคุ้มครองที่ต่ำกว่าประกันสุขภาพผู้ใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทประกันต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากในกรณีที่เด็กป่วยเป็นโรคร้ายแรง
• ระยะเวลาความคุ้มครอง ประกันสุขภาพเด็กส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองไม่เกิน 20 ปี ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก ประกันสุขภาพผู้ใหญ่จะให้ความคุ้มครองได้นานกว่า โดยบางแผนอาจให้ความคุ้มครองตลอดชีพ
• ค่าเบี้ยประกัน ค่าเบี้ยประกันประกันสุขภาพเด็กจะต่ำกว่าประกันสุขภาพผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กมีโอกาสป่วยน้อยกว่าผู้ใหญ่

นอกจากนี้ ประกันสุขภาพเด็กบางแผนอาจให้ความคุ้มครองอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าฉีดวัคซีน ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน เป็นต้น ซึ่งประกันสุขภาพผู้ใหญ่อาจไม่มีความคุ้มครองเหล่านี้

เปรียบเทียบประกันสุขภาพสำหรับเด็ก 5 เจ้า

ตารางนี้เปรียบเทียบข้อมูลหลักๆ ของประกันสุขภาพเด็ก 5 เจ้า ได้แก่ ชื่อประกัน ความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน วงเงินความคุ้มครอง และระยะเวลาความคุ้มครอง ซึ่งข้อมูลอาจแตกต่างกันไปตามแผนประกันที่เลือก ผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพเด็กควรศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ประกันที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับความต้องการของครอบครัว

นอกจากข้อมูลในตารางแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาในการเลือกประกันสุขภาพเด็ก ได้แก่

• โรคที่ยกเว้นความคุ้มครอง แต่ละบริษัทประกันอาจยกเว้นความคุ้มครองบางโรค เช่น โรคทางพันธุกรรม โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เป็นต้น
• ระยะเวลารอคอย ระยะเวลารอคอยคือระยะเวลาที่บริษัทประกันจะไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากโรคหรืออาการที่ระบุไว้ในช่วงระยะเวลารอคอย
• ความคุ้มครองอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพเด็กบางแผนอาจให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุเพิ่มเติม เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำฟัน เป็นต้น

การเลือกประกันสุขภาพเด็กควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ข้างต้นอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ประกันที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับความต้องการของครอบครัว

ประกันสุขภาพแม่ลูก ดี เฮลตี้ แคร์ พลัส (กรุงเทพประกันชีวิต)

เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็กและแม่ โดยให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ครอบคลุมทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง

ความคุ้มครอง

• ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุด 10 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ
• ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุด 5,000 บาทต่อครั้ง ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ
• ความคุ้มครองอื่นๆ
  • ค่าฉีดวัคซีน
  • ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
  • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
  • ค่ารักษาพยาบาลทันตกรรม
  • ค่ารักษาพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพ

ระยะเวลาความคุ้มครอง

สูงสุด 20 ปี

ค่าเบี้ยประกัน

เริ่มต้น 4,990 บาทต่อปี

เงื่อนไข

• ผู้เอาประกันภัยหลักต้องมีอายุระหว่าง 18-60 ปี
• ผู้เอาประกันภัยเด็กต้องมีอายุระหว่าง 30 วัน-15 ปี
• ระยะเวลารอคอย 30 วัน

ตัวอย่างการคำนวณเบี้ยประกัน

• ผู้เอาประกันภัยหลักอายุ 35 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
• ผู้เอาประกันภัยเด็กอายุ 1 ปี
• เบี้ยประกันปีแรก 4,990 บาท

ข้อดี

• ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
• ให้ความคุ้มครองอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าฉีดวัคซีน ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน เป็นต้น

ข้อเสีย

• เบี้ยประกันอาจสูง

สรุป

ประกันสุขภาพแม่ลูก ดี เฮลตี้ แคร์ พลัส เป็นประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็กและแม่ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่ต้องการความคุ้มครองที่มั่นคงและครบวงจร

ประกันสุขภาพแม่และลูก ดี คิดส์ พลัส (เมืองไทยประกันชีวิต)

เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็กและแม่ โดยให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ครอบคลุมทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง

ความคุ้มครอง

• ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุด 5 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ
• ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุด 1,000 บาทต่อครั้ง ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ
• ความคุ้มครองอื่นๆ
  • ค่าฉีดวัคซีน
  • ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
  • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
  • ค่ารักษาพยาบาลทันตกรรม
  • ค่ารักษาพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพ

ระยะเวลาความคุ้มครอง

สูงสุด 15 ปี

ค่าเบี้ยประกัน

เริ่มต้น 1,500 บาทต่อปี

เงื่อนไข

• ผู้เอาประกันภัยหลักต้องมีอายุระหว่าง 18-60 ปี
• ผู้เอาประกันภัยเด็กต้องมีอายุระหว่าง 30 วัน-10 ปี
• ระยะเวลารอคอย 30 วัน

ตัวอย่างการคำนวณเบี้ยประกัน

• ผู้เอาประกันภัยหลักอายุ 35 ปี เลือกแผนความคุ้มครอง 2 ล้านบาท
• ผู้เอาประกันภัยเด็กอายุ 1 ปี
• เบี้ยประกันปีแรก 1,500 บาท

ข้อดี

• ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
• ให้ความคุ้มครองอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าฉีดวัคซีน ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน เป็นต้น
• เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 1,500 บาทต่อปี

สรุป

ประกันสุขภาพแม่และลูก ดี คิดส์ พลัส เป็นประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็กและแม่ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่ต้องการความคุ้มครองที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณ

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.muangthai.co.th/th/health-insurance/d-kids-plus 

ประกันสุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์ (อลิอันซ์ อยุธยา)

เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็ก โดยให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ครอบคลุมทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง

ความคุ้มครอง

• ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุด 8 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ
• ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงสุด 2,000 บาทต่อครั้ง ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ
• ความคุ้มครองอื่นๆ
  • ค่าฉีดวัคซีน
  • ค่าแพทย์เยี่ยมไข้
  • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
  • ค่ารักษาพยาบาลทันตกรรม
  • ค่ารักษาพยาบาลฟื้นฟูสมรรถภาพ

ระยะเวลาความคุ้มครอง

สูงสุด 20 ปี

ค่าเบี้ยประกัน

เริ่มต้น 1,800 บาทต่อปี

เงื่อนไข

• ผู้เอาประกันภัยเด็กต้องมีอายุระหว่าง 30 วัน-15 ปี
• ระยะเวลารอคอย 30 วัน

ตัวอย่างการคำนวณเบี้ยประกัน

• ผู้เอาประกันภัยเด็กอายุ 1 ปี
• เลือกแผนความคุ้มครอง 5 ล้านบาท
• เบี้ยประกันปีแรก 1,800 บาท

ข้อดี

• ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งโรคทั่วไปและโรคร้ายแรง
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
• ให้ความคุ้มครองอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าฉีดวัคซีน ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน เป็นต้น
• เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 1,800 บาทต่อปี
• โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ “เบิ้ลวงเงิน” เมื่อตรวจเจอโรคร้ายแรง 1 ใน 10 โรค

สรุป

ประกันสุขภาพ ปลดล็อค ดับเบิล แคร์ เป็นประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมสำหรับเด็ก เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่ต้องการความคุ้มครองที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณ โดยมีจุดเด่นคือฟีเจอร์ “เบิ้ลวงเงิน” เมื่อตรวจเจอโรคร้ายแรง 1 ใน 10 โรค

รายละเอียดเพิ่มเติม https://life.azay.co.th/th_TH/products-index/health-products-index/lump-sum-products-index/my-health-plus-double-care.html

ประกันสุขภาพเด็ก โอเชี่ยนไลฟ์ เฮลท์ ฟอร์ คิดส์ จากไทยสมุทรประกันชีวิต

เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 10 ปี โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

ความคุ้มครอง

• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) สูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 5,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบทันตกรรม สูงสุด 10,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามแผนแม่และเด็ก สูงสุด 10,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัด สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีโรคร้ายแรง สูงสุด 100,000 บาทต่อปี

เงื่อนไขการรับประกันภัย

• เด็กแรกเกิดถึง 15 ปี
• สุขภาพแข็งแรง
• ไม่มีโรคประจำตัว

เบี้ยประกันภัย

• ขึ้นอยู่กับอายุและวงเงินความคุ้มครอง

ตัวอย่างเบี้ยประกันภัย

• เด็กอายุ 1 ปี วงเงินความคุ้มครอง 1 ล้านบาท เบี้ยประกันภัย 1,200 บาทต่อปี
• เด็กอายุ 5 ปี วงเงินความคุ้มครอง 2 ล้านบาท เบี้ยประกันภัย 2,400 บาทต่อปี
• เด็กอายุ 10 ปี วงเงินความคุ้มครอง 3 ล้านบาท เบี้ยประกันภัย 3,600 บาทต่อปี

ข้อดี

• ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายสูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัด สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีโรคร้ายแรง สูงสุด 100,000 บาทต่อปี

ประกันสุขภาพเด็ก โอเชี่ยนไลฟ์ เฮลท์ ฟอร์ คิดส์ จากไทยสมุทรประกันชีวิต เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็ก โดยให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยให้ผู้ปกครองอุ่นใจเมื่อลูกป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.ocean.co.th/our-products/health-insurance/oceanlife-health-for-kids

ประกันสุขภาพเด็ก iKid. กรุงไทย-แอกซ่า

เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 15 ปี โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 1,100,000 บาทต่อครั้ง ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

ความคุ้มครอง

• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) สูงสุด 1,100,000 บาทต่อครั้ง
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 2,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบทันตกรรม สูงสุด 10,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามแผนแม่และเด็ก สูงสุด 10,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัด สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีโรคร้ายแรง สูงสุด 100,000 บาทต่อปี

เงื่อนไขการรับประกันภัย

• เด็กแรกเกิดถึง 15 ปี
• สุขภาพแข็งแรง
• ไม่มีโรคประจำตัว

เบี้ยประกันภัย

• ขึ้นอยู่กับอายุและวงเงินความคุ้มครอง

ตัวอย่างเบี้ยประกันภัย

• เด็กอายุ 1 ปี วงเงินความคุ้มครอง 100,000 บาท เบี้ยประกันภัย 1,000 บาทต่อปี
• เด็กอายุ 5 ปี วงเงินความคุ้มครอง 200,000 บาท เบี้ยประกันภัย 2,000 บาทต่อปี
• เด็กอายุ 10 ปี วงเงินความคุ้มครอง 300,000 บาท เบี้ยประกันภัย 3,000 บาทต่อปี

ช่องทางการสมัคร

สามารถซื้อประกันสุขภาพเด็ก iKid. กรุงไทย-แอกซ่า ได้ที่ตัวแทนประกันชีวิต หรือช่องทางออนไลน์ของกรุงไทย-แอกซ่า

ข้อดี

• ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายสูงสุด 1,100,000 บาทต่อครั้ง
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีฉุกเฉิน สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผ่าตัด สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีโรคร้ายแรง สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
• เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียงหลักพันบาทต่อปี

ประกันสุขภาพเด็ก iKid. กรุงไทย-แอกซ่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับเด็ก โดยให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยให้ผู้ปกครองอุ่นใจเมื่อลูกป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ

หมายเหตุ

• ผู้ซื้อควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

บทความที่น่าสนใจ

ควรทำ ประกันสุขภาพเด็ก ตอนไหน เลือกอย่างไรให้คุ้มครองครบถ้วน

เช็กเงินสงเคราะห์บุตรประกันสังคม 2566 ใครมีสิทธิ์ได้รับบ้าง เช็กเลย