เกือบสามปีก่อน เมื่อมิเชล คุณแม่ท่านหนึ่งในทรอย รัฐนิวยอร์ก ได้ให้กำเนิดทารกแฝดคู่หนึ่งโดยให้ชื่อว่าโซฟีและลินคอล์น เด็กทั้งสองเป็นเด็กสดใสร่าเริงมาก แต่เรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้น เมื่อหมอได้ทำการทดสอบการได้ยินของเด็กๆ ทำให้พบว่า ลินคอล์นนั้นสามารถได้ยินตามปกติ แต่โซฟีกลับไม่ตอบสนองต่อเสียงใดๆเลย ทำให้มิเชลรู้แล้วว่า โซฟีนั้นหูหนวก
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะตอนที่มิเชลกำลังตั้งท้องอยู่นั้น ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองเป็นพาหะ และไวรัสดังกล่าวนั้นก็สามารถแพร่กระจายผ่านทางของเหลว จึงสันนิษฐานว่าโซฟีอาจจะติดในช่วงระหว่างที่ทำคลอดก็เป็นได้
ปัจจุบันหากมิเชลและครอบครัวต้องการสื่อสารกับโซฟีก็จะใช้ภาษามือกัน
เรามาทำความรู้จักเจ้าไวรัสร้ายตัวนี้กันดีกว่าค่ะ
ไวรัส CMV หรือ Cytomegalovirus นั้น เป็นไวรัสตัวเดียวกันกับกลุ่มเริม ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถติดได้ทั้งสิ้น ส่วนมากคนติดเชื้อนั้นจะไม่รู้ตัวว่าเป็นเพราะจะไม่แสดงอาการและไม่เป็นอันตราย แต่ในบางคนอาจมีอาการไข้ เจ็บคอ อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลืองต่างๆโต
กลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อมีทั้งหมด 3 กลุ่ม
1. เด็กที่อยู่ในครรภ์ที่แม่ได้รับเชื้อ ประมาณ 7-10% ของเด็กเหล่านี้จะเกิดในกรณีแม่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อนเลย แต่มาติดเชื้อเอาในระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่ได้รับเชื้อจะมีลักษณะแคระแกรนไม่โต แต่ตับโตม้ามโต เกร็ดเลือดต่ำ มีจ้ำเลือด สมองเล็ก โพรงสมองใหญ่ สมองเหี่ยว จอประสาทตาอักเสบ หูหนวก บางรายอาจทำให้พิการ รวมทั้งทำให้เด็กมีความรู้สึกช้า สูญเสียการได้ยิน และมีพัฒนาการช้า
2. ผู้ที่ได้รับยาหรือเวชกรรม เกิดจากการรักษาโดยใช้สารเคมีหรือการใช้ยาในการปลูกถ่ายอวัยวะ ถ้าติดเชื้อโดยวิธีเหล่านี้จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงมาก
3. ผู้ที่ไม่สามารถต้านทานการติดเชื้อ (ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ที่เป็นโรคเอดส์) จะทำให้อาการป่วยรุนแรงมาก
ไวรัสตัวนี้สามารถแพร่จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้ โดยผ่านทางการจูบและการสัมผัสน้ำลายหรือการสัมผัสปัสสาวะ ในสตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้ออาจจะแพร่ไวรัสที่มีผลต่อการพัฒนาของเด็กไปยังเด็กในครรภ์ เด็กอาจจะติดเชื้อระหว่างคลอดและที่คลอดใหม่ และจากน้ำนมที่ดื่ม
เชื้อ ไวรัสCMV จะพบในของเหลวในร่างกาย เช่น ปัสสาวะ น้ำลาย อุจจาระ เลือด และส่วนประกอบของเลือด น้ำนมแม่ อสุจิ และของเหลวในมดลูก โดยไวรัสตัวนี้จะสามารถอยู่ในของเหลวเหล่านั้นเป็นเดือน-ปี ภายหลังจากได้รับเชื้อ
ณ ตอนนี้ยังไม่มียาหรือวัคซีนใดที่สามารถหาทางรักษาได้ ทำได้แต่เพียงแนะนำวิธีการป้องกัน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อดังนี้:
- ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ
- ทิ้งผ้าอ้อมเด็กที่ใช้แล้ว
- อย่าใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น มีดโกน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่มีการติดเชื้อ CMV
- การปฏิบัติทางเพศที่ปลอดภัย
ขอบคุณที่มา: https://www.littlethings.com และ https://medical-notes-help.com
บทความอื่นที่สัมพันธ์กัน: