ย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อน ภายหลังจากที่สำนักข่าวจีนได้รายงานว่า พบหนูน้อยชาวจีนมี 31 นิ้ว โดยมีนิ้วมืองอกเพิ่มขึ้นมาจากข้างซ้าย 3 นิ้ว ข้างขวา 2 นิ้ว รวมเป็น 15 นิ้ง และในส่วนของนิ้วเท้ารวมแล้ว 16 นิ้ว โดยมีนิ้วงอกเพิ่มออกมากอีกข้างละ 3 นิ้ว
ซึ่งครอบครัวของหนูน้องกล่าวว่า ก่อนที่น้องจะคลอดออกมา ทุกอย่างดูเป็นปกติดี แพทย์สันนิษฐานว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะเกิดจากพันธุกรรม เนื่องจากแม่ของหนูน้อยรายนี้ก็มีนิ้วงอกเกินออกมาเช่นเดียวกัน
แพทย์กล่าวว่า จะให้การช่วยเหลือหนูน้อยรายนี้ ให้หายเป็นปกติดีด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้จำนวนเงินมหาศาล แต่โชคดีที่มีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง Ningbo ทราบเรื่องจึงให้ความช่วยเหลือครอบครัวของหนูน้อยด้วยการลดค่าใช้จ่ายให้ และสัญญาว่า จะดูแลเคสของหนูน้อยรายนี้เป็นอย่างดี และจะคอยเฝ้าดูแลติดตามอาการจนกว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้น และหากไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนูน้อยจะสามารถหายเป็นปกติได้ทันก่อนเข้าเรียน
เท้าผิดรูปในเด็กแรกเกิดที่พบได้นั้นมีอะไรบ้างมาดูกัน
- นิ้วเท้ามีลักษณะเกหรือเอียงไป โดยนิ้วนิ้ว เกหรือนิ้วงุ้ม มักเกิดกับนิ้วนางและนิ้วก้อย ถ้าสังเกตดูเท้าของคุณพ่อคุณแม่ก็อาจพบลักษณะแบบเดียวกัน เนื่องจากมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยทั่วไปนิ้วจะงอค่อนข้างมากในช่วงแรกเกิด แต่จะค่อย ๆ งอน้อยลงเมื่อโตขึ้น และมักไม่มีผลเสียอะไรชัดเจน การรักษาเป็นการสังเกตอาการเป็นส่วนใหญ่ ไม่พบว่าการดามนิ้วจะทำให้นิ้วหายดีกว่าการค่อยๆ สังเกตอาการไป มีน้อยคนมากที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนิ้วยังผิดรูปมาก และเดินเจ็บจนอาจจะต้องรักษาโดยการผ่าตัด
- นิ้วเท้าอาจมีจำนวนมากหรือน้อยกว่าเท้าละ 5 นิ้ว ปกติ นิ้วที่ขาดไปมักไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไร และสังเกตเห็นได้ยาก แต่นิ้วที่เกินอาจเบียดกันในรองเท้า และทำให้เจ็บนิ้วเท้าได้ ปัญหาเรื่องรองเท้าบีบแก้ไขโดยใส่รองเท้าที่หัวกว้าง แต่ในบางคนส่วนเกินมีมาก แม้ใส่รองเท้าหัวกว้างก็ยังเจ็บ อาจต้องรับการรักษาโดยการผ่าตัดนิ้วส่วนที่เกินออก
- นิ้วเท้าติดกัน มักไม่เป็นปัญหาหากนิ้วเชื่อมติดกันตลอดทั้งนิ้ว แต่หากมีส่วนของนิ้วที่เป็นร่องระหว่างกันเหลืออยู่ ก็จะทำให้ทำความสะอาดร่องนิ้วเท้าลำบาก มีสิ่งสกปรกหมักหมมได้ การรักษาใช้การผ่าตัดแยกนิ้ว
- เท้ากระดกขึ้นและบิดออกข้าง เป็นลักษณะของเท้าผิดรูปที่พบบ่อยที่สุด คือหลังเท้าจะวางแนบไปกับกระดูกหน้าแข้ง พบบ่อยในเด็กท้องแรก เชื่อว่าเป็นจากการที่มดลูกของแม่ยังไม่เคยขยายตัวมาก่อน เมื่อเด็กโตขึ้นการขยับตัวลำบากเพราะถูกเบียดอยู่ในมดลูก เท้าไปยันกับผนังมดลูกอยู่หลายเดือน เมื่อคลอดออกมาเท้าจึงมีการกระดกผิดรูปค้างอยู่ ความผิดปกตินี้ดูน่าตกใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่มาก แต่ยังโชคดีที่หลังคลอด เท้าได้มีโอกาสขยับได้เต็มที่ ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ก็จะค่อย ๆ หายได้เอง
- โรคเท้าปุก เป็นโรคของเท้าที่พบบ่อย คือส้นเท้ามีลักษณะบิดเข้าใน ขอบข้างของเท้าโค้งมาก และเท้าอยู่ในท่าเขย่งเมื่อจับเท้าขยับดูจะพบว่าขยับเท้าได้ยาก เพราะข้อต่าง ๆ จะยึดตั้งแต่ปลายเท้าถึงข้อเท้า โรคนี้อาจเกิดร่วมกับโรคอื่น ๆ อีกหลายโรค ดังนั้น เมื่อวินิจฉัยโรคนี้ได้แล้ว ควรมองหาว่ามีโรคอื่นเกิดร่วมด้วยหรือไม่ โชคดีที่ปัจจุบันมีวิธีการรักษาโดยการค่อย ๆ ดัดเท้าผู้ป่วยแล้วใส่เฝือก ได้ผลดีมาก ข้อสำคัญต้องเริ่มรักษาตั้งแต่อายุน้อยๆ เริ่มรักษาได้ตั้งแต่เกิดมาวันแรก บางคนเริ่มรักษาช้าก็ยังรักษาได้ แต่อาจต้องรักษาโดยการผ่าตัด โรคนี้มีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดังนั้น หากพ่อแม่เคยเป็นโรคนี้ ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าเด็กทั่วไป
- โรคเท้าโค้ง เกิดจากส่วนครึ่งหน้าของเท้าโค้งเข้า เมื่อมองเท้าจากด้านฝ่าเท้า จะเห็นขอบข้างของเท้าโค้ง หากเป็นไม่มากนัก ลองเอามือดัดดู อาจพบว่าเท้าถูกดันไปอยู่ในแนวตรงได้ ในเด็กกลุ่มที่มีอาการไม่มาก เมื่อสังเกตอาการไป เท้าอาจค่อย ๆ ตรงได้เองใน 6-12 เดือน แต่ในกรณีที่เป็นรุนแรงไม่สามารถดัดเท้าให้ตรงได้ควรรักษาโดยการใส่เฝือก เด็กที่ได้รับการรักษาตั้งแต่ยังเล็ก มักหายดีโดยไม่ต้องผ่าตัด โรคนี้อาจพบร่วมกับข้อสะโพกหลุดแต่กำเนิด จึงมีความสำคัญที่จะต้องตรวจร่างกายส่วนสะโพกให้ละเอียด หากไม่แน่ใจผลการตรวจ อาจพิจารณาตรวจอัลตร้าซาวนด์ของสะโพกร่วมด้วย
ที่มา: Fox News และ Bangkok Hospital