หน้าหนาวนี้ พาเที่ยวลำปาง เมืองแห่งรถม้า ที่ไม่ได้มีดีแค่รถม้า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หน้าหนาวนี้ theAsianparent จะพาเที่ยวลำปาง หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แต่แน่นอนว่า ตั้งจุดหมายปลายทางไว้ที่ภาคเหนือแล้ว งั้นตามเรามา เราจะ พาเที่ยวลำปาง เมืองแห่งรถม้า ที่ไม่ด้มีดีแค่รถม้า ไปดูกันว่า มีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง ที่น่าสนใจใน ลำปาง ตามมา

 

 

รวมที่เที่ยวลำปาง เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่รถม้า

1. วัดพระธาตุลำปางหลวง

วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่า มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลาย เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย พระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนา ภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่าง ๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลให้พระธาตุหริภุญไชยและพระบรมธาตุจอมทอง ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาและพระอัฐิธาตุจากพระนลาฏข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระธาตุมีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่ 

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. วัดพระธาตุดอยพระฌาน

ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน  สามารถมองเห็นทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะ เห็นทิวเขาต้นไม้เขียวขจีได้รอบทิศ ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวในช่วงเวลาเช้าสามารถชมทะเลหมอกอันงดงามได้อีกด้วย 

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. วัดพุทธบาทสุทธาวาส

ชื่อเดิม วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) หรืออีกชื่อที่ชาวบ้านนิยมเรียกกัน คือ “ดอยปู่ยักษ์ (ดอยพระบาทปู่ผาแดง)” ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว “Unseen Thailand” ด้วยความงดงามของทิวทัศน์ที่มีลักษณะเป็นผาหินสูงชัน ประกอบกับเจดีย์สีทองที่สร้างอยู่บนภูเขาสูง ณ จุดสูงสุดของเจดีย์มีรอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ วัดในบริเวณชั้นล่าง นักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปจอดในบริเวณหน้าวัดได้ ส่วนวัดบริเวณชั้นบน ตั้งอยู่บนยอดเขา นักท่องเทียวต้องขับรถขึ้นไป ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ต่อจากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาประมาณ 1 กิโลเมตร  

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีธารน้ำแร่ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติที่สวยงามแทรกอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 70-80 องศาเซลเซียส สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ไข่มีลักษณะไข่แดงสุก ไข่ขาวสุกไม่แข็ง เหมือนมะพร้าวอ่อน เมื่อนำมาปรุงเป็น “ ยำไข่แช่น้ำแร่ ” ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อ บริเวณน้ำตกแจ้ซ้อนและอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร ธารน้ำจากน้ำตกแจ้ซ้อนไหลมาบรรจบกับธารน้ำร้อน จากน้ำแร่กลายเป็นธารน้ำอุ่น ทางอุทยานฯ จึงสร้างที่อาบน้ำแร่มาตรฐานเพื่อบริการนักท่องเที่ยวเพื่อจะได้มาแช่น้ำแร่ เหมาะสำหรับผู้ที่จะไปเที่ยวแบบครอบครัว สามารถเที่ยวได้ตลอดปี 

 

 

5. ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อสิบปีก่อนที่อำเภองาว เพื่อฝึกช้างให้ออกไปทำงานด้านชักลากไม้ในป่า แต่ช่วงยี่สิบปีถัดมา รัฐได้ยกเลิกสัมปทานการทำป่าไม้ทั่วประเทศ ทำให้ช้างไม่มีที่อยู่ที่ทำงาน และถูกส่งกลับมาอยู่ที่โรงเรียนฝึกช้าง แต่พื้นที่ที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับช้างทั้งหมดได้ จึงได้ย้ายสถานที่มาอยู่ที่อำเภอห้างฉัตรในปัจจุบัน แบ่งพื้นที่เป็นโรงพยาบาลช้าง คอยรักษาดูแลอาการช้างที่ป่วยและลูกช้างที่คลอดใหม่ โรงงานทำกระดาษจากมูลช้างจำหน่ายและเพิ่มมูลค่าด้วยการทำเป็นกระดาษเขียนจดหมาย ซองจดหมายสมุดโน้ต และอื่น ๆ โรงงานผลิตกระดาษจากมูลช้างเปิดให้เข้าชมวิธีทำกระดาษจากมูลช้างด้วย โรงงานทำปุ๋ยชีวภาพจากมูลช้างและโรงงานแก๊สชีวภาพนำไปผลิตไฟฟ้าใช้ภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย โรงช้างต้น และลานแสดงช้าง การแสดงช้างจะเน้นที่กิจกรรมของช้างที่เคยปฏิบัติในงานทำไม้เป็นหลัก ท่านที่ต้องการเรียนรู้การเป็นควาญช้าง ได้ฝึกช้างพร้อมกับได้ร่วมแสดงการแสดงช้าง หรือพักผ่อนค้างคืนที่นี่ ติดต่อศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย 

 

 

6. วัดศรีรองเมือง

วัดศรีรองเมือง เดิมชื่อ วัดท่าคะน้อยพม่า เป็นวัดพม่าอีกที่หนึ่งของเมืองลำปางมีความสวยงาม สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๔๖  โดยคหบดีชาวพม่าที่เข้ามาทำไม้ในเมืองลำปาง ใช้เวลาในการสร้างประมาณ ๗ ปี ภายในมีศิลปะพม่าที่น่าสนใจคือ ตัววิหารสร้างด้วยไม้สัก หลังคาซ้อนเป็นชั้น ๆ แบบพม่า มีลายฉลุบนสังกะสี ใช้ประดับบนจั่วและเชิงชายคา ส่วนเสาไม้ในวิหารประดับด้วยกระจกหลากสี เดิมภายในวัดศรีรองเมืองมีทั้งวิหารใหญ่และวิหารน้อย สำหรับวิหารน้อยนั้นมีอยู่ถึง ๙ หลัง แต่ปัจจุบันวิหารน้อยเหล่านั้นปรักหักพังไปจนหมดสิ้น จึงเหลืออยู่เพียงวิหารใหญ่ซึ่งเป็นวิหารประธานของวัดเพียงหลังเดียว ปัจจุบันวัดมีอายุประมาณ ๑๐๓ ปี

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

7. วัดปงสนุกเหนือ

วัดปงสนุก เป็นวัดสำคัญของเมืองลำปาง แบ่งเป็น 2 วัด คือ วัดปงสนุกเหนือและวัดปงสนุกใต้ (อยู่ติดกัน) โดยสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ บุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ. 1223 อดีตมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ ตามหลักฐานในจารึกที่พบในที่ต่าง ๆ มีอยู่ 4 ชื่อ คือ วัดศรีจอมไคล วัดศรีเชียงภูมิ วัดดอนแก้ว วัดพะยาว (พะเยา) ส่วนที่มาของชื่อปงสนุก มาจากถิ่นเดิมในเมืองเชียงแสน เนื่องจากในอดีตชาวเชียงแสนถูกต้อนมาอยู่บริเวณนี้ เป็นแหล่งรวบรวมสิ่งสำคัญหลายอย่างที่มีคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม มีข้าวของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เช่น พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง เป็นต้น ซึ่งได้รับรางวัล (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO 

 

 

8. ถนนคนเดินกาดกองต้า

กาดกองต้า หรือตลาดจีน ที่ชาวบ้านเรียกติดปาก เป็นย่านตลาดเก่าตั้งอยู่ขนานกับลำน้ำวัง ในซอยตลาดจีนริมน้ำ มีอาคารโบราณอายุร้อยปี บนถนนตลาดเก่าตลอดทั้งสาย ชุมชนกาดกองต้าถือเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่มีความเป็นมาที่เก่าแก่และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ กาดกองต้า หมายถึงตลาดตรอกท่าน้ำ ในอดีตเคยเป็นตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากเมืองลำปางนั้นเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าของภาคเหนือ ย่านการค้าส่วนมากมักเกิดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่อย่างแม่น้ำวัง ทำให้เกิดชุมชนที่เข้ามาทำธุรกิจ เช่น อังกฤษ พม่า และจีน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาทำการค้ามากที่สุด จนกลายเป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงเรียกกาดกองต้าว่า ตลาดจีน ในปัจจุบันด้วยสำนึกรักบ้านเกิดของคนภายในชุมชน ได้ตกแต่งบูรณะฟื้นฟูให้อาคารเก่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง และกลายเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่สวยงามมีเอกลักษณ์ ยิ่งเมื่อได้มีการปลุกฟื้นชีวิตชีวาด้วยการจัดถนนคนเดินในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น. 

 

 

9. ถนนคนเดินสายวัฒนธรรม

ถนนวัฒนธรรม หรือถนนสายวัฒนธรรม ตั้งอยู่บนถนนวังเหนือ เข้าทางวัดประตูต้นผึ้ง หรือเข้าทางสะพานรัษฎาภิเศก ซึ่งเป็นแนวกำแพงเมืองเดิม บนถนนมีกู่เจ้าย่าสุตา สันนิษฐานว่าเป็นซุ้มประตูโขงของวัดกากแก้วในอดีต โดยเทศบาลนครลำปางได้เปิด “ถนนสายวัฒนธรรม” ซึ่งมีลักษณะเป็น “กาดหมั้วคัวแลง” สืบสานวิถีดั้งเดิม ทุกเย็นวันศุกร์ เวลา 16.00-21.00 น. เริ่มกิจกรรมมาแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2553 จนถึงปัจจุบัน สินค้าที่มาจำหน่ายมีหลากหลาย เช่น พืชผักปลอดสาร ต้นไม้ อาหารพื้นเมือง ขนมโบราณ สินค้าย้อนยุค ของเก่า เครื่องจักสาน กรอบพระ แกะสลัก เครื่องเงิน เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ทำมือ เซรามิค ของเล่น 

 

 

10. พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี

พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี ก่อตั้งโดยนายพนาสิน ธนบดีสกุล ทายาทรุ่นที่ 2 ของนายอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน วัตถุประสงค์ของการตั้งพิพิธภัณฑ์ก็เพื่อรักษาเกียรติประวัติของอาปาอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน ต้นตระกูลธนบดีสกุล ผู้ค้นพบแร่ดินขาวและก่อตั้งโรงงานเซรามิคแห่งแรกของลำปาง ซึ่งได้รวบรวมเรื่องราวและตำนาน “ชามไก่แห่งธนบดี” หนึ่งเดียวที่ยังคงอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจให้สมกับที่ลำปางเป็นเมืองแห่งเซรามิกของประเทศไทย ภายในพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติของบริษัทในเครือธนบดี ต้นกำเนิดชามไก่ต้นกำเนิดเซรามิกของเมืองลำปาง และสาธิตการผลิตชามไก่แบบโบราณ รวมถึงสามารถชมกระบวนการผลิตเซรามิกสมัยใหม่ได้อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเซรามิกและศิลปะให้กับผู้ที่สนใจ เปิดให้เช้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์

 

theAsianparent Thailand ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทริปครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็ก คาเฟ่เด็ก ฟาร์ม กิจกรรม 1 เดย์ทริป กิจกรรมสำหรับครอบครัว ทั้งทะเล ภูเขา ที่พักหลากสไตล์ทั้งแบบแคมป์ แบบพูลวิลล่า ที่พักริมหาด ที่พักติดทะเล ที่พักอิงแอบแนบภูเขา ให้ลูกได้ออกไปเรียนรู้กับธรรมชาติ สายลม แสงแดดและหาดทราย เสริมสร้างการเรียนรู้และพัฒนาการได้สมวัย เสริมสร้างทักษะทางสังคมและสติปัญหา สามารถปรับตัวและเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมต่างถิ่น การใช้ชีวิตกับผู้อื่นและมารยาททางสังคม

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

ชมและชิล ที่ท่องเที่ยวใจกลางธรรมชาติที่ บ้านแม่กำปอง

เชียงใหม่ เที่ยวไหนดี แจกทริป สถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือ 3 วัน 2 คืน

ตื่นรับแสงแรกของวันใหม่ และจิบกาแฟรสเลิศชุมชน ชาวเขาเผ่าอาข่า ดอยผาฮี้

ที่มา : 1, 2

บทความโดย

@GIM