สุดสงสาร! ทารกป่วย โพรงสมองคั่งน้ำ กลับถูกคนใจร้ายเรียก เด็กผี เว็บไซต์ดัง ของประเทศอังกฤษอย่าง Mirror รายงานว่า คณะแพทย์จาก All India Institute of Medical Sciences (AIIMS) ที่นครบูบันเนสชวาร์ รัฐโอริศา ทางตะวันออกของอินเดีย ประสบความสำเร็จ ในการผ่าตัด ด.ช.มริตยุนจาย ดาส อายุ 7 เดือน ผู้น่าสงสารที่ป่วยเป็น โพรงสมองคั่งน้ำ อีกทั้งยังถูกคนใจร้ายเรียก เด็กผี ซึ่งกะโหลกศีรษะมีเส้นรอบวงใหญ่ที่สุดในโลก 96 เซนติเมตร เนื่องจากภาวะ โพรงสมองคั่งน้ำ
นายกามะเลศ และ นางกวิตา ผู้เป็นบิดา และ มารดา กล่าวว่า ครอบครัวถูกเพื่อนบ้าน และ ชาวหมู่บ้านรังเกียจ ที่ลูกชายมีศีรษะใหญ่กว่าปกติ โดยเพื่อนบ้าน และ ชาวหมู่บ้าน ต่างพากันตั้งชื่อลูกชาย และ ประนามว่าเป็น “เด็กผี” และ “หัวยักษ์” หรือ “เด็กผี” และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การผ่าตัดในครั้งนี้ จะถือเป็นผลสำเร็จ เพื่อที่ชาวบ้านจะได้หยุดมองว่าลูกชายของตน เป็นเด็กประหลาดเสียที
ดร.ดิลิป ปาริดา ผู้ควบคุม AIIMS กล่าวว่า หนูน้อยคนนี้ ได้เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ปีที่แล้ว โดยกะโหลกศีรษะมีของเหลวเกือบ 5.5 ลิตร แพทย์ใช้สายระบายน้ำในโพรงสมอง ถ่ายของเหลวออกมาแล้ว 3.7 ลิตร ซึงขณะนี้เส้นรอบวงเหลือ 70 เซนติเมตร และ หลังจากที่เด็กฟื้นตัวก็สามารถเริ่ม ทรงตัว และ ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี ก่อนหน้านี้ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกจาเตียงนอนได้ แต่ตอนนี้ทำได้แล้ว สำหรับขั้นตอนต่อไป แพทย์จะผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะ เพื่อปรับรูปร่างกะโหลกใหม่ ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลปกติอยู่ที่ราว 261,000 บาท แต่ AIIMS เป็นโรงพยาบาลชั้นนำของอินเดียที่รัฐบาลสนับสนุนการรักษาพยาบาลฟรีให้ผู้ป่วย
โรคโพรงสมองคั่งน้ำคืออะไร?
โรคนี้ สำหรับบ้านเราจะเรียกกันว่า เด็กหัวโต หรือ โรคหัวบาตร ซึ่งเกิดจากความผิดปกติชนิดหนึ่ง ที่สามารถเกิดได้กับเด็กทารก สาเหตุที่เกิด นั้นมาจากความผิดปกติ ที่มีน้ำในโพรงสมองมากเกินไป เนื่องจาก ท่อทางเดินน้ำหล่อสมอง และ ไขสันหลังอุดตัน ทำให้น้ำในสมองคั่ง และ ท่วมอยู่ในสมอง ทำให้สมองมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก และ โรคนี้จะพบได้ในเด็กเล็กทั้งเพศชาย และ เพศหญิง และ จะพบได้ 1 ใน 1000 คน ต่อปี
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวบาตร เกิดจาก
- การติดเชื้อแบคทีเรีย
- เชื้อวัณโรค
- ทางพันธุกรรม
- เกิดภาวะเลือดออกในสมอง
- ได้รับอุบัติเหตุ เป็นต้น
อาการของโรค
เด็กที่มีอาการโรคนี้นั้น จะมีอาการเกร็งที่แขน และ ขา จนถึงขนาดทำให้เด็กเดินไม่ได้ และ จะมีอาการบวมที่หัวตามมา หัว และ ส่วนหน้าผาก จะมีขนาดใหญ่เด่นกว่าส่วนอื่น ไม่สมส่วนกับร่างกาย ส่วนของหนังศีรษะจะบาง และ ตึงมากจนเห็นเส้นเลือดบนหนังศีรษะ ซึ่งเด็กจะร้องไห้เกือบตลอดเวลา สืบเนื่องจากอาการปวด ถ้าปล่อยไว้โดย ที่ไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ประสาททางสมองบกพร่องได้
โรคนี้สามารถรักษาได้หรือไม่?
โรคนี้สามารถรักษาได้ โดยการเจาะไขสันหลัง และ ใช้สายยางเล็ก ๆ ดูดน้ำที่อยู่ในสมองออกมา และ ระบายน้ำออก หลังจากนั้นต้องใช้ยา เพื่อทำการหยุดการผลิตน้ำในสมอง ถ้ารักษาเร็ว จะสามารถดูดน้ำออกจากสมองได้เร็ว และ สามารถหายเป็นปกติได้ แต่ถ้าพบ และ รักษาช้า สมองของเด็กอาจจะถูกทำลาย พัฒนาการทางด้านสมอง และ ร่างกายก็จะช้าตามไปด้วย
theAsianparent Thailand เว็บไซต์และคอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่นรวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงานและดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจและพร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอดเพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง theAsianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่และเด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัยในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
ที่มา: ข่าวสด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
โปรตีนในน้ำนมแม่ช่วยลูกห่างไกลจากโรคภูมิแพ้