สามีภรรยาคู่หนึ่ง ชื่อ บริททานีย์และเอียน แมคอินไทร์ กำลังเฝ้ารอการลืมตาดูโลกของลูกชายและลูกสาวฝาแฝด ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในครรภ์มาร่วม 7 เดือน แต่แล้วเหตุการณ์เลวร้ายกลับเกิดขึ้น ทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาไปพบสูตินารีแพทย์ที่โรงพยาบาล มักมีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ครั้งนี้ให้พวกเขากังวลใจอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเมื่อตอนอายุครรภ์ได้ 16 สัปดาห์ แพทย์ได้แจ้งให้ครอบครัวแมคอินไทร์ทราบว่า เมสันหรือฝาแฝดชายคนน้องนั้นมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติและช้ากว่ามาดิลีน ฝาแฝดหญิงคนพี่อยู่มาก ซึ่งแพทย์ตรวจพบว่าเมสันเป็นโรคหัวใจรั่วและสมองได้หยุดพัฒนาไปแล้ว
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้ไปพบสูตินารีแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งชื่อ Hutchinson Clinic ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แพทย์ได้เผยให้เห็นภาพอัลตราซาวด์ของฝาแฝดพี่น้องคู่นี้กำลังจับมือกันไว้อย่างแนบสนิท
“มันช่างเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีความสุข ที่ได้เห็นพวกเขาจับมือกันเช่นนี้” นางบริททานีย์ แมคอินไทร์กล่าวกับ TODAY.com
ทางเดียวที่เมสันจะมีชีวิตรอด คือ เมสันต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ แต่แพทย์พบว่าเป็นไปได้ยากและไม่สามารถทำได้ เพราะสมองของเขาจะได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย
“มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับฉันมาก ในการตื่นขึ้นมาทุก ๆ เช้า และต้องคิดว่า เมสันยังมีชีวิตอยู่กับพวกเราหรือไม่ ครอบครัวของเราทำได้เพียงเฝ้ารอให้เวลาผ่านไปในแต่ละวันและแต่ละสัปดาห์ ทุก ๆ ครั้งที่เรายังได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้น เรารู้สึกโล่งใจและดีใจอย่างบอกไม่ถูก” นางบริททานีย์กล่าว ซึ่งตอนนี้อายุครรภ์เธอครบ 28 สัปดาห์แล้ว
อ่าน ความเสี่ยงที่แม่ตั้งครรภ์แฝดควรระวัง เพื่อคลอดลูกแฝดอย่างปลอดภัย
ทั้งบริททานีย์และเอียนได้นำภาพอัลตราซาวด์ของน้องฝาแฝดนี้ให้ลูกสาวของพวกเขาทั้ง 2 คนดู (เบรลีย์ ลูกสาวคนโตอายุ 6 ขวบและคินสลีย์ ลูกสาวคนที่สอง อายุ 4 ขวบ) พวกเขาทั้ง 4 คนได้แต่เฝ้าภาวนาและขอพรอยู่ทุกคืน ให้เมสันได้มีชีวิตรอด และสิ่งที่ทำให้พวกเขามีกำลังใจมากที่สุดก็คือ การที่ได้รู้ว่าเมสันมีพี่สาวหรือมาดิลีนคอยดูแลอยู่ตรงนั้นนั่นเอง
นางบริททานีย์กล่าวว่า ถึงแม้เธอจะเป็นคนอุ้มท้องลูกชายและลูกสาวฝาแฝด 2 คนนี้ แต่เธอไม่สามารถสัมผัสได้ถึงร่างกายของพวกเขา แต่เมสันโชคดี ที่มีมาดิลีนอยู่ใกล้ ๆ หากเขาไม่รอด อย่างน้อยเขาก็ยังมีพี่สาวที่ยังอยู่ตรงนั้น เขาจะไม่จากพวกเราไปเพียงลำพัง
หากคุณพ่อคุณแม่มีประสบการณ์หรือต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นด้านล่างได้เลยค่ะ
ที่มาจาก www.today.com/parents
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เรื่องจริงของแม่ผู้สูญเสียลูกด้วยโรคหัวใจ ถ้ารู้เร็วกว่านี้ แม่คงไม่เสียหนูไป
การตั้งครรภ์ : รวมเคล็ดลับและความรู้เพื่อการตั้งครรภ์คุณภาพ