น้ำหนักมากเกินไปก็ไม่ดี น้อยไปก็น่าใจหายนะคะ ยิ่งเป็นน้ำหนักของเจ้าตัวเล็กแล้วด้วย ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก เพราะน้ำหนักเเรกเกิด อาจส่งผลถึงสุขภาพตอนโตได้นะคะ
ล่าสุดมีงานวิจัยชิ้นใหม่ ที่ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Nature บ่งบอกว่าน้ำหนักของเด็กแรกเกิดที่ต่างกันนั้น เป็นเพราะมียีนส์บางตัวที่ต่างกัน และนำไปสู่การเป็นเบาหวานและโรคหัวใจได้เมื่อโตขึ้น
โดยงานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยที่ได้รับความร่วมมือจากทีมงานของสถาบันวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกถึง 6 แห่งด้วยกัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยบริสตอล มหาวิทยาลัยควีนซ์แลนด์ และศูนย์การแพทย์อีราสมุส ประเทศเนเธอร์แลนด์ และทีมวิจัยที่เกี่ยวข้องจากศูนย์วิจัยอื่นๆ ถึง 160 แห่ง จาก 17 ประเทศ ที่เป็นสมาชิกของ Growth Genetics (EGG) ซึ่งได้รับทุนวิจัยของสถาบันในประเทศอังกฤษและประเทศในแถบยุโรป
คณะวิจัยได้เปิดเผยว่า ยีนส์ที่แตกต่างกันระหว่างเด็กแต่ละคนนั้น นอกจากจะส่งผลในเรื่องของสีและลักษณะของผิว ผม และร่างกายแล้ว ยังทำให้สุขภาพของเด็กแต่ละคนแตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้ยีนส์แตกต่างกันก็คือ
- ยีนส์คุณพ่อคุณแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยีนส์ของคุณแม่
- พฤติกรรมของคุณแม่ช่วงก่อนที่จะตั้งครรภ์ เช่น การสูบบุหรี่ ค่าดัชนีมวลกาย แต่ไม่ว่ายีนส์ที่แตกต่างกันในเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกันน้อยมากเพียงใด ก็สามารถที่จะส่งผลถึงน้ำหนักของลูกตอนแรกเกิด และเป็นสาเหตุที่ทำให้สุขภาพของลูกมีแนวโน้มที่จะเป็นเบาหวานและโรคหัวใจได้เมื่อโตขึ้น
- โภชนาการและสารอาหารที่คุณแม่เลือกรับประทานตอนก่อนตั้งครรภ์และระหว่างการตั้งครรภ์ ทั้งในเรื่องของสารอาหาร ความสะอาด การปนเปื้อน ความถี่ของการได้รับสารอาหาร
- นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ว เรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้ไปกว่ากันเลย คือเรื่อง และอีกปัจจัยที่หลายคนอาจมองข้ามแต่ก็เป็นอีกสาเหตุ คือเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่คุณแม่อาศัยอยู่ ก็มีผลกระทบกับสุขภาพของลูกในครรภ์ได้เช่นเดียวกันค่ะ
แม้ในปัจจุบันยังไม่มีใครทำวิจัยในเรื่องสภาพแวดล้อม ที่รวมไปถึง อาหาร น้ำ อากาศ และสารเคมีที่ร่างกายได้รับ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ก่อเกิดโรคอะไรได้บ้าง หรือส่งผลถึงเด็กในครรภ์หรือไม่ มากน้อยเพียงใด แต่เพื่อความสบายใจและเป็นการป้องกันไว้ก่อน คุณแม่ก็ควรดูแลตัวเองตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัดนะคะ เพื่อป้องกันสุขภาพของลูกน้อยที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเหล่านี้ค่ะ
ที่มา news-medical.net
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
3 โรคร้ายแม่ท้องต้องระวัง เกี่ยวกับการกิน
ห้ามพลาด !!! แม่ท้องกินแบบไหนได้สุขภาพดีทั้งแม่และลูก