ลักษณะอาการท้องแข็งเกิดจากการหดรัดตัวของมดลูก เมื่อจับบริเวณหน้าท้องดูจะรู้สึกได้ว่าเป็นก้อน ๆ หรือรู้สึกตึงมากที่หน้าท้องเป็นครั้งคราวในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นวินาที และมีช่วงพักเป็นนาทีเมื่อมดลูกคลายตัว บางรายอาจจะมีอาการท้องแข็งอยู่ประมาณทุก 10 นาที/ครั้ง และเป็นสม่ำเสมออยู่ 4-5 ครั้งได้ อาจเป็นสาเหตุทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ อาการท้องแข็งเป็นแบบไหนสังเกตได้
สาเหตุของอาการท้องแข็ง
#ท้องแข็งเพราะลูกในท้อง
ท้องแข็งในความหมายคุณหมอ คืออาการที่มดลูกบีบตัวรัดแข็งขึ้นก่อนเวลาอันควร ที่อาจเป็นเหตุให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ แต่ท้องแข็งที่คุณแม่รู้สึกนั้นเป็นเพราะลูกที่อยู่ในมดลูกภายในครรภ์คุณแม่มีอวัยวะที่เป็นส่วนนูนแข็งหลายอย่าง เช่น แขน ขา เข่า เพราะฉะนั้นการที่คุณแม่รู้สึกลูบ ๆ คลำ ๆ เจอว่าตรงนี้ท้องแข็ง หรือมีการเลื่อนตำแหน่งที่แข็งไปมา และแข็งแค่บางตำแหน่งส่วนบริเวณอื่นนิ่มปกติ ท้องแข็งแบบนี้ไม่ใช่ปัญหา
#ท้องแข็งเพราะกินอิ่ม
แม่ท้องบางรายมีอาการท้องแข็งหลังรับประทานอาหาร พอนั่งซักพักก็จะหายไปเอง อาการนี้จะไม่พบในช่วงตอนท้องอ่อน แต่จะเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ที่มาก เพราะมดลูกมีขนาดใหญ่จนเต็มท้อง ซึ่งไปเบียดกระเพาะอาหาร ลำไส้ ฯลฯ ภายในครรภ์ของคุณแม่ขึ้นไปจุกอยู่ใต้ลิ้นปี่ พอทานอาหารเข้าไปมากหน่อยก็ทำให้เกิดแรงดันในช่องท้องสูง แข็งตึงทั่วทั้งท้องไปหมด ซึ่งคุณแม่ที่รูปร่างเล็กๆ สั้นๆ จะมีอาการนี้ง่ายหน่อย และโดยมากจะเป็นความรู้สึกแน่นท้องมากกว่า ถ้าไปพบคุณหมอเมื่อจับมดลูกดูก็จะพบว่า ท้องไม่ค่อยแข็ง ไม่ได้เกิดจากมดลูกมีการบีบตัว หรือเรียกว่าอาการท้องตึงมากกว่า คำแนะนำที่ช่วยลดอาการนี้ คือ ในช่วงตั้งครรภ์ควรทานอาหารแบ่งเป็นมื้อย่อย ๆ น้อย ๆ แล้วนั่งรอให้เรอออกมา พยายามอย่าให้ท้องผูก ควรได้ถ่ายเป็นประจำทุกวัน
ท้องแข็งแบบนี้ควรถึงมือหมอ >>>
#ท้องแข็งเพราะมดลูกหดบีบตัว
อาการท้องแข็งซึ่งเกิดจากมดลูกบีบตัวก่อนกำหนด ปกติจะไม่ค่อยได้เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์อ่อน ๆ แต่หากขึ้นก็แสดงว่ามีอะไรผิดปกติ และเป็นสาเหตุทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ ซึ่งอาการนี้โดยส่วนใหญ่จะพบบ่อยที่สุดช่วงตั้งครรภ์ได้ 32 สัปดาห์ สังเกตุว่าเป็นระยะเดียวกับลูกในท้องที่ดิ้นมากสุดตอน 32 สัปดาห์ด้วย การที่ลูกดิ้นมาก ๆ อาจมีส่วนไปกระตุ้นทำให้มดลูกบีบตัวบ่อยขึ้นทำให้เกิดอาการท้องแข็งได้เหมือนกัน เมื่อผ่านช่วง 32-24 สัปดาห์นี้ไปได้ก็จะมีอาการท้องแข็งน้อยลง แต่ถ้าคุณแม่มีอาการท้องแข็งบ่อยแล้วไม่ดีขึ้นและยิ่งแข็งถี่ขึ้น ไม่ได้แข็งเป็นบางจุด และบางทีรู้สึกแข็งมาก แข็งน้อย หรือแข็งจนรู้สึกแน่นหายใจไม่ออกท้องแข็งแบบนี้แหละที่เรียกว่าอันตรายและควรจะถึงมือหมอให้เร็วที่สุด เพราะหากท้องแข็งแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษามดลูกจะบีบตัวจนปากมดลูกเปิดตามมาด้วยการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดได้
#ท้องแข็งจากหลายสาเหตุ
จริงๆ แล้วสาเหตุของท้องแข็งในขณะตั้งครรภ์มีมากมายนอกจากการบีบรัดตัวของมดลูกหรือสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ยกตัวอย่างเช่น
- เกิดจากแม่ไม่แข็งแรง สุขภาพไม่ดี มีโรคเบาหวานหรือความดันสูง
- เกิดจากมดลูกไม่แข็งแรง หรือมดลูกไม่ปกติ
- การขยายของครรภ์ในช่วงไตรมาส 3 ที่ขยายใหญ่ขึ้นมากตามขนาดตัวของทารกในครรภ์ ซึ่งมดลูกที่ใหญ่ขึ้นจะกดเบียดกับกระเพาะปัสสาวะ แม่บางรายกลั้นปัสสาวะก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องแข็งขึ้นมาได้
- เกิดจากการมีแก๊สในกระเพาะอาหารหรืออาหารไม่ย่อย
- การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ หากร่วมรักไม่ถูกท่าถูกจังหวะ จะส่งผลให้มดลูกเกิดการบีบตัวขึ้นมาทำให้มีอาการท้องแข็งได้
วิธีช่วยให้หายท้องแข็ง
มดลูกในท้องเป็นก้อนกล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงมาก อาจจะมีการบีบตัวอย่างเบาๆ ค่อยๆ บีบช้าๆ แข็งตัวอยู่นานพอสมควร แล้วก็คลายตัวลงช้าๆ เป็นอย่างนี้วันละหลายครั้ง แต่โดยมากไม่เกินวันละ 6-10 ครั้ง
ถ้าคุณแม่ที่เกิดอาการท้องแข็งลักษณะนี้ก็ถือว่ายังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ซึ่งวิธีช่วยให้หายท้องแข็ง เช่น
- แม่ท้องควรพักผ่อนให้มาก ๆ
- หลีกเลี่ยงการทำงานที่ใช้แรงเยอะจนเกินไป เช่น การยกของหนัก ทำตัวขี้เกียจให้มากที่สุด
- หลีกเลี่ยงการเดินมาก ๆ เพราะยิ่งมีกิจกรรมมากท้องก็จะยิ่งแข็งมาก
หากรู้สึกว่าท้องแข็งมาก แข็งถี่มากกว่าปกติ หรือเดี๋ยวแข็งเดี๋ยวหายติด ๆ กันเป็นชุด ควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพื่อสาเหตุที่แน่ชัดดีกว่าค่ะ
ขอบคุณที่มา : www.diarylove.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อาการท้องแข็ง เรื่องน่ากังวลขณะตั้งครรภ์
4 พฤติกรรมควรหยุด!!! เมื่อรู้สึกท้องแข็ง