สะบัดผ้ากระโดดลงทะเล เที่ยวภูเก็ต ให้ลืมร้อนกันเถอะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มาสะบัดผ้ากระโดดลงทะเลสวย น้ำใส เที่ยวภูเก็ต ให้ลืมร้อนกันเถอะ หน้าร้อนแบบนี้ อะไรจะดีไปกว่าการได้ ใส่ชุดผ้าพริ้ว ๆ คลายร้อน หรือใส่ชุดว่ายน้ำ อวดหุ่นสวย กันล่ะคะ

วันนี้แอดมินจะพาแกะรอย เที่ยวภูเก็ต 2 วัน 1 คืน กันดีกว่า ว่าเราสามารถไปที่ไหนได้บ้าง และเดินทางแบบไหนไม่ให้ การเที่ยวในครั้งนี้ เหนื่อยจนหมดแรง จากวันพักผ่อนกลายเป็นวันทำร้ายตัวเอง ดังนั้น เรามาสะบัดผ้ากระโดดลงทะเล เที่ยวภูเก็ต ให้ลืมร้อนกันเถอะ

เตรียมตัววางแผนเที่ยวภูเก็ต

การเดินทางไปภูเก็ตนั้นแสนจะสะดวกสบาย และมีช่องทางให้เลือกมากมายค่ะ

1. เดินทางโดยรถส่วนตัว – การเดินทางแบบนี้จะทำให้รู้สึกสะดวกสบาย เพราะเราจะขนอะไรไปก็ได้ เพียงแค่จับใส่ท้ายรถของคุณ แล้วนัดเพื่อน ๆ ขึ้นรถ แล้วเดินทางไปพร้อมกัน แต่ข้อเสียคือ คุณต้องเหนื่อยกับการเดินทางระยะทางไกล กว่าจะถึงที่หมาย ก็อาจจะหมดสนุกซะแล้วซิ

2. เดินทางโดยรถบัสบริการ – อีกหนึ่งทางเลือก ที่สายแบ็คแพ็คชอบมาก ราคาค่าเดินทางก็เป็นไปตามระยะ ถ้าหากเดินทางจากกรุงเทพฯ ราคาค่าเดินทางก็จะอยู่ที่ 650 – 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดรถ และบริษัทที่ให้บริการค่ะ

  • สามารถจองรถบัสผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ที่นี่ : Bus Online Ticket

3. เดินทางโดยรถไฟ – การเดินทางแบบนี้ สำหรับสายลุย สายแบ็คแพ็ค ที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องเวลามากนัก เน้นเอามันส์ และท้าทายเป็นหลัก เพราะนอกจากจะเสียเวลาการเดินทางแล้ว ยังจะต้องไปรอต่อรถเข้าภูเก็ตอีกต่อหนึ่ง แต่ถ้าคุณยังสนใจการเดินทางโดยรถไฟนี้ ด่วนพิเศษขบวน 39 คือคำตอบจ้า

4. การเดินทางโดยเครื่องบิน – การเดินทางนี้เหมาะสำหรับคนที่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลา และความสะดวกสบายเป็นหลัก เพราะนอกจากจะใช้เวลาเดินทางเพียง 1  ชั่วโมงแล้ว เพราะไม่ใช่การเดินทางที่เหนื่อยมากนัก เมื่อไปถึงจุดหมาย ก็สามารถไปลุยต่อได้ทันที

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แล้วทุกวันนี้โปรโมชั่นสายการบินโลว์คอส (Low Cost) ก็ยังคงจัดโปรโมชั่นออกมาเรื่อย ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เรามักจะสามารถซื้อตั๋วได้ในราคาที่ถูก บางครั้งรวมราคา ไป-กลับ อยู่เพียงแค่หลักร้อย ก็มีบ่อยนะคะ

ส่องหาที่พักภูเก็ต

อะไรก็สะดวกไปหมดสำหรับยุค 5G นี้ แค่นิ้วปาดหน้าจอโทรศัพท์ 2 – 3 ที เราก็หาข้อมูลโรงแรมเจ๋ง ๆ ขึ้นเรียงแน่นจนเลือกกันแทบไม่ไหว คราวนี้ เราก็แค่มาเลือกกันดูว่า เราอยากจะพักแบบหรูหราสุนัขเห่า หรือเลือกแบบซำเหมาแค่ซุกหัวนอน กันดี

บทความที่เกี่ยวข้อง : ไปเที่ยวกันเถอะ รวม เช็คลิสโรงแรม ร้านอาหาร เราเที่ยวด้วยกัน มีที่ไหนบ้าง

วางไทม์ไลน์กันดีกว่า

เมื่อเราได้ตั๋วการเดินทาง และที่พักเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ เรามาดูว่า ที่ไหนเราควรจะต้องไป ร้านอาหารไหนที่เราควรจะต้องโดน ตำแหน่งที่ไหน และร้านไหน ใกล้กัน ให้จับวางตารางเอาไว้โดยคร่าว และสามารถที่จะยืดหยุ่นได้ เพราะหากต้องทำตามแผนทั้งหมดที่วางเอาไว้นั้น จะกลายเป็นเพิ่มความเครียด มากกว่าจะได้ไปเที่ยวผ่อนคลายนะจ๊ะ

เป้าหมายมีให้พุ่งชน

เรากำหนดที่เที่ยวที่เราจะต้องไปโดนให้ได้ก่อนจะดีที่สุดจ้า ดูว่าไฮไลท์ของทริปนี้ เราจะเน้นที่ไหนเป็นหลัก แบบว่าห้ามพลาดเชียว ส่วนที่เหลือฟรีสไตล์ได้ ใครยังนึกไม่ออก มาลอกเป้าหมายของแอดก่อนก็ได้นะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. จุดชมวิวเสม็ดนางชี
  2. เกาะตะปู
  3. ทานหมูกระทะ
  4. หาคาเฟ่สวย ๆ
  5. ตลาดคนเดิน
  6. เล่นน้ำทะเล
  7. ช็อปปิ้ง
  8. ถ่ายรูปเล่นในโรงแรม

นี่คือเป้าหมายหลัก ๆ ที่เราตั้งเป้าหมายกันเอาไว้ ว่ากิจกรรมของทริปนี้ เราต้องการประมาณนี้ และจุดไฮไลท์ที่เราจะพลาดไม่ได้คือ เสม็ดนางชีนั่นเอง ส่วนที่เหลือ ยืดหยุ่นได้ตามสบาย แล้วแต่เวลาจะอำนวย และความเหน็ดเหนื่อยของเราจะไปต่อได้มาก-น้อย แค่ไหนนั่นเอง

ออกเดินทางไปภูเก็ตกันดีกว่า

ครั้งนี้เราเลือกออกเดินทางโดยเครื่องบินค่ะ เนื่องจากประหยัดเวลา และสะดวกสบายสำหรับเรามากที่สุด และที่สำคัญคือ เราจองตั๋วในช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่น ซึ่งเราสามารถไปแอบส่องราคาโปรโมชั่นได้ตามนี้เลยค่ะ

ทีมแอดเริ่มออกเดินทางในช่วงเช้ามืด เพื่อสามารถใช้เวลาการเที่ยวในหนึ่งวันได้อย่างเต็มที่ เมื่อถึงสนามบิน การตามเก็บจุดแลนด์มาร์คที่เราจะไปนั้นเราเน้น เก็บจากนอกเมืองก่อนแล้วค่อยกลับเข้ามาในเมือง ซึ่งที่พักที่เราจองเอาไว้ จะอยู่ในเมือง เพื่อความสะดวกสบายในการพักผ่อน และท่องเที่ยวในวันถัดไป วิธีเดินทางที่เราคิดว่าสะดวกที่สุดสำหรับทริปนี้คือการขับรถเที่ยวเอง เราจึงเลือกใช้บริการเช่ารถ ที่สนามบิน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : จุดเช็คอินยอดฮิต ที่เที่ยวเกาะพีพี ปิเละลากูน สวยขนาดนี้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

การเดินทางในภูเก็ต

  1. รถสาธารณะ – เป็นตัวเลือกที่หลายคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ยากลำบากเกินไปหรือเปล่า และเสียเวลาการเที่ยวด้วย เพราะคุณจะต้องรอรถเพื่อที่จะไปยังจุดต่าง ๆ และมีหลายเส้นทาง ที่รถสาธารณะไปไม่ถึง แต่ถ้าอยากลองซักทริป ก็ไม่น่าจะเลวร้ายนะจ๊ะ
  2. รถแท็กซี่ – อันนี้ขอสายเปย์ซักหน่อย แต่ก็ยอมรับว่าสะดวกสำหรับคนที่ขับรถเองไม่เป็น และไปกันหลายคน หารค่าใช้จ่ายกัน ก็พอไหวอยู่นะ แต่กำเงินเอาไว้ประมาณ 1,600 – 2,000 บาท สำหรับค่ารถไป – กลับสนามบินค่ะ
  3. Grab / Uber – หลายคนบอกว่าเรียกแกร๊ปดีกว่า เพราะเรารู้ราคาจากในแอปแน่นอนอยู่แล้ว อูเบอร์ก็ได้ ซึ่งความเป็นจริงคือ ราคาน่าจะสูสีกันกับเรียกการแท็กซี่ ดังนั้นเลือกเอาที่ชอบ และคิดว่าราคาเรารับได้ก็น่าจะโอเคค่ะ
  4. เช่ารถขับ – ตัวเลือกยอดฮิต สำหรับคนที่ไปท่องเที่ยวภูเก็ต เพราะนอกจากจะมีให้เลือกเช่าหลายเจ้าแล้ว ยังมีโปรโมชั่นการจองล่วงหน้าให้อีกด้วย อีกทั้ง ขับเอง เที่ยวเอง หลงเอง ยังไงก็สะดวกสบายกว่าเยอะ การเช่ารถนี้ ก็มีทั้งรถยนต์ และมอเดอร์ไซต์ รับรองยังไงก็คุ้ม

เปิดทริป Day 1

เมื่อเราจัดการรับรถที่จองเอาไว้ที่สนามบิน ซื้อประกันเพื่อความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วนั้น เราควรที่เช็คสภาพรถก่อนจะพุ่งตรงออกไปนะคะ เช่น เซ็นเซอร์หลังใช้งานได้หรือไม่ ลมยางโอเคไหม ไฟเลี้ยวซ้ายขวา ที่ปัดน้ำฝน ไฟหน้า ไฟเบรค และน้ำมัน ถ้าทุกอย่างโอเคแล้ว เราก็มุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทางแรกกันเลยค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เสม็ดนางชี

เนื่องจากเสม็ดนางชี จะอยู่ช่วงรอยต่อระหว่าง จังหวัดพังงา และภูเก็ต ดังนั้น หากไปเที่ยวภูเก็ต การที่จะไปเยี่ยมชมวิวทิวทัศน์ของเสม็ดนางชี ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดด้วยเช่นกันค่ะ

พิกัด :  เสม็ดนางชี

ช่วงโควิดแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ไม่ดีนักสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่นับว่าเป็นโอกาสทอง สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เราจะไม่ต้องไปเบียดเสียดกับชาวต่างชาติ เพื่อชมวิวสวย ๆ ในประเทศของเราเองจริงไหมคะ?

ล่องเรือชมวิว

หลังจากไปเก็บภาพถ่ายสวย ๆ บทจุดชมวิวด้านบนแล้ว เมื่อมาถึงจุดจอดรถ ก็สามารถติดต่อเรือยนต์ชาวบ้านแถวนั้น ให้พาไปท่องเที่ยวตามจุด ๆ ต่าง ๆ ได้อีกค่ะ สะดวกสบายเหลือเกิน ค่าเช่าเหมาเรือจะอยู่ที่ 1,500 บาท สามารถนั่งได้ประมาณ 8 – 10 คน

ระหว่างจุดชมวิวต่าง ๆ หากคุณอยากที่จะพายเรือคายัค ก็จะมีจุดไว้ให้บริการ โดยเสียค่าบริการต่อคนที่ 250 บาทเท่านั้นค่ะ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาที หลังจากนั้นก็จะกลับมาที่เรือ เพื่อไปจุดชมวิวอื่น ๆ และเป้าหมายหลัก ที่ทุกคนจะต้องไปเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว นั่นคือ เขาตะปู นั่นเองค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 20 ที่เที่ยว พาครอบครัวเที่ยวช่วงซัมเมอร์ คลายร้อน ซัมเมอร์นี้ห้ามพลาด

เขาตะปู

หากใครที่เกิดทันยุค เจมส์ บอนส์ 007 ไม่มีใครไม่รู้จักสถานที่นี้ เพราะ “เขาตาปู” หรือ “เกาะตะปู” ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของจังหวัดพังงา เท่านั้น แต่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนทั่วโลก แต่ช่วง ยุคโควิดแบบนี้ เกาะตะปู ก็ออกจะเงียบเหงาไปเยอะ

แต่ก็ถือเป็นโอกาสทองของเรา ที่เราสามารถเข้าชมได้ โดยไม่ต้องไปเบียดเสียดยัดเยียดกับใคร โดยจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับคนไทยอยู่ที่ 60 บาทเท่านั้นค่ะ หากไปแล้ว ก็อย่าลืมช่วยอุดหนุนสินค้าของชาวบ้านที่นี่กันด้วยนะคะ ขอกระซิบบอกว่า คุณสามารถใช้สิทธิ์คนละครึ่ง หรือ เรารักกัน มาอุดหนุนซื้อสินค้าแถวนี้ได้ด้วยจ้า

เขาพิงกัน

ถัดจากเขาตาปู หรือ เกาะตะปู ไปอีกหน่อยเราจะพบกับผาหินที่พาดพิงกัน ซึ่งเป็นการจัดสรรจากธรรมชาติ ที่สวยงามอีกจุดหนึ่งเลยทีเดียว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หลังจากนั้น เราสามารถนั่งเรือต่อไปยังเกาะปันหยีซึ่งเป็นหมู่บ้านกลางน้ำ แต่แอดมินเลือกที่จะกลับเข้าเฝ้า เพื่อไปต่อเป้าหมายอื่นต่อกันจ้า

มุ่งหน้าเข้าเมือง

เมื่อกลับถึงฝั่ง เรานั่งพักให้หายร้อนกันซักนิด แล้วเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ตหาของกินกันเถอะ เป้าหมายของเราตอนนี้คือ “หมูกระทะ” อาหารเบสิค ที่เยียวยาเราได้ทุกสิ่ง และเราก็เสริ์ชหาจนได้เป้าหมายคือ ร้านหมูกระทะ โอซาก้า

หมูกะทะโอซาก้า

ร้านหมูกะทะโอซาก้า เป็นร้านใหญ่ในเมืองภูเก็ต มีอาหารให้เลือกทานมากมาย และแบ่งบุฟเฟต์ เป็นสองแบบ คือ บุฟเฟต์เฉพาะหมูกระทะ และบุฟเฟต์หมู และซีฟู๊ด แอดบอกเลยว่าดีเลิศมาก จนอยากจองตั๋วเครื่องบินเพื่อบินไปกินที่ร้านนี้อีก 2-3 รอบ

พิกัด : โอซาก้า หมูกะทะ ภูเก็ต

เวลาทำการ : 16:00 – 23:00 น.

เมื่อเรากินเสร็จเรียบร้อย ก็จัดแจงเข้าเช็คอินโรงแรมกันเลยจ้า โดยโรงแรมที่เราเลือกไว้ เป็นลักษณะของโพสเทล และเป้าหมายหลักของเราคือ เราและเพื่อน 4 คน จะต้องนอนรวมอยู่ในห้องเดียวกันได้ และจะต้องมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ให้เราลงอวดในโซเชียล

Book a Bed Poshtel

เราได้จองโรงแรมนี้มาล่วงหน้า ผ่านแอป และใช้สิทธิ์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มาเป็นส่วนลด บอกเลยว่าจ่ายหลักร้อย แต่นอนได้ครบ 4 คนเลยจ้า หลักจากนั้นเราก็จัดการเปลี่ยนชุด ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ แล้วออกไปลุยเก็บบรรยากาศ ตลาดคนเดินกันดีกว่า

  • พิกัด : Book a Bed Poshtel
  • ที่อยู่: 2 15 ถนน ดีบุก ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
    สถานที่ที่ไปมาในเดือนพฤศจิกายน 2563
  • โทร: 093 693 2888

ถนนคนเดิน หลาดใหญ่ ภูเก็ต

หลาดใหญ่นี้ ถูกจัดขึ้นบริเวณถนนถลาง โดยจะล้อมรอบไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบ ชิโนโปรตุกีส ที่ผสมความเป็นศิลปะตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม และลงตัว ถือว่าเป็นอีกเสน่ห์ของจังหวัดภูเก็ตเลยล่ะค่ะ เป็นตลาดขนาดไม่ใหญ่ อยู่โซนถนนเมืองเก่าตกแต่งได้คลาสสิคสวยงาม ของกินจะเน้นอาหารพื้นถิ่น โฮมเมด  มาทำให้ดูถึงที่ งานศิลปะสวยงาม ของแฮนเมดเดินดูอย่างเพลิดเพลินจน 22.00 ตลาดปิด

  • พิกัด : ถนนคนเดิน หลาดใหญ่
  • ที่อยู่: ถนน ถลาง ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต ภูเก็ต 83000
  • เปิดบริการ: 18.00-22.00 น. (เปิดให้บริการเฉพาะวันอาทิตย์)

นอกจากสถาปัตยกรรมแล้ว ยังเนืองแน่นไปด้วยอาหารสตรีทฟู๊ดให้ได้ตื่นตาตื่นใจ ซึ่งปกติถนนนี้จะเต็มไปด้วยชาวต่างชาติเข้ามาเดินกันขวักไขว่ แต่ปัจจุบัน ก็คงจะมีคนไทยมากกว่าปกติ แต่อาหารที่หาย ก็ยังมีให้เลือกมากมายไม่แตกต่างจากเดิม แต่อย่าเพิ่งกินเยอะเกินไปนะคะ เพราะเราจะไปต่อกันอีกที่หนึ่งจ้า

ร้านโกเบนซ์เกาเหลา – ข้าวต้มเเห้งที่คิวยาวที่สุดในโลก

ถ้ามาภูเก็ตแล้ว ไม่ได้มาร้านนี้ บอกเลยว่าคุณยังมาไม่ถึง เห็นคิวยาวขนาดนี้ แต่ทุกคนที่มาก็ยอมรอนะจ๊ะ โดยร้านนี้จะอยู่บริเวณ ถนนกระบี่ หน้าศาลเจ้าจ้ออ๋อง เมนูเด็ดที่นี่คือ ก๋วยจั๊บ ข้าวต้มแห้ง เกาเหลาเลือดหมู ข้าวต้มกระดูกหมู และหมูกรอบ

หากถามว่าทำไมถึงจะต้องมาทานร้านนี้ให้ได้ นั่นเป็นเพราะ ร้านโกเบ็นซ์ได้รับรางวัล “บิบ กูร์มองด์ (Bib Gourmand)” ในมิชลิน ไกด์ (Michelin Guide) ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงร้านอาหารโดดเด่นที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพยอดเยี่ยมในราคาย่อมเยา นั่นเอง ทานอิ่มกันแล้ว ไปย่อยอาหารต่อกันอีกนิดนึงเนอะ

  • พิกัด : โกเบนซ์ ข้าวต้มแห้งภูเก็ต
  • ที่อยู่: สี่แยกระหว่างถนนกระบี่กับถนนปฏิพัทธ์ เมืองภูเก็ต
  • เปิดบริการ: 18.30-3.00 น. (หยุดให้บริการทุกวันจันทร์)
  • โทร084 060 7799

เขารัง จุดชมวิวรอบเมืองภูเก็ต

อีกหนึ่งจุดชมวิว ที่เราสามารถไปกินลม ชมวิว สบาย ๆ ได้ทั้งวัน ช่วงค่ำคืนนอกจากจะได้ชมวิวรอบเมืองยามค่ำคืนแล้ว บริเวณนั้น ยังมีเสียงเพลงเพราะ ๆ ให้เราได้ฟังเพลิน ๆ กันด้วย หรือเราจะเข้าไปร่วมร้องเพลงก็ยังได้นะคะ

หลังจากย่อยอาหารในท้อง และอาหารตา อาหารใจแล้ว ก็ได้เวลากลับโรงแรม เพื่อไปพักผ่อน เตรียมพร้อมลุยกันในวันถัดดีกว่าค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : เที่ยวทะเลยังไง ให้ไม่ถึงทะเล รวมรีสอร์ท และ โรงแรมที่มีสวนน้ำ ของตัวเอง

หาดในหาน Nai Harn Beach Phuket

เช้ามาแล้วต้องออกเดินทางไปเล่นทะเลกันจ้า เราเลือกไปที่หาดในหาน จุดเด่นของหาดในหานมีเรือยอร์ชจำนวนหลายสิบลำมาจอดลอยลำหลบคลื่นอยู่ที่หาดนี้ เนื่องจากหาดในหานมีแนวแหลมกันคลื่นทั้งสองด้าน หาดในหานไม่ได้มีดีแค่ตัวหาด แต่มีพื้นที่รอบข้างที่หลากหลาย ทั้งหนองน้ำในหานที่มีขนาดกว้างขวาง และสวนสาธารณะที่ใหญ่พอให้ทุกครอบครัวมานั่งเอกเขนกในวันหยุด

ร้านติ่มซำบุญรัตน์

ท้องว่างกันแล้ว ต้องไปเติมพลังงานกัน ติ่มซำพื้นถิ่น คนเต็มร้าน อาหารอร่อย และถูก มีติ่มซำพื้นเมืองแบบที่เราไม่เคยเห็นให้ได้ลองชิมหลายอย่าง น้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านเด็ดมาก อิ่มจนเดินกลับไม่ไหว  แต่ร้านนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 สาขา ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตค่ะ ใครใกล้ที่ไหน ก็สามารถไปทานที่นั่นกันได้เลยนะคะ

 

 

เตรียมตัว Check-Out

หลังจากเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานแล้ว ได้เวลากลับที่พักเพื่อไปเก็บข้าวของเตรียมตัว Check-Out กันค่ะ แต่ก่อนเราจะร่ำลา โรงแรมแห่งนี้ ก็ต้องถ่ายรูปเก็บกันเอาไว้ซักหน่อย

Refresh.tropicalcafe

มาถึงภูเก็ตแล้ว ก็ต้องจัดร้านคาเฟ่กันสักนิด ข้าง ๆ Book a Bed มีร้านคาเฟ่เก๋ ๆ แนวฮาวายใส ๆ ที่สำคัญ มุมถ่ายรูปเพียบ โดนใจสายโซเชียลแน่นอนค่ะ

เตรียมตัวกลับบ้าน

อิ่มอร่อย สนุกสนาน และถ่ายรูปกันมาเพียบแล้ว ซึ่งในความจริงคือ ทีมแอดตั้งใจจะไปถ่ายรูปในเมืองเก่าหลังกลับจากเล่นน้ำทะเล แต่ปรากฎว่าแดดแรงมาก จนแทบจะละลาย เราจึงต้องยอมแพ้ ไปตามระเบียบ ดังนั้นอยากจะแนะนำ สำหรับใครที่อยากจะถ่ายรูปบริเวณเมืองเก่า ให้ไปถ่ายช่วงเย็น ช่วงค่ำ หรือตั้งแต่เช้าตรู่เลยจะดีที่สุดค่ะ ไม่งั้น ละลายแน่นอนค่ะ

ไหน ๆ ก็ขับรถกันมาแล้ว เรายังพอมีเวลาอีกนิดหน่อย ก็แวะซื้อของที่ Outlet กันสักนิดก่อนไปสนามบิน หลังจากจับจ่ายใช้สอยเรียบร้อย ก็จัดการไปเติมน้ำมันรถให้เต็ม แล้วคืนรถบริเวณจุดเดียวกันกับที่เรารับรถมา หลังจากนั้น ก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพจ้า

บทความโดย

Arunsri Karnmana