สมอง เป็นตัวกำหนดความฉลาดของเด็กแต่ละคน ช่วง 6 ปีแรกเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสมอง เพราะ สมองมีการเจริญเติบโตสูงที่สุด ทุกครั้งที่มีการกระตุ้นให้เด็กๆ คิดหรือลงมือทำอะไรใหม่ๆ เส้นใยประสาทจะถูกสร้างขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ส่งผ่านกระแสไฟฟ้าจากสมองส่วนหนึ่งไปยังอีกส่วนหนึ่ง พร้อมกันนี้ ธรรมชาติเองก็มีกระบวนการคัดกรองใยประสาทส่วนที่ไม่ได้ใช้งานทิ้ง เพื่อมุ่งพัฒนาเส้นใยประสาทส่วนสำคัญซึ่งถูกใช้งานประจำอย่างเต็มที่ ส่วนที่ไม่ได้ใช้ ก็จะหายไปตามอายุที่โตขึ้น โดยเครือข่ายใยประสาทนี้เองที่จะเป็นตัวกำหนดความฉลาดของเด็ก หากพ่อแม่เข้าใจการทำงานของสมอง และพัฒนาการสมองอย่างถ่องแท้ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการ สร้างลูกให้เป็นเด็กฉลาด ได้สูงขึ้น
สมองทำงานอย่างไร?
กระบวนการเรียนรู้ของสมอง จะเริ่มจากการรับข้อมูลผ่านประสาทสัมผัสต่างๆในร่างกาย เช่น ภาพ เสียง รสชาติ สัมผัส หลังจากนั้นข้อมูลจะส่งไปที่สมอง ผ่านใยประสาทที่เชื่อมโยงเซลส์สมองแต่ละเซลล์ สมองจะทำการประมวลข้อมูลที่ได้รับ จับกลุ่ม แยกแยะ และคัดกรอง เปรียบเทียบกับประสบการณ์ในอดีตที่เคยได้เรียนรู้ และ ตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้นนั้น และก่อให้เกิดเป็นการเรียนรู้ใหม่ๆตลอดเวลา
ปัจจัยสำคัญในการสร้างลูกให้เป็นเด็กฉลาด
1. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
มีคำกล่าวที่ว่า พ่อแม่คือกระจกเงาของลูก พ่อแม่เป็นแบบใดลูกๆ ก็จะเติบโตมาโดยมีเงาของพ่อแม่แฝงอยู่ ดังนั้นหากเราคาดหวังให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ฉลาด ใฝ่รู้ ต้องเริ่มจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูและวิธีการปลูกฝังของพ่อแม่เป็นสิ่งแรก โดยทารกที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ มีความอบอุ่นเข้าอกเข้าใจ รู้จักให้โอกาส ให้อภัย เอาใจใส่อย่างเหมาะสม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาการทั้งด้านเหตุผล (IQ) และอารมณ์ (EQ) จะส่งเสริมให้เด็กฉลาด มีไหวพริบปฏิภาณ ความคิดสร้างสรรค์ และมีวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมได้อย่างสมบูรณ์
2. พัฒนาทักษะสัมผัส 7 ประเภท
เส้นใยสมองของเด็กๆ ช่วงแรกเกิดถึง 6 ขวบ มีการเชื่อมโยงโครงข่ายอย่างรวดเร็ว คุณแม่ควรฉวยโอกาสนี้เสริมสร้างพัฒนาการและส่งเสริมความถนัดด้านต่างๆ ให้กับลูก เพราะยิ่งได้รับการกระตุ้นบ่อยเท่าไร เครือข่ายใยประสาทก็จะเพิ่มจำนวนและหนาแน่นมากขึ้นเท่านั้น สำหรับเด็กเล็กสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 7 คือ การสัมผัส มองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รับรู้รส ทรงตัว และเคลื่อนไหว เช่นให้เด็กๆ สัมผัสของเล่นที่มีผิวสัมผัสแตกต่างกัน ทานผักผลไม้รสชาติแปลกใหม่ หมั่นโอบกอด หอมแก้ม นวดสัมผัส เล่นจั๊กจี้ ชวนคุย หรืออ่านนิทานให้ฟัง เมื่อลูกแสดงออกว่าสนใจในอะไรเป็นพิเศษคุณพ่อคุณแม่ก็คอยให้การสนับสนุนและแนะนำ โดยอาจสอดแทรกสิ่งเหล่านั้นไว้ในกิจกรรมประจำวัน เช่น ชวนวาดรูปหลังจากไปเที่ยวสวนสัตว์ แข่งกันบวกเลขขณะเดินทางไปโรงเรียน ทายคำศัพท์ภาษาต่างๆ จากข้าวของเครื่องใช้รอบตัว เป็นต้น
3. โภชนาการที่ครบถ้วน
คุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ สมองของเด็กๆ พัฒนาได้เต็มศักยภาพ ต้องให้ความสำคัญในเรื่องของโภชนาการอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะสารอาหารสำคัญต่อสมอง อย่าง โอเมก้า3 และ กรดอะมิโนจำเป็น ที่มีบทบาทในการสร้างเครือข่ายใยประสาท เป็นสารสื่อประสาท และ ช่วยให้สมองพัฒนาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทำความรู้จักกับ โอเมก้า และ กรดอะมิโน
โอเมก้า (Omega) เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ทำหน้าที่กระตุ้นสมอง พัฒนาประสาทส่วนกลาง ช่วยในการมองเห็นและจดจำ ปรับสมดุลสารเคมีในร่างกาย ส่งผลให้มีความมั่นคงทางอารมณ์และสุขภาพจิตดี กลุ่มโอเมก้าที่ช่วยสร้างลูกให้เป็นเด็กฉลาดมีดังนี้
- กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3) มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างเครือข่ายใยประสาท การพัฒนาโครงสร้างและส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ไว มีความจำเป็นเลิศ
- กรดไขมันโอเมก้า 6 (Omega-6) มีความสำคัญในการสนับสนุนให้โอเมก้า 3 ทำงานได้ดีขึ้น เด็กที่ได้รับโอเมก้า 6 สม่ำเสมอ สมองจะทำงานได้ดี และมีสุขภาพหัวใจแข็งแรง
- กรดไขมันโอเมก้า 9 (Omega-9) มีคุณสมบัติช่วยควบคุมการแข็งตัวของเลือด ช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดดี ส่งผลให้สมองทำงานได้สมบูรณ์แบบ
กรดอะมิโน (Amino Acid) คือหน่วยย่อยที่เล็กที่สุดของโปรตีนที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยมี 2 ชนิด ได้แก่ กรดอะมิโนไม่จำเป็น ร่างกายสามารถขึ้นสร้างเองได้ และ กรดอะมิโนจำเป็น ร่างกายผลิตเองไม่ได้ ได้จากการทานอาหารเท่านั้น แยกย่อยได้ถึง 9 ชนิดด้วยกัน โดยอะมิโนจำเป็นเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มความแข็งแกร่งของระบบประสาท โดยเฉพาะ เยื่อไมอีลิน (Myelin) ซึ่งทำหน้าที่เสมือนฉนวนกั้นประจุไฟฟ้าของใยประสาท (Axon) เมื่อปลอกหุ้มใยประสาทมีความแข็งแรงก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเหนี่ยวนำกระแสประสาท ทำให้ส่งผ่านการสั่งการไปยังสมองส่วนต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เห็นไหมว่าการ สร้างลูกให้เป็นเด็กฉลาด ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณแม่เข้าใจกลไกการทำงานของสมองและโฟกัสปัจจัยหลัก 3 ข้อ คือ สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หมั่นกระตุ้นสมองให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องผ่านการพัฒนาประสาทสัมผัสทั้ง 7 ด้าน และใส่ใจให้ลูกรักมีโภชนาการที่ดี ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรเสริมให้เด็กๆ ดื่มนมเป็นประจำทุกวัน เพราะ “นม” อุดมด้วยสารอาหารสำคัญต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย เส้นใยประสาท และสมองครบถ้วนค่ะ
ใหม่ นมโฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 มีกรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด ข้อมูลเพิ่มเติม https://goo.gl/ARyxzF