สาวน้อยจูเลียน่า เวทมอร์ (juliana wetmore) เกิดมาพร้อมกับโรคทางพันธุกรรม ที่เรียกกันว่า กลุ่มอาการเทรเชอร์-คอลลิน ซินโดรม (Treacher Collins Syndrome) ซึ่งทำให้ขากรรไกรล่างและกระดูกใบหน้าเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ ทำให้เธอมีกะโหลกใบหน้าที่บิดเบี้ยวผิดรูปขั้นรุนแรง
อาการผิดปกติตั้งแต่ในครรภ์ทำให้สาวน้อยมีใบหน้าที่บิดเบี้ยวผิดรูป ไม่สามารถแยกส่วนต่างๆ ของใบหน้าได้อย่างชัดเจน จูเลียน่าต้องเข้ารับการผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ยังไม่สามารถรักษาความผิกปกติทางการได้ยิน จนอายุได้ 6 ขวบ เธอจึงต้องเรียนในโรงเรียนคนหูหนวก
แม้ว่าหน้าตาจะไม่เหมือนคนอื่น แต่จูเลียน่าฉายแววความเป็นอัจฉริยะในโรงเรียนอย่างโดดเด่น เธอสามารถใช้ภาษามือได้อย่างคล่องแคล่วและสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าจะได้รับความรักจากครอบครัวและเพื่อนๆ ที่โรงเรียนมากมายอย่างไร ในบางครั้งจูเลียน่าก็มีมุมเศร้าเพราะความไม่เหมือนใครของเธอ ดังนั้นเมื่อพ่อแม่ของเธอจึงหาวิธีเยียวยาจิตใจลูกสาวผู้น่าสงสารคนนี้
ดานิก้า (Danica) ป่วยเป็นโรคเดียวกันจูเลียน่า เธอถูกทิ้งที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ยูเครน เพราะหน้าตาที่แปลกประหลาดจึงไม่มีครอบครัวใครรับเธอไปเลี้ยง ซ้ำร้ายกว่านั้น ถ้าเธอมีอายุเกินกำหนดที่ทางบ้านเลี้ยงเด้กกำพร้าจะอุปการะได้เมื่อไหร่ เธอจะถูกไล่ออกจากบ้านเด็กกำพร้าและต้องไปใช้ชีวิตที่ข้างถนนเพียงลำพังไปตลอดชีวิต แต่เมื่อครอบครัวของจูเลียน่าทราบข่าวของดานิก้า ทั้งสองไม่ลังเลที่จะบินไปยูเครนเพื่อขอรับอุปการะเด็กน้อยที่น่าสงสารมาเป็นสมาชิกครอบครัวคนใหม่
พ่อแม่ของจูเลียน่ามั่นใจว่า ดานิก้าคือคนที่จะมาเติมเต็มชีวิตของจูเลียน่า เมื่อจูเลียน่าได้เจอดานิก้า เธอดีใจมากเหมือนเจอผู้ร่วมชะตาชีวิต ทั้งสองสนิมสนมกันมากเหมือนพี่น้องแท้ๆ และความเศร้าของจูเลียก็ค่อยๆหายไปเมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกับดานิก้า
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวความอบอุ่นของพ่อแม่ที่รักลูกแบบไม่มีข้อแม้ ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร เราพร้อมที่จะทุ่มเทให้ลูกได้เสมอ
ที่มา: www.firstcoastnews.com
บทความที่น่าสนใจ
แชร์ประสบการณ์ลูกป่วยเป็นมะเร็งสมองตั้งแต่แรกเกิด (ไม่ต้องกลัวนะคะลูกเรายังมีชีวิตอยู่)