ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่ลืมสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า?

พอฟันลูกเริ่มขึ้นเรียงกันเป็นเม็ดข้าวโพด รับประทานอาหารเป็นชิ้นๆ หยิบจับช้อนส้อมรับประทานอาหารเองได้แล้ว คุณแม่ก็เตรียมสร้างสรรค์สูตรเมนูอร่อยๆ รอไว้เพียบเลยใช่ไหมล่ะ แต่...อย่าเพิ่งใจร้อนนะคะคุณแม่ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของลูกยังไม่แข็งแรงพอ ของอร่อยบางอย่างอาจไปกระตุ้นให้เกิดปฎิกิริยาต่อร่างกายและทำให้ ลูกแพ้อาหาร ได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การแพ้อาหารพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ และพบมากในเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี คุณแม่จึงต้องเฝ้าสังเกตเรื่องการแพ้อาหารอย่างใกล้ชิดค่ะ

สาเหตุที่ ลูกแพ้อาหาร เกิดจากระบบการย่อยของเด็กยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ เมื่อลูกรับประทานอาหารบางอย่างเข้าไป อาจเกิดปฎิกิริยาต่อกระบวนการทำงานต่างๆ ของร่างกาย คุณแม่ต้องพยายามสังเกตความผิดปกติทั้งทางผิวหนัง การหายใจ การขับถ่ายของลูกน้อย หากเกิดขึ้นซ้ำๆ ทุกครั้งที่รับประทานอาหารชนิดนั้น ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจเช็คอาการหรือทำการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (skin test) หรือตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยต่อไปนะคะ

ปฎิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อลูกแพ้อาหาร

อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นสังเกตได้จาก ผิวหนัง มีผื่นแดงขึ้นตามตัว ผื่นคล้ายลมพิษ และรู้สึกคัน รวมไปถึงริมฝีปากหรือเปลือกตาบวม หรือเกิดขึ้นกับ ระบบทางเดินหายใจ เช่น อาหารคัดจมูก แน่นหน้าอก หายใจขัด หอบเหนื่อย และที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ปวดท้อง ถ่ายเหลว ถ่ายเป็นมูก มีเลือดปน และที่ต้องเฝ้าระวังให้ดีก็คือ ระบบทางเดินหัวใจและหลอดเลือด ลูกอาจจะรู้สึกเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม ความดันโลหิตต่ำ แม้จะมีอาการเพียงนิดเดียวก็อย่าวางใจนะคะ เพราะหากรับประทานอาหารชนิดนั้นเข้าไปอีก อาจทำให้ระบบรวนอย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันไม่ให้ลูกแพ้อาหาร

อาหารที่เป็นสาเหตุของอาการแพ้ ส่วนมากที่พบก็คือ แป้งสาลี ถั่วลิสง ไข่ขาว อาหารทะเล นมวัว เนื้อวัว ช็อกโกแลต เนยถั่ว น้ำผึ้ง แม้แต่ผักหรือผลไม้รสเปรี้ยวบางชนิด แต่ไม่ได้หมายความว่า ห้ามรับประทานอาหารที่เสี่ยงต่อการแพ้เหล่านี้ตลอดไปนะคะ เพียงแต่ให้แม่เริ่มป้อนไปทีละอย่าง ซึ่งโดยปกติร่างกายจะแสดงอาการออกมาภายใน 15 นาที – 1 ชั่วโมง อาหารบางอย่างอาจใช้เวลาในการย่อยนาน จึงแสดงอาการหลังจากรับประทานไปแล้ว 1-3 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ใดๆ ค่อยเพิ่มปริมาณมากขึ้น รับประทานซ้ำๆ สังเกตอาการไปอีกสัก 3 – 4 วัน ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็ถือว่าผ่าน จากนั้นค่อยเปลี่ยนไปทดลองอาหารชนิดอื่นบ้างค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แต่ถ้าลูกแพ้เนื้อสัตว์ชนิดใด ผัก ผลไม้ใด ให้งดรับประทานก่อนชั่วคราว รอจนลูกโตประมาณ 3 ขวบขึ้นไป ร่างกายแข็งแรงดีแล้วลองทดสอบดูอีกครั้ง ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ถ้าลูกแพ้ให้ลองรับประทาน นมแพะ ดู เพราะในนมแพะมีโปรตีนเบต้าเคซีนในปริมาณสูง เมื่อถูกย่อยแล้วจะแตกตัวเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว หมดปัญหาลูกท้องอืด แน่นท้อง ยิ่งไปกว่านั้น ในนมแพะยังมี CPP หรือ Casein Phosphopeptides ที่เป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุสำคัญต่าง ๆ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยนะ คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างของนมแพะก็คือ ช่วยส่งเสริมระบบขับถ่าย และระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายค่ะ เพราะอุดมไปด้วย พรีไบโอติก 2 ชนิด เช่น อินนูลิน โอลิโกฟรุคโตส ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ ทำให้ระบบทางเดินอาหารมีความสมดุล ไม่สะสมแบคทีเรียหรือเชื้อโรคไว้มากเกินไป จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ ท้องร่วง ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ

เรื่องแพ้อาหารนั้น นอกจากพิถีพิถันกับเมนูที่แม่ทำเองแล้ว เวลาพาครอบครัวออกไปรับประทานอาหารข้างนอกบ้าน อย่าลืมสังเกตส่วนประกอบในเมนูต่างๆ ที่สั่งมาให้เจ้าตัวเล็กด้วยนะคะ และระวังมือน้อยๆ แอบหยิบอาหารจานจากของคุณพ่อคุณแม่มารับประทานเองด้วยล่ะ พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และเลือกโปรตีนที่มีคุณภาพจากนมแพะให้ลูกน้อยรับประทานทุกวัน เท่านี้ก็ไม่ต้องพาไปพบคุณหมอบ่อยๆ แล้วค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team